ฟอร์ด นิวซีแลนด์ เผยโฉม “ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ไวล์ดแทรค” ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการช่วงกลางปี 2566 นี้ พร้อมขุมพลังดีเซล วี6 ความจุ 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 250 แรงม้า และตัวถังสี Luxe Yellow แบบเดียวกับ “เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค”
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ไวล์ดแทรค ใหม่ ถูกวางตำแหน่งไว้กึ่งกลางระหว่างรุ่นย่อย Sport และ Platinum ในตลาดนิวซีแลนด์ โดยได้รับการพัฒนารูปลักษณ์ไปในทิศทางเดียวกับ เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค เน้นความสปอร์ตบึกบึนทั้งภายนอกและภายใน ตั้งเป้าจับกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาเอสยูวีดีไซน์สปอร์ตและสะท้อนถึงความเป็นรถออฟโรด เหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัวมากยิ่งขึ้น
ดีไซน์ภายนอกของ เอเวอร์เรสต์ ไวลด์แทรค ถูกตกแต่งด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์เฉพาะรุ่น พร้อมด้วยชุดแต่งรอบคันสีเทา Bolder Grey ไม่ว่าจะเป็น H-Bar บริเวณกันชนหน้า, ซุ้มล้อหน้า-หลัง, ช่องระบายอากาศด้านข้าง, กรอบกระจังหน้า และฝาครอบกระจกมองข้าง เสริมด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 20 นิ้ว ทั้งยังเป็นครั้งแรกในเอเวอร์เรสต์ที่สามารถเลือกตัวถังสี Luxe Yellow ซึ่งเป็นสีพิเศษที่มีเฉพาะรุ่นไวล์ดแทรคเท่านั้น
นอกจากนี้ ในรุ่นไวลด์แทรคยังมีการเสริมวัสดุสีเงินบริเวณบันไดข้าง พร้อมด้วยราวหลังคาทำจากวัสดุอัลลอยเพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์ และช่วยให้ตัวรถดูพร้อมลุยมากยิ่งขึ้น เสริมด้วยสัญลักษณ์ “WILDTRAK” บริเวณประตูคู่หน้า, ประตูท้าย และฝากระโปรงหน้าเพื่อสร้างความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ
ภายในห้องโดยสารเน้นตกแต่งด้วยโทนสีดำ ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ Ebony สลับหนังกลับ Miko คกแต่งด้วยตะเข็บสีส้ม Cyber Orange และสัญลักษณ์ WILDTRAK บริเวณพนักพิง โดยที่ตะเข็บสีส้มดังกล่าวยังถูกนำไปตกแต่งบริเวณที่วางแขน, แผงคอนโซลหน้า, แผงประตู และคันเกียร์แบบ e-shifter ขณะที่เบาะนั่งฝั่งผู้ขับขี่สามารถปรับไฟฟ้าได้ 10 ทิศทาง ฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันเบาะอุ่นและพัดลมระบายอากาศ
อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ยังถูกติดตั้งมาตรวัดแบบดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว ควบคู่ไปกับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ SYNC 4A แบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ขับกำลังเสียงผ่านลำโพง 10 ตำแหน่ง และมีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ด้านขุมพลังของรุ่นไวล์ดแทรคในนิวซีแลนด์จะถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750 - 2,250 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full-time 4WD