กริ้งๆๆๆ......... กริ้งๆๆๆๆ
...ต้นกล้าเอื้อมมือไปที่หัวเตียง พยายามควานหานาฬิกา...แล้วปิดเสียงมัน ก่อนจะล้มตัวลงไปนอนต่อ...หวังให้เสียงนาฬิกานั้นปลุกเขาอีกครั้งใน 5 นาทีหลังจากนี้
กริ้งๆๆๆ......... กริ้งๆๆๆๆ
คราวนี้...ต้นกล้าสะลึมสะลือลุกขึ้น แล้วหันกลับไปปิดเสียงนาฬิกาปลุกอีกครั้ง...
กดรีโมทเปิดทีวีรับข่าวสารก่อนออกไปทำงานอย่างที่เขาทำเป็นกิจวัตรประจำวัน...ก่อนจะเดินตรงเข้าห้องน้ำ
...สายน้ำอุ่นๆ ที่ไหลผ่านเครื่องสี่เหลี่ยมในวันนี้ ช่วยบรรเทาความหนาวยามเช้าให้กับเขาได้เป็นอย่างดี
“อรุณสวัสดิ์...ต้นกล้า” เสียงเจ้ากระปุกออมสินทักทาย
“อรุณสวัสดิ์...กระปุก” ต้นกล้าทักทาย ก่อนก้าวออกมาจากห้องน้ำ “วันนี้ อากาศกำลังเย็นสบาย ว่าไหม?...กระปุก”
“ใช่! เห็นด้วย...กระปุกว่าคงใกล้หมดหน้าหนาวแล้วละ”
“คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ เพราะวันนี้ต้นปรับอุณหภูมิเครื่องทำน้ำอุ่นลงมาอีก”
“ว่าแต่วันนี้...ต้นกล้าต้องไปไหนหรือป่าว”
“ช่วงเช้าไม่มี แต่ตอนบ่ายมีสัมมนาอะไรสักอย่างที่ตลาดหลักทรัพย์” ต้นกล้าพูดพร้อมเงยหน้าคิดขณะกำลังเช็ดตัวอยู่
“สัมมนาอะไรเหรอ?” กระปุกถามต่อ
“อืมมม์...คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็น การลงทุนปีหนู...อะไรซักอย่าง นี่แหละ”
“น่าสนใจดีนะ มีสัมมนาดีๆ แนะนำการลงทุนในเราตั้งแต่ต้นปีแบบนี้...เอามาเล่าให้กระปุกฟังด้วยนะ”
“แหม!” ต้นกล้าลากเสียงยาวพร้อมกับหันไปทางกระปุก “กระปุกออมสินพูดได้อย่างกระปุกเนี้ยะ ต้องฟังอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ...คงไม่จำเป็นแล้วละมั้ง”แน่นอนว่าถ้ากระปุกพูดได้แล้วยังจะมีอะไรที่กระปุกไม่รู้อีก
“กระปุกก็อยากตามโลกในทันกับเขาบ้างนี่น่า...ยิ่งช่วงนี้ ต้นกล้าไม่ค่อยพากระปุกไปไหนมาไหนด้วยเลย”
“ถ้างั้น...วันนี้ก็ไปด้วยกันซะเลยซิ ไปนั่งฟังสัมมนาคนเดียวมันก็น่าเบื่อเหมือนกันนะ บางทีต้นอาจจะให้กระปุกฟังแทนก็ได้” ต้นกล้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่มีจุดประสงค์อะไรบางอย่างซ่อนไว้
“กระปุกว่าเรื่องการลงทุนปีนี้...มันคงไม่น่าเบื่อถึงขั้นทำให้ต้นกล้าหลับหรอกมั้ง”
“มันก็ไม่แน่นะ...!” ต้นกล้าพูด ก่อนจะหันไปแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานวันแรกของสัปดาห์
ต้นกล้าเดินสะพายกระเป๋าคู่ใจลงบันไดมา…เขาเดินตรงไปที่ห้องครัว
“สวัสดีตอนเช้าครับแม่...วันนี้มีอะไรกินบ้างครับ” เขาเดินไปโอบเอวแม่จากข้างหลัง แล้วก็เอียงหน้าหอมแก้มขวาของแม่ไปฟอดใหญ่ๆ
“ฉู่ฉี่ปลาทูจ๊ะ...”
“โฮ...น่ากินจังเลยครับแม่” ต้นกล้าก้มหน้าลงไปแล้วสูดกลิ่นหอมของฉู่ฉี่ปลาทู “นี่ถ้าแม่ไม่ตื่นมาทำกับข้าวใส่บาตรทุกเช้า สงสัยต้นคงไม่ได้กินของอร่อยๆ บำรุงสมองตอนเช้าแบบนี้แน่เลย”
“ไม่หรอกจ๊ะ...ถึงแม่จะไม่ได้ใส่บาตร ยังไงแม่ก็ทำกับข้าวอร่อยๆ ให้ลูกกินทุกเช้าอยู่แล้ว” คุณนายสุขใจพูดพลางถือข้าวเปล่ามาวางไว้ตรงหน้าต้นกล้า “ว่าแต่วันนี้จะไปไหนเหรอ...หอบข้าวของพะรุงพะรังเชียว”
“ไปฟังสัมมนาตอนบ่ายคับแม่” ต้นกล้าพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ ขณะเคี้ยวข้าวอยู่เต็มปาก
“แล้วไม่ทำงานเหรอลูก”
“อ๋อ...ไปกับหัวหน้าครับแม่ พอดีเขาเห็นว่าต้นกล้าสนใจเรื่องพวกนี้ เขาก็เลยชวนนะครับ”
“ดีแล้วลูก...ตั้งใจทำงานละวันนี้” คุณนายสุขใจอวยพรลูกชาย
หลังอาหารเช้ามื้ออร่อย ต้นกล้าก็สะพายเป้คู่ใจ แล้วเดินตรงไปกอดคุณนายสุขใจอีกครั้ง
“ไปนะครับแม่…หวัดดีครับ” ต้นกล้ายกมือไหว้
“จ๊ะ...โชคดีลูก”
ต้นกล้าเหวี่ยงเป้ขึ้นหลังเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากบ้านด้วยใบหน้าที่แจ่มใส กระปรี้กระเปร่า พร้อมสำหรับการทำงานวันแรกของสัปดาห์...
“กระปุก!...วันนี้เราไปรถไฟฟ้ากันนะ อากาศดีๆ แบบนี้ต้นไม่อยากหงุดหงิดกับรถติดๆ นะ”ต้นกล้าพูดพลางรูดซิปกระเป๋าคู่ใจ
กระปุกโผล่หน้าออกมา “ก็ดีนะ ช่วยชาติประหยัดน้ำมันได้อีกทาง”
“สมกับเป็นกระปุกออมสินจริงๆ” ต้นกล้าเหน็บ
แทบทุกครั้งที่ต้นกล้าเดินลงบันไดเลื่อนเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้ มันทำให้เขาฉุกคิดถึงเหตุการณ์เมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่เขาเจอกระปุกครั้งแรก ณ ที่แห่งนี้...ตอนนั้น เขาเห็นกระปุกออมสินใบหนึ่งตั้งอยู่ข้างกองขยะแถวตึกร้าง ซึ่งเป็นภาพที่เขาจำติดตาจนถึงวันนี้...ภาพเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ วิ่งเข้าไปหยิบกระปุกออมสินหวังจะเอาไปแทนกระปุกออมสินที่บ้าน ถึงแม้มันจะเก่าและถูกทิ้ง แต่เด็กอย่างเขาไม่คิดอะไร...รู้แต่ว่าเขาอยากได้เท่านั้นเอง
“แม่คับบบบบ...ต้นเก็บได้กระปุกออมสินอะคับ” ต้นกล้าวิ่งหน้าตาตื่น พร้อมกับยืนกระปุกออมสินให้แม่ดู “แม่ล้างให้ต้นหน่อยได้ไหมคับ ต้นจะเอาไปแทนอันเก่า”
“ไปเอาของใครมาละลูก” แม่ถาม
“ป่าวคับ...ผมเห็นมันวางอยู่ข้างกองขยะตรงนู้นนะคับแม่” ต้นชี้ไม้ชี้มือบอก
“กระปุกออมสินของลูกก็มีแล้วนะ แล้วจะเอาไปทำไมอีกละ” แม่นั่งลงตรงหน้าแล้วพูดต่อว่า “ถ้าลูกอยากได้อันใหม่เดี๋ยวแม่ซื้อให้เอง เพราะอันนี้มันเลอะเทอะแล้ว”
“ก็ผมอยากได้อันนี้นี่คับ...เพราะมันขยับได้ด้วย”
“กระปุกออมสินที่ไหนขยับได้กันละลูก” แม่หยิบกระปุกนั้นขึ้นมาดู
“ก็ตอนที่ผมถือมา เห็นมันขยับได้นี่คับ...” ต้นพูดพลางทำท่าขยับให้แม่ดู...แต่ตอนนี้กระปุกออมสินแข็งทื่อ ไม่ขยับเขยื้อนอย่างที่ต้นกล้าเห็นตอนถือมันมา “แต่มันขยับได้จริงๆ นะคับ” ต้นกล้ายืนยัน
“เอาละ เอาละ...แม่ล้างให้ก็ได้” คุณนายสุขใจยอมแพ้ เพราะเห็นแววตาลูกชายที่บ่งบอกถึงความอยากได้ประปุกออมสินตัวนี้เหลือเกิน “แต่ว่าถ้าแม่ล้างให้แล้ว ลูกต้องเอาไปแล้วต้องใช้ให้เป็นประโยชน์นะ”
“คับผม...ผมสัญญาว่าจะเอาเงินค่าขนมหยอดใส่กระปุกตัวนี้ทุกวันเลยคับ” ต้นกล้ากระโดดชูมือขึ้นสองข้าง...ด้วยสีหน้าเบิกบาน ก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดคุณนายสุขใจ “ขอบคุณคับแม่”
ด้วยความดีใจ...ต้นกล้าเอากระปุกออมสินที่แม่ล้างให้จนสะอาดแล้ว ไปวางไว้ข้างๆ กระปุกออมสินตัวเก่าที่พ่อซื้อไว้ให้...ก่อนจะก้าวขึ้นเตียง....ที่จริง กระปุกออมสินตัวนั้นไม่ได้เก่ามากมายอะไร เพียงแต่เปื้อนคราบสกปรกภายนอกเท่านั้น
“ต้นกล้า…ต้นกล้า...” เสียงเรียกนั้นดังมาจากโต๊ะวางของ
“คับแม่” ต้นกล้าสะลึมสะลือตอบขณะที่เขากำลังใกล้จะหลับเต็มที พลางลืมตาลุกขึ้นจากที่นอน แล้วหันไปทางประตูห้อง...ต้นกล้าไม่เห็นใคร
“ทางนี้...ต้นกล้า! ทางนี้”
ต้นหันไปตามเสียงที่ดังมาจากโต๊ะวางของข้างๆ ประตู...แสงของพระจันทร์ในคืนเต็มดวงที่ส่องตรงมายังโต๊ะตัวนั้น ทำให้ต้นกล้ามองเห็นเจ้าของเสียงนั้นได้อย่างชัดเจน...เขาเดินตรงไปยังกระปุกออมสิน
“กระปุกออมสินพูดได้” ต้นกล้าไม่มีอาการตกใจแม้แต่น้อย “ทำไมนายถึงพูดได้ละ…นายมาจากต่างดาวเหรอ” ต้นกล้าทำหน้าฉงน
"นายอย่ารู้เลย...เอาเป็นว่าฉันพูดได้ก็แล้วกัน"กระปุกออมสินตัดบท
"ถ้านายพูดได้แบบนี้ เราก็เป็นเพื่อนกันได้ซิ"
"ไม่มีปัญหา"
"งั้นเราเรียกนายว่า 'กระปุก' นะ"
"ไม่มีปัญหา"
ต้นกล้ากระโดดดีใจ! ที่ได้เพื่อนใหม่เป็นกระปุกออมสินพูดได้...เขาตัดสินใจว่าจะไปบอกให้แม่รู้ เพื่อยืนยันสิ่งที่เขาเห็นตอนถือมันมาจากถังขยะว่ามันขยับได้จริงๆ แถมคราวนี้มันยังพูดได้อีกด้วย...แต่เขาก็ต้องเปลี่ยนใจหลังจากคำพูดของกระปุก
"นายอย่าบอกเรื่องที่ฉันพูดได้ให้ใครรู้นะ" กระปุกทำเสียงเข้ม
"แม่ก็ห้ามบอกเหรอ!"
"ใช่...แม่ก็ห้ามบอก"
"แต่ฉันอยากยืนยันกับแม่ว่า นายนะขยับตัวได้จริงๆ แถมยังพูดได้อีกด้วย"
"ถือว่าฉันขอร้องละนะ...ต้นกล้า"
"ก็ได้..ฉันจะไม่บอกแม่เรื่องนี้ แต่นายจะยังเป็นเพื่อนกับฉันใช่ไหม?"
"ไม่มีปัญหา" 3 ครั้งแล้วที่ต้นกล้าพูดคำนี้
หลังจากคืนนั้น...'กระปุกออมสิน' ก็กลายเป็นเพื่อนคุยกับต้นกล้ามาโดยตลอด...และการที่เขาได้เพื่อนเป็นกระปุกออมสินพูดได้นี้เอง ทำให้เขาติดนิสัยการออมมาจนทุกวันนี้
....อ่านต่อฉบับหน้า