xs
xsm
sm
md
lg

วรรณรั้งแชมป์กองหุ้นต่างประเทศโชว์ผลตอบแทนรอบ11เดือนปีหมู21.74%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในช่วงปี 2550 ที่ผ่านมา กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ถือเป็นกองทุนที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนในบ้านเราพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหุ้นที่ลงทุนในเซกเตอร์ฟันด์ รวมถึงกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ๆ 3 เดือนและ 6 เดือนที่ลงทุนในตราสารหนี้ของสถาบันการเงินในยุโรป

และแม้ว่าในช่วงครึ่งปีหลัง การลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะกองทุนที่ลงทุนในหุ้น อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ในสหรัฐอเมริกา ที่ฉุดราคาหุ้นทั่วโลกรูดลงไปตามๆ กัน แต่ก็ยังมีนักลงทุนส่วนหนึ่งที่มองเห็นโอกาสดี ใส่เงินลงทุนเพิ่มเข้าไปซื้อของถูกเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาวหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้น...ซึ่งหากมองย้อนกลับไปถึงผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีแล้ว ถือว่ากองทุนเอฟไอเอฟเองก็ให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจพอสมควร

"Best of Fund" ฉบับนี้ จึงพาไปตามดูผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นต่างประเทศซึ่งรายงานโดยลิปเปอร์ (ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2550) กันว่า ภาวะการลงทุนที่ค่อนข้างผันผวนระดับหนึ่งในช่วง 11 เดือนของปี 2550 จะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของกองทุนต่างประเทศอย่างไรบ้าง และกองทุนของค่ายไหน จะโชว์ฝีมือดีที่สุดใน 10 อันดับแรก

สำหรับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมาเป็นอันดับ 1 ได้แก่ กองทุนเปิดวรรณเอเอ็ม โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอควิตี้ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 21.74% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 11.93% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 15.10% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 27.30%

อันดับ 2 กองทุนเปิดอเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ ของบลจ.อเบอร์ดีน ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 19.80% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 11.68% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 9.77% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 22.70%

อันดับ 3 กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ของบลจ.ทหารไทย ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 16.61% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 15.86% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 16.05% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 14.34%

อันดับ 4 กองทุนเปิดธนชาตอินฟราสตรัคเจอร์ แอนด์ แน็ชเชอรัล รีซอร์ส ฟันด์ ออฟ ฟันด์ ของบลจ.ธนชาต ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 13.07% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 9.42% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 6.25% และย้อนหลัง 1 ปี
ให้ผลตอบแทน 14.10%

อันดับ 5 กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย ออล เอเชีย อีควิตี้ ของบลจ.ไอเอ็นจี ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 9.51% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 8.00% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.39% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 15.31%

อันดับ 6 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ แพลทตินัม โกลบอล ฟันด์ ของบลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 8.99% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.13% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.94% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 13.75%

อันดับ 7 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล อัลฟ่า ฟันด์ ของบลจ. เอ็มเอฟซี ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 7.80% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 4.27% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 1.04% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 11.98%

อันดับ 8 กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล โกรว์ธ ของบลจ.ยูโอบี (ไทย) ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.69% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 5.77% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 2.50% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 9.18%

อันดับ 9 กองทุนเปิดอเบอร์ดีน เวิลด์ ออพพอร์ทูนิตี้ส์ ฟันด์ ของบลจ. อเบอร์ดีน ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 6.44% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 7.57% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.06% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 9.84%

และอันดับ 10 กองทุนเปิดทิสโก้ โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ ของบลจ.ทิสโก้ โดยกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 0.07% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.91% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -4.65% และย้อนหลัง 1 ปีให้ผลตอบแทน 1.66%

เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1

สำหรับกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มโกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอคควิตี้ เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารแห่งทุนที่ลงทุนในประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคต่างๆ ของโลก (Emerging Markets) เช่น ภูมิภาคเอเชีย ยุโรปตะวันออก และละตินอเมริกา เช่น จีน อินเดีย เกาหลี ไต้หวัน อิสราเอล รัส เซีย สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี ตุรกี บราซิล เม็กซิโก อาร์เจนตินา เวเนซุเอลา ชิลี ฯลฯ ทั้งที่จดทะเบียนในประเทศที่เป็นตลาด เกิดใหม่และที่จดทะเบียนในประเทศที่พัฒนาแล้ว

ทั้งนี้ กองทุนยังสามารถลงทุนในหน่วยลงทุนตราสารแห่งทุนที่มี นโยบายลงทุนในประเทศที่พัฒนาแล้วได้ด้วย โดยกองทุนจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโดยเฉลี่ยใน รอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยในช่วงแรกจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมซึ่งบริหารและจัดการ หรือแนะนําโดยบริษัทจัดการลงทุนใน ต่างประเทศชั้นนําของโลกจํานวน 2 บริษัท คือ
1. IXIS Asset Management และ 2. Russell Investment Group
โดยการลงทุน ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 ประกอบด้วย
1. IXIS AMA Emerging Asia Class I Cap USD
2. IXIS Hansberger Emerging Latin America USD RC
3. IXIS AM Emerging EUROPE USD
4. Emerging Markets Fund A Accum
5. IXIS Hansberger Global Emerging Market Fund
6. Absolute Asia AM Greater China Renaissa USD - Class I
7. IXIS Emerging EUROPE EUR Class I
8. The Pacific Basin Equity Fund
9. IXIS AMA Pacific Rim Equities USD - Class IC Shares
10. Total Saving + P/N
11. Total Other Asset
12. Total Other Debt
กำลังโหลดความคิดเห็น