สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยตัวเลขยานยนต์ไฟฟ้าเดือนพฤศจิกายน 2568 เติบโตแข็งแกร่งทุกเซกเมนต์ ทั้ง BEV, HEV และ PHEV ชี้ปัจจัยหลักมาจากมาตรการสนับสนุนภาครัฐและการเร่งผลิตในประเทศเพื่อชดเชยการนำเข้า คาดสิ้นปีตลาดยังคึกคักต่อเนื่องแม้ภาพรวมการส่งออกรถยนต์สันดาปจะยังเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในเดือนพฤศจิกายน 2568 เริ่มส่งสัญญาณบวกชัดเจน โดยมีการผลิตรถยนต์รวม 130,222 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11.06% ผลักดันโดยการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นถึง 1,974.14% เพื่อชดเชยโควตานำเข้าในช่วงปี 2565–2566 ตามเงื่อนไขของรัฐบาล (จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,341,714 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2567 ร้อยละ 1.64 )
สรุปยอดจดทะเบียนป้ายแดง (เดือนพฤศจิกายน 2568)
ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ยังคงได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ:
-BEV (รถไฟฟ้า 100%): จดทะเบียนใหม่ 12,436 คัน (เพิ่มขึ้น 69.11%) โดยกลุ่มรถยนต์นั่งโตแรงที่สุดเกือบ 100%
-HEV (ไฮบริด): จดทะเบียนใหม่ 10,912 คัน (เพิ่มขึ้น 29.77%) สะท้อนความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่น
-PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด): จดทะเบียนใหม่ 1,072 คัน (เพิ่มขึ้น 39.40%)
ภาพรวม 11 เดือน (ม.ค. - พ.ย. 2568)ยอดจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ต้นปีสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานสะอาดมากขึ้นอย่างรวดเร็ว:
ประเภทรถยนต์ไฟฟ้า
-BEV ยอดจดทะเบียนสะสม 11 เดือน 129,044 คัน อัตราการเติบโต (YoY) +44.28%
-HEV ยอดจดทะเบียนสะสม 11 เดือน 129,324 คัน อัตราการเติบโต(YoY) + 6.68%
-PHEV ยอดจดทะเบียนสะสม 11 เดือน 17,547 คัน อัตราการเติบโต (YoY) +98.23%
หากนับรวมรถไฟฟ้าทุกคันที่วิ่งบนถนนเมืองไทยในปัจจุบัน (จดทะเบียนสะสมทั้งหมด ยอดรวม ณ 30 พ.ย. 2568) พบว่า
-BEV สะสม: 354,480 คัน (โตขึ้น 60.81%)
-HEV สะสม: 596,945 คัน (โตขึ้น 28.75%)
-PHEV สะสม: 80,528 คัน (โตขึ้น 28.50%)
ทิศทางสิ้นปี 2568 และแนวโน้มปีหน้า
ส.อ.ท. ประเมินว่าในช่วงเดือนสุดท้ายของปี ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าจะยังคงขยายตัวได้ดี จากแคมเปญกระตุ้นยอดขายในงานมหกรรมยานยนต์ (Motor Expo) รวมถึงการที่ค่ายรถต่าง ๆ เริ่มส่งมอบรถที่ผลิตในไทยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมตลาด EV ในประเทศจะสดใส แต่ในภาคการผลิตรวม (ม.ค.-พ.ย.) ยังมียอดลดลงเล็กน้อยที่ 1.64% เนื่องจากผลกระทบจากยอดส่งออกรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปที่ชะลอตัวตามสภาวะเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ตั้งเป้าเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์รวมในปีหน้า (2569) ไว้ที่ประมาณ 1.45 ล้านคัน โดยมีรถยนต์อัจฉริยะและพลังงานสะอาดเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอยากให้ผมช่วยเจาะลึกข้อมูลในส่วนไหนเป็นพิเศษไหมครับ? เช่น ยอดขายแยกตามยี่ห้อ (หากมีข้อมูลเพิ่มเติม) หรือวิเคราะห์ผลกระทบจากมาตรการทางภาษี


