Mercedes-Benz เปิดตัว CLA Shooting Brake เจเนอเรชันที่ 3 พร้อมประเดิมด้วยขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100% ขับขี่ไกลสุดถึง 761 กม. ชาร์จไวสุด 310 กม. ภายใน 10 นาที ก่อนตามมาด้วยขุมพลังไมลด์ไฮบริด 48V ต้นปีหน้า
ภายหลังจากที่มีการเปิดตัว Mercedes-Benz CLA ตัวถังซาลูน 4 ประตูไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดค่ายดาวสามแฉกก็ได้เผยโฉมตัวถังแบบ Shooting Brake 5 ประตูออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถือเป็นรถ Shooting Brake ขุมพลังไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์อีกด้วย
ดีไซน์ด้านหน้าไปจนถึงเสา B-pillar ของรุ่น Shooting Brake ถูกถอดแบบมาจากรุ่น 4 ประตูทั้งหมด มาพร้อมกระจังหน้าตกแต่งด้วยไฟ LED สัญลักษณ์ดาวสามแฉกจำนวนมากถึง 142 ดวง พร้อมไฟท้ายรูปดาวสามแฉกตกแต่งด้วยแถบไฟเชื่อมเข้าหากันทั้งสองข้าง
CLA Shooting Brake ใหม่ ชูจุดขายด้วยหลังคากระจกพาโนรามิกที่มีความยาวจากหน้าจดท้าย สามารถปรับความทึบแสงด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อลดปริมาณแสงแดดเข้ามายังห้องโดยสาร อีกทั้งยังตกแต่งด้วยสัญลักษณ์รูปดาวสามแฉกจำนวน 158 ดวง ทำงานควบคู่กับไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารเพื่อส่องสว่างยามค่ำคืน
ห้องโดยสารยังได้รับการขยายพื้นที่เพื่อความสบายในการโดยสารทั้ง 5 ที่นั่ง โดยมีการยกแนวหลังคาให้สูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย พร้อมขยายฐานล้อเพิ่มขึ้น 61 มม. เป็น 2,790 มม. พร้อมด้วยห้องเก็บสัมภาระท้ายที่สามารถขยายได้สูงสุด 1,290 ลิตร เมื่อพับพนักพิงเบาะหลังลง เสริมด้วยห้องเก็บสัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้า (Frunk) อีก 101 ลิตร
CLA Shooting Brake ยังเป็นรุ่นที่ 2 ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ MB.OS สามารถเชื่อมต่อ Mercedes-Benz Intelligent Cloud เพื่อรองรับการอัปเดตผ่านออนไลน์ได้ อีกทั้งยังมีระบบ AI บนพื้นฐานของ ChatGPT4o และ Microsoft Bing ที่สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต พร้อมโต้ตอบผ่าน MBUX Virtual Assistant ได้
ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งหน้าจอ MBUX Superscreen ที่ประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว จอกลางขนาด 14 นิ้ว และจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 14 นิ้ว เพื่อรับชมคอนเทนต์ความบันเทิงจากแพล็ตฟอร์มต่างๆ เช่น Disney+ และ RIDEVU หรือจะเล่นเกมออนไลน์ผ่านระบบคลาวด์ Boosteroid ที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อใช้เป็นจอยสำหรับควบคุมได้
ด้านขุมพลังของ CLA Shooting Brake ประเดิมด้วย 2 รุ่นย่อย คือ CLA 250+ ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 272 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
อีกรุ่นเป็น CLA 350 4MATIC ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุด 354 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 515 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. เท่ากับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง
ทั้งสองรุ่นติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 85 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยรุ่น CLA 250+ Shooting Brake ขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 761 กม. (WLTP) และรุ่น CLA 350 4MATIC Shooting Brake ระยะทางขับขี่ 730 กม. (WLTP) พร้อมสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จด่วน 320 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จเพียง 10 นาที เพิ่มระยะทางขับขี่มากถึง 310 กม. (รุ่น CLA 250+ Shooting Brake)
นอกจากนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังมีแผนเตรียมเปิดตัวรุ่นไมลด์ไฮบริด 48 โวลต์ ที่รวมเอามอเตอร์ไฟฟ้าและอินเวอร์เตอร์เข้ากับชุดเกียร์แบบคลัตช์คู่ 8 จังหวะ (8F-eDCT) ช่วยให้สามารถถ่ายทอดกำลังจากมอเตอร์ได้ทุกย่านความเร็ว และยังสามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนด้วยความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม.