"เอวายเอฟ-เอ็มเอฟซี" ควงแขนจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยรับตรุษจีน โดยเอวายเอฟจ่ายปันผล "กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล" รอบที่ 3 หน่วยละ 0.40 บาท ขณะที่เอ็มเอฟซีเตรียมจ่ายปันผลให้ "กองทุนเปิดตะวันออกหนึ่ง"
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายปันผลกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล (AYFSDIV) ในอัตราหน่วยละ 0.40 บาท โดยกองทุนเปิดจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 สำหรับผู้ถือหุ้นในรอบระยะบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550-31 ธันวาคม 2550 ซึ่งบริษัทจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนและหยุดทำการขายเเละรับซื้อคืนหน่วยลงทุนชั่วคราวในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 และจะเปิดทำการปกติในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551
สำหรับกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผลมีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีเป็นลำดับแรก และหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต่ำถึงปานกลาง พร้อมกำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 12 ครั้ง โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานสิ้นสุดตามช่วงเวลาที่บริษัทจัดการเห็นสมควร ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิในงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน AYFSDIV ได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 2 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าต่อหน่วยรวม 0.80 บาท โดยมีการจ่ายเงินปันผลดังนี้ รอบที่1 ในอัตราหน่วยละ 0.40 บาท และรอบที่ 2 ในอัตราหน่วยละ 0.40 บาท
ขณะเดียวกัน สัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ของกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 พบว่า บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย 11.31% , กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท 8.55% , บมจ.เอ็ม บี เค 8.52% , บมจ.โกลว์ พลังงาน 6.54% , บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ 6.40% , บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ 6.08% , บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส 5.90% , บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) 5.68% , บมจ.ธ.ทิสโก้ 5.59% และบมจ.ศรีอยุธยาประกันภัย 5.19%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล ได้ให้ข้อมูลผลดำเนินการ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.12% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ 2.39% ผลการดำเนินการย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนอยู่ที่ 6.10% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ 16.20% และผลดำเนินงานย้อนหลัง1 ปีอยู่ที่ 0.00% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่มี 38.29%
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) รายงานว่า บริษัทเตรียมจ่ายปันผลกองทุนเปิดตะวันออกหนึ่ง สำหรับผู้ถือหุ้นในรอบระยะบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 - 31 มกราคม 2551 ซึ่งบริษัทจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนและหยุดทำการขายเเละรับซื้อคืนหน่วยลงทุนชั่วคราวในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 และจะเปิดทำการปกติในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2551
โดยกองทุนเปิดตะวันออกหนึ่งมีนโยบายการลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สิน สุทธิของกองทุนรวม ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุน โดยกำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า ร้อยละ 95 ของกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริง (realized) ในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน DE-1 ได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 1 ครั้ง ในอัตราหน่วยละ 0.25 บาท
ขณะที่ สัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ของกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล ณ วันที่ 25มกราคม 2551 พบว่า บมจ. ปตท. 14.56% , บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 10.86% , บมจ.ธนาคารกสิกรไทย 8.01% , บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย 7.17% , บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส 7.08% , บมจ.ธนาคารกรุงเทพ 6.32% , บมจ.บ้านปู 5.51% , บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ 4.52% , บมจ. ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่ 3.88% และบมจ.ปตท. เคมิคอล 2.66%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดตะวันออกหนึ่งได้ให้ข้อมูลผลดำเนินการ ณ วันที่ 25 มกราคม 2551 ว่า ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -14.29% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ -15.27% ผลการดำเนินการย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนอยู่ที่ -9.02% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ -12.03% และผลดำเนินงานย้อนหลัง1 ปีอยู่ที่ 24.10% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่มี 15.52%
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายปันผลกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล (AYFSDIV) ในอัตราหน่วยละ 0.40 บาท โดยกองทุนเปิดจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 สำหรับผู้ถือหุ้นในรอบระยะบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550-31 ธันวาคม 2550 ซึ่งบริษัทจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนและหยุดทำการขายเเละรับซื้อคืนหน่วยลงทุนชั่วคราวในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 และจะเปิดทำการปกติในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551
สำหรับกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผลมีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีเป็นลำดับแรก และหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต่ำถึงปานกลาง พร้อมกำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 12 ครั้ง โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานสิ้นสุดตามช่วงเวลาที่บริษัทจัดการเห็นสมควร ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิในงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน AYFSDIV ได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 2 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าต่อหน่วยรวม 0.80 บาท โดยมีการจ่ายเงินปันผลดังนี้ รอบที่1 ในอัตราหน่วยละ 0.40 บาท และรอบที่ 2 ในอัตราหน่วยละ 0.40 บาท
ขณะเดียวกัน สัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ของกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 พบว่า บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย 11.31% , กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท 8.55% , บมจ.เอ็ม บี เค 8.52% , บมจ.โกลว์ พลังงาน 6.54% , บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส์ 6.40% , บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ 6.08% , บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส 5.90% , บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) 5.68% , บมจ.ธ.ทิสโก้ 5.59% และบมจ.ศรีอยุธยาประกันภัย 5.19%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล ได้ให้ข้อมูลผลดำเนินการ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ว่า ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.12% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ 2.39% ผลการดำเนินการย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนอยู่ที่ 6.10% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ 16.20% และผลดำเนินงานย้อนหลัง1 ปีอยู่ที่ 0.00% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่มี 38.29%
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) รายงานว่า บริษัทเตรียมจ่ายปันผลกองทุนเปิดตะวันออกหนึ่ง สำหรับผู้ถือหุ้นในรอบระยะบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 - 31 มกราคม 2551 ซึ่งบริษัทจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนและหยุดทำการขายเเละรับซื้อคืนหน่วยลงทุนชั่วคราวในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 และจะเปิดทำการปกติในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2551
โดยกองทุนเปิดตะวันออกหนึ่งมีนโยบายการลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สิน สุทธิของกองทุนรวม ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารแห่งทุน โดยกำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า ร้อยละ 95 ของกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริง (realized) ในแต่ละงวดบัญชีที่จะจ่ายเงินปันผล ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน DE-1 ได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 1 ครั้ง ในอัตราหน่วยละ 0.25 บาท
ขณะที่ สัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ของกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล ณ วันที่ 25มกราคม 2551 พบว่า บมจ. ปตท. 14.56% , บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม 10.86% , บมจ.ธนาคารกสิกรไทย 8.01% , บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย 7.17% , บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส 7.08% , บมจ.ธนาคารกรุงเทพ 6.32% , บมจ.บ้านปู 5.51% , บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ 4.52% , บมจ. ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่ 3.88% และบมจ.ปตท. เคมิคอล 2.66%
ทั้งนี้ กองทุนเปิดตะวันออกหนึ่งได้ให้ข้อมูลผลดำเนินการ ณ วันที่ 25 มกราคม 2551 ว่า ผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -14.29% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ -15.27% ผลการดำเนินการย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนอยู่ที่ -9.02% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่ -12.03% และผลดำเนินงานย้อนหลัง1 ปีอยู่ที่ 24.10% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ที่มี 15.52%
