xs
xsm
sm
md
lg

ปี51หุ้นแกว่งตัวแนะหาจังหวะลงทุนRMF-LTF

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่มีกองทุนประเภทตราสารทุน อยู่ภายใต้การบริหารและจัดการ จำนวนมากมาย และมีหลายกองทุนที่มีผลการดำเนินงานติดอยู่ใน TOP 10 จากการจัดอันดับของลิปเปอร์ ในเบื้องต้นจึงขอสรุปภาวะตลาดตราสารทุนในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.60 จุด หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1.49% ในช่วงเวลาดังกล่าวดัชนีมีความผันผวนค่อนข้างรุนแรง SET Index ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเดือนตุลาคม ไปทำจุดปิดสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่ 915.03 จุด ในช่วงปลายเดือนตุลาคม

อย่างไรก็ตาม SET Index ถูกแทขายอย่างแรง ส่งผลให้ดัชนีปรับลดลงมาปิดที่ 791.71 จุด ในช่วงกลางเดือนธันวาคม ก่อนที่จะแกว่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของไตรมาส จากความคาดหวังว่า ความมั่นคงทางการเมืองจะปรับตัวดีขึ้น ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายเบาบาง การปรับลดลงของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม นั้นสืบเนี่องมาจากปัญหาสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้อยคุณภาพ (Sub-prime loans) ในสหรัฐ ซึ่งกองทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะกองทุนประเภท Hedge fund เทขายเงินลงทุนจากตลาดทุนทั่วโลก เพื่อรองรับการไถ่ถอนหน่วยลงทุนที่ไปลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพ (Sub-prime Mortgage) ที่เกิดปัญหาหลังจากหลักประกันมีมูลค่าลดลง จนกระทั่งเริ่มส่งผลกระทบต่อการผิดนัดชำระหนี้จากลูกหนี้ที่ด้อยคุณภาพ และเป็นผลให้ผู้ลงทุนเกิดความกังวลต่อภาวะหนี้สูญจึงเร่งไถ่ถอนหน่วยลงทุน ซึ่งส่งผลให้มีความกังวลถึงการบริโภค โดยเฉพาะในสหรัฐฯว่าจะอ่อนตัวลง อีกทั้งการที่ค่าเงินสกุลเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับ JPY/USD 107 ส่งผลกระทบต่อกองทุนเก็งกำไรที่กู้ยืมเงินเยน แหล่งดอกเบี้ยเงินกู้ระดับต่ำ เพื่อเก็งกำไรส่วนต่างดอกเบี้ย ต้องทำการปิดสถานะ Yen Carry Trade

ในช่วงไตรมาสที่ 4 นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิประมาณ 550 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันเป็นผู้ซื้อสุทธิประมาณ 1.5 พันล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปเป็นผู้ขายสุทธิประมาณ 950 ล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโตมากที่สุดคือกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.11% ตามมาด้วยกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ปรับตัวดีขึ้น 9.18%

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงไตรมาส 1 ปี 2551 นี้ คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะปรับตัวแบบ Sideways โดยมีความผันผวนสูง และปรับตัวขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจโลก และการเมืองในประเทศ ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ ความมั่นคงทางการเมือง และความมั่นใจของผู้บริโภคที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ น่าจะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนสูง ดังนั้น นักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนประเภทตราสารทุน โดยเฉพาะกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ควรหาจังหวะในการลงทุน ไม่ต้องรอใกล้สิ้นปี

สำหรับผลตอบแทนนับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม- 28 ธันวาคม 2550 (year to date) กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 1 เท่ากับ 39.06 % เกณฑ์มาตรฐาน AIMC อยู่ที่ 15.69% กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์เพื่อการเลี้ยงชีพ ( KSRMF) เท่ากับ 36.87% กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว เท่ากับ39.51% กองทุนเปิดกรุงไทยชาริอะฮ์หุ้นระยะยาว 35.30% ในขณะที่ SET Index อยู่ที่ 26.22% ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว 70/30 นับจากวันที่ 2 ก.พ. – 28ธ.ค. 50 อยู่ที่ 45.02% SET index อยู่ที่ 27.96% และกองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว SET 50 นับจากวันที่ 28 มิ.ย. – 28 ธ.ค. 50 เท่ากับ 14.42% SET index อยู่ที่ 10.34%
กำลังโหลดความคิดเห็น