xs
xsm
sm
md
lg

มุมมองรุ่นใหญ่ "รอง เค้ามูลคดี" เงินทองต้องรู้จักใช้...กินอยู่อย่างพอเพียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ทุกวันนี้ในช่วงที่สินค้าต่างๆมีการปรับราคาแพงขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนรู้จักที่จะออมเก็บและอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแบบอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตรัสไว้ ก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขได้ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องรู้จักประมาณตัวของเราเองว่าในแต่ละเดือนควรใช้ประมาณไหนและควรเหลือเก็บเท่าไหร่ โดยไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขและไม่เครียดอีกด้วย”

ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ทุกๆคนยอมรับ เช่นเดียวกับความเก๋า ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความเกรงขาม ฉบับนี้ ทีมกองบรรณาธิการได้รับเกียรติจากนักแสดงรุ่นเก๋าอย่าง**รอง เค้ามูลคดี** ที่ได้ให้โอกาส “ผู้จัดการคุยกับนักลงทุน” เข้าไปสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวของการทำงานว่าปัจจุบันมีผลงานอะไรบ้าง และที่จะลืมเสียมิได้นั้นคือเรื่องของการจัดสรรเงินว่ามีมุมมองเป็นอย่างไรกันบ้าง...

อารองเริ่มเปิดประเด็นด้วยผลงานปัจจุบันว่า ตอนนี้มีงานละครอยู่ 3 เรื่อง ๆ แรกเป็นละครซิทคอมเรื่อง “นัดกับนัด” ที่ออกอากาศทางช่อง 9 เวลา 5 โมงเย็น ทุกวันอาทิตย์ โดยแสดงร่วมกับ บี๊ (สุกฤษฎ์) และอาร์ (อาณัตพล) รวมถึงละครเรื่อง “ดั่งดวงหฤทัย ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 7 ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลาหลัง 22.25 น. โดยในเรื่องนี้ได้รับบทเป็น เจ้าคุณธรรมการพันธุรัฐ และอีกหนึ่งเรื่องชื่อ “สามเณรใจสิงห์ ที่ออกอากาศทางช่อง 3
ส่วนงานนอกวงการบันเทิงนั้นอารองมีธุรกิจที่ได้ร่วมกันทำกับครอบครัวหลายอย่างด้วยกัน ประกอบไปด้วยบริษัทเจนวายทัวร์ ซึ่งเป็นบริษัททัวร์นำเที่ยว ที่เปิดมาได้ประมาณ 2 – 3 ปีแล้ว เป็นบริษัททัวร์ที่รับงานแบบครบวงจร รวมถึงธุรกิจบ้านสมุนไพรสกุลรัตน์ ที่เปิดมาได้กว่า 5 ปี ซึ่งธุรกิจบ้านสมุนไพรนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาก โดยมีสาขาที่เปิดเป็นของตัวเองแล้วกว่า 5 สาขา และยังมีตัวแทนที่เปิดเป็นแฟรนไชส์ทั่วประเทศอีก 40-50 สาขา โดยในอนาคตกิจการบ้านสมุนไพรจะเปิดแฟรนไชส์เพิ่มให้มากขึ้นอีก นอกจากนี้แล้วยังเป็นตัวแทนจำหน่ายอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่งอีกด้วย

อารองบอกว่า การจะทำงานให้ประสบความสำเร็จทั้งงานในวงการบันเทิงและงานนอกวงการบันเทิงนั้น เราต้องมีความรับผิดชอบต่องานนั้น ๆ เพราะการทำงานส่วนใหญ่แล้วต้องทำงานกับคนหมู่มากจึงต้องให้เกียรติและต้องเคารพเพื่อร่วมงานด้วย รวมถึงการตรงต่อเวลาในการทำงานนับเป็นสิ่งสำคัญอีกเช่นกัน
“ทำงานในวงการบันเทิงมากว่าหลายสิบปีแล้ว การจะอยู่ในตรงนี้ได้เราต้องมีความรับผิดชอบต่องานนั้น ๆ ให้มากที่สุด และต้องเคารพเพื่อนร่วมงานทุกคน โดยให้เกียรติกับทุกคน ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะมีอายุน้อยกว่าเราก็ตาม เพราะนั้นคือการทำงาน เราจะคิดว่าเราอายุมากจะทำอย่างไรก็ได้นั้นไม่ใช่ความคิดของอาโดยเด็ดขาด” อารองบอก

ในเรื่องของการบริหารเงินออมนั้นอารองบอกว่า ไม่ได้มีการบริหารอะไรมากมายเพียงแต่รู้จักใช้จ่ายให้เป็น เพียงเท่านั้น และที่เหลือก็นำฝากไว้กับทางธนาคารบ้าง และมีบ้างที่แบ่งเงินบางส่วนทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพด้วย ส่วนในเรื่องของการเล่นหุ้นนั้น ยังไม่คิดที่จะเล่น เนื่องจากคนเล่นหุ้นต้องมีเวลาให้กับการลงทุนในประเภทนี้ เพื่อศึกษาก่อนการลงทุนและติดตามข่าวคราวอยู่เสมอ เพราะการเล่นหุ้นนั้นมีความเสี่ยงพอสมควร

“ในแต่ละวันอาจะมีเงินติดตัวไปทำงานไม่เกินวันละ 1,000 บาทเท่านั้น และเงินตรงนี้ในแต่ละวันก็ยังใช้ไม่หมดยังมีเหลือเก็บอีกด้วย นอกจากนี้ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีเช่นนี้ทางครอบครัวจึงมักจะชอบจัดกิจกรรมสังสรรค์กันในครอบครัวมากกว่าที่จะไปเที่ยวข้างนอก ซึ่งก็มีความสุขไปอีกแบบหนึ่ง” อารองบอก

สำหรับเมื่อว่างจากการทำงานอารองมักจะชอบชวนครอบครัวไปทำบุญกันที่วัดทุ่งเศรษฐี หรือวัดลาดพร้าว ซึ่งทั้งสองวัดนี้ครอบครัวจะชอบไปทำบุญกันบ่อยมาก นอกจากการทำบุญแล้ว อารองยังชอบพักผ่อนและผ่อนคลายด้วยการร้องคาราโอเกะอยู่กับครอบครัวที่บ้านอีกด้วย โดยอารองให้เหตุผลว่าการพักผ่อนที่ดีที่สุดนั้นคือการได้อยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาตามประสาพ่อแม่ลูกนั้นเอง

อารองบอกเสริมว่า “ในส่วนของการทำประกันชีวิตและสุขภาพในจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเรามีประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยการสูญเสียลูกชายไป จึงทำให้ครอบครัวมีสติมากขึ้น จึงต้องทำประกันชีวิตและสุขภาพ เพราะเมื่อเวลาเจ็บไข้หรือมีเหตุฉุกเฉินอะไรก็ตามในสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็ยังคงมีในส่วนนี้ที่มาช่วยเสริมเราได้”

นอกจากนี้ ในส่วนของประสบการณ์ในการจัดสรรเงินนั้นมีบางส่วนบางเรื่องที่ได้นำมาสอนลูก ๆ บ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากลูก ๆ ทุกคนจะมีวินัยเรื่องของการออมเงินอยู่แล้ว โดยลูก ๆ จะรู้จักการใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะ **ยุ้ย – ปัทมวรรณ** ลูกสาวคนเล็กนั้นไม่ต้องพูดถึง ลูกสาวคนนี้มีระเบียบเรื่องของการใช้จ่ายเงินเป็นอย่างมาก เงินทุกบาทยุ้ยจะใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า จนทำให้พ่อแม่สบายใจและหายห่วงได้

สุดท้ายอารองฝากบอกว่า ทุกวันนี้ในช่วงที่สินค้าต่างๆมีการปรับราคาแพงขึ้นไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน หรือแม้แต่กระทั่งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนรู้จักที่จะออมเก็บและอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแบบอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตรัสไว้ ก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขได้ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องรู้จักประมาณตัวของเราเองว่าในแต่ละเดือนควรใช้ประมาณไหนและควรเหลือเก็บเท่าไหร่ โดยไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขและไม่เครียดอีกด้วย

ชื่อ นามสกุล       รอง (คเณศ) เค้ามูลคดี
วันเดือนปีเกิด      26 กันยายน 2490
จบการศึกษา       จากสถาบันสากลการบัญชี
ผลงานปัจจุบัน     ละครนัดกับนัดทางช่อง 9 ,

                          ละครดั่งดวงหฤทัย ทางช่อง 7
                          ละครสามเณรใจสิงห์ทางช่อง 3


กำลังโหลดความคิดเห็น