รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนเตรียมทำการจ่ายเงินปันผลให้กับกองทุนเปิดธนชาตหุ้นระยะยาวปันผล (LTFD) และกองทุนเปิดอำนวยทรัพย์ปันผล (ASD)
โดยกองทุนเปิดธนชาตหุ้นระยะยาวปันผล ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติพิจารณาให้จ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2551 สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2550 ของกองทุนดังกล่าว ในอัตราหน่วยละ 1.00 บาท ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อ ปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 8 มกราคม 2551 โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 มกราคม 2551 ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำการจ่ายเงินปันผลไปแล้วเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2550 ในอัตรา 0.23 บาทต่อหน่วย
ขณะที่กองทุนเปิดอำนวยทรัพย์ปันผล ที่ประชุมมีมติพิจารณาให้จ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2551 สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยละ 0.35 บาท ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 4 มกราคม 2551 โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 มกราคม 2551 ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายไปแล้วในอัตราหน่วยละ 0.30 บาท ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2550 รวมเป็นเงินปันผลสำหรับรอบระยะเวลาดังกล่าวหน่วยละ 0.65 บาท
สำหรับกองทุนเปิดธนชาติหุ้นระยะยาวปันผล เป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (กองทุนเปิด) ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการ และมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อครบระยะเวลาของการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะแก้ไขโครงการเปลี่ยนเป็นกองทุนรวมทั่วไปประเภทตราสารแห่งทุนและแก้ไขชื่อกองทุนโดยถือว่าได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว โดยมีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะมุ่งเน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ขณะเดียวกันกองทุนอาจมีการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ หรืออาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนตามที่กฎหมายกำหนดให้ลงทุนได้ และอาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศบางส่วน วงเงิน 3.75 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 15 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นอกจากนี้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนภายในปี 2559 และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เท่านั้นที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว และมี ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็น ผู้ดูแลผลประโยชน์
ทั้งนี้ ณ วันที่ 7 มกราคม กองทุน LTFD มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น 316.77 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 13.03 บาทต่อหน่วย ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนกองทุนอยู่ที่ –3.79% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐานที่ –5.16% ย้อนหลัง 6 เดือน 0.05% เทียบกับดัชนีมาตรฐานที่ –2.89% และย้อนหลัง 1 ปีกองทุนอยู่ที่ 35.01% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 28.67% โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2550 ประกอบด้วย พลังงาน 32.80% ธนาคาร 23.80% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 8.48% เคมีภัณฑ์และพลาสติก 7.00% สื่อสาร 5.85% และอื่น ๆ 16.47% รวมทั้งสิ้น 94.66%
ส่วนกองทุนเปิดอำนวยทรัพย์ปันผล เป็นกองทุนประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (กองทุนปิด) ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการ โดยมีนโยบายการลงทุนทั้งในตราสารแห่งทุนและ/หรือตราสารแห่งหนี้ ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ของตลาดทุนและตลาดเงินในแต่ละช่วงเวลา โดยขึ้นกับการตัดสินใจของผู้จัดการกองทุน(เปลี่ยนเป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น ณ วันที่ 26 มกราคม 2544) มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง เมื่อกองทุนมีกำไรจากการดำเนินงาน ซึ่งมี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
ณ วันที่ 7 มกราคม 2551 กองทุนASD มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น 1,664.93 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 5.26 บาทต่อหน่วย ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนกองทุนอยู่ที่ –5.46% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ –2.24% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -0.41% เทียบกับดัชนีมาตรฐานที่ –0.55% และย้อนหลัง 1 ปีกองทุนอยู่ที่ 33.70% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 16.80% สำหรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นคิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 ประกอบด้วยพลังงาน 36.93% ธนาคาร 24.55% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 9.54% เคมีภัณฑ์และพลาสติก 7.97% สื่อสาร 3.25% และอื่น ๆ 13.47% รวมทั้งสิ้น 95.71%
โดยกองทุนเปิดธนชาตหุ้นระยะยาวปันผล ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติพิจารณาให้จ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2551 สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2550 ของกองทุนดังกล่าว ในอัตราหน่วยละ 1.00 บาท ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อ ปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 8 มกราคม 2551 โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 มกราคม 2551 ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำการจ่ายเงินปันผลไปแล้วเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2550 ในอัตรา 0.23 บาทต่อหน่วย
ขณะที่กองทุนเปิดอำนวยทรัพย์ปันผล ที่ประชุมมีมติพิจารณาให้จ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2551 สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 25 ธันวาคม 2550 ในอัตราหน่วยละ 0.35 บาท ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 4 มกราคม 2551 โดยกำหนดให้จ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 มกราคม 2551 ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายไปแล้วในอัตราหน่วยละ 0.30 บาท ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2550 รวมเป็นเงินปันผลสำหรับรอบระยะเวลาดังกล่าวหน่วยละ 0.65 บาท
สำหรับกองทุนเปิดธนชาติหุ้นระยะยาวปันผล เป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (กองทุนเปิด) ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการ และมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อครบระยะเวลาของการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะแก้ไขโครงการเปลี่ยนเป็นกองทุนรวมทั่วไปประเภทตราสารแห่งทุนและแก้ไขชื่อกองทุนโดยถือว่าได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุนแล้ว โดยมีนโยบายการลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งจะมุ่งเน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ขณะเดียวกันกองทุนอาจมีการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ หรืออาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนตามที่กฎหมายกำหนดให้ลงทุนได้ และอาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศบางส่วน วงเงิน 3.75 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 15 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นอกจากนี้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนภายในปี 2559 และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เท่านั้นที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีของการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว และมี ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็น ผู้ดูแลผลประโยชน์
ทั้งนี้ ณ วันที่ 7 มกราคม กองทุน LTFD มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น 316.77 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 13.03 บาทต่อหน่วย ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนกองทุนอยู่ที่ –3.79% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐานที่ –5.16% ย้อนหลัง 6 เดือน 0.05% เทียบกับดัชนีมาตรฐานที่ –2.89% และย้อนหลัง 1 ปีกองทุนอยู่ที่ 35.01% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 28.67% โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2550 ประกอบด้วย พลังงาน 32.80% ธนาคาร 23.80% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 8.48% เคมีภัณฑ์และพลาสติก 7.00% สื่อสาร 5.85% และอื่น ๆ 16.47% รวมทั้งสิ้น 94.66%
ส่วนกองทุนเปิดอำนวยทรัพย์ปันผล เป็นกองทุนประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (กองทุนปิด) ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการ โดยมีนโยบายการลงทุนทั้งในตราสารแห่งทุนและ/หรือตราสารแห่งหนี้ ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และสถานการณ์ของตลาดทุนและตลาดเงินในแต่ละช่วงเวลา โดยขึ้นกับการตัดสินใจของผู้จัดการกองทุน(เปลี่ยนเป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่น ณ วันที่ 26 มกราคม 2544) มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ไม่น้อยกว่าปีละ 1 ครั้ง เมื่อกองทุนมีกำไรจากการดำเนินงาน ซึ่งมี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
ณ วันที่ 7 มกราคม 2551 กองทุนASD มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น 1,664.93 ล้านบาท มูลค่าหน่วยลงทุน 5.26 บาทต่อหน่วย ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนกองทุนอยู่ที่ –5.46% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ –2.24% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -0.41% เทียบกับดัชนีมาตรฐานที่ –0.55% และย้อนหลัง 1 ปีกองทุนอยู่ที่ 33.70% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 16.80% สำหรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นคิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งสิ้น ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 ประกอบด้วยพลังงาน 36.93% ธนาคาร 24.55% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 9.54% เคมีภัณฑ์และพลาสติก 7.97% สื่อสาร 3.25% และอื่น ๆ 13.47% รวมทั้งสิ้น 95.71%