โตโยต้า ยาริส ครอส โฉมไมเนอร์เชนจ์ถูกเปิดตัวที่ยุโรป เพิ่มทางเลือกด้วยขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 132 แรงม้า พร้อมปรับปรุงฟีเจอร์ภายในห้องโดยสาร เตรียมเปิดรับจองตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
โตโยต้า ยาริส ครอส โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่เพิ่งเปิดตัวในยุโรปดังกล่าว เป็นคนละเวอร์ชันกับที่วางจำหน่ายในไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยเวอร์ชันยุโรปจะถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม GA-B ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพล็ตฟอร์ม TNGA ขณะที่เวอร์ชันอาเซียนและไทยถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม DNGA ที่พัฒนาโดยไดฮัทสุ พร้อมด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าเวอร์ชันยุโรป
โตโยต้า ยาริส ครอส ใหม่ มีการปรับปรุงหน้าตาต่างจากเดิมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่การเพิ่มทางเลือกด้วยขุมพลัง Hybrid 130 ที่มีพละกำลังเพิ่มขึ้นจากเดิม ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 132 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 12 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร (เพิ่มขึ้น 44 นิวตัน-เมตร) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 10.7 วินาที
เครื่องยนต์ Hybrid 130 ใหม่ จะถูกวางจำหน่ายควบคู่ไปกับเครื่องยนต์ Hybrid 115 เดิม ซึ่งมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร
ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว หรือ 12.3 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย พร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัส Toyota Smart Connect ขนาด 9 นิ้ว หรือ 10.5 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยเช่นกัน รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย รวมถึงรองรับคำสั่งเสียงเพียงเริ่มต้นพูดว่า "Hey Toyota" จากนั้นจึงตามด้วยคำสั่งต่างๆ ที่ต้องการ
อีกทั้งยังมีการปรับปรุงเพิ่มความเงียบและลดแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มชิ้นส่วนซับแรงสะเทือนของเครื่องยนต์ และวัสดุลดเสียงรบกวนจากท่อไอเสีย รวมถึงมีการเพิ่มความหนาของกระจกรอบคัน (ยกเว้นกระจกบานหลัง) เพื่อลดเสียงปะทะจากลมและเสียงพื้นถนนอีกทางหนึ่งด้วย
ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์มีการเพิ่มเติมระบบความปลอดภัย Proactive Driving Assist (PDA) ที่ช่วยลดความเร็วอย่างนุ่มนวลหากผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่งขณะรถกำลังพุ่งเข้าหารถคันหน้า รวมถึงยังสามารถลดความเร็วก่อนเข้าโค้งโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
อีกหนึ่งระบบที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ ระบบช่วยหยุดรถฉุกเฉินอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง Emergency Driving Stop System (EDSS) โดยหากพบว่าผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองทั้งพวงมาลัยและคันเร่งเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนก่อน จากนั้นหากยังไม่ได้รับการตอบสนองอีก ระบบจะสั่งชะลอความเร็วและหยุดรถโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งเปิดไฟฉุกเฉินและปลดล็อกประตูเพื่อความสะดวกในการเข้าช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่อไป
ขณะเดียวกัน โตโยต้าได้มีการเพิ่มรุ่น Premiere Edition ที่ถูกตกแต่งภายนอกด้วยสี Urban Khaki และหลังคาสีดำ ติดตั้งล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยตะเข็บสีเขียวเพื่อให้เข้ากับสีตัวถังภายนอก
