xs
xsm
sm
md
lg

โลตัส เผยโฉม เอมิรา ไฮไลท์เด่นอยู่ที่ รุ่น V6 First Edition ราคา 11.9 ล้านบาท โควตาเมืองไทยเพียง 6 คัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โลตัส คาร์ ประเทศไทย โดย เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย ผู้นำเข้านำเสนอ Lotus Emira ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถยนต์ Lotus ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีให้จอง 3 รุ่น ไฮไลน์เด่นอยู่ที่ รุ่น V6 First Edition (high spec) มีราคาขายปลีกอยู่ที่ 11.9 ล้านบาท ผลิตทั่วโลก 130 คัน และสำหรับประเทศไทยมีโควต้าเพียง 6 คันเท่านั้น พร้อมส่งมอบต้นปี 2566

Emira คือรถสปอร์ตระดับพรีเมียมเครื่องวางกลางรุ่นใหม่ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของธุรกิจและแบรนด์ของ Lotus โดดเด่นด้วยคุณลักษณะทั้งหมดที่โลกยานยนต์คาดหวังจาก Lotus เช่นการออกแบบที่โดดเด่น ประสิทธิภาพไดนามิกที่น่าตื่นเต้น การขับขี่และการควบคุมที่ดีที่สุดในรถสปอร์ทระดับเดียวกัน แอโรไดนามิกที่โดดเด่น และประสบการณ์ 'For The Drivers' ที่ไม่มีใครเทียบได้แต่ยิ่งไปกว่านั้น Emira ยังเป็นรถยนต์รุ่นสุดท้ายของ Lotus ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยทุกรุ่นในอนาคตจาก Lotus จะใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
Lotus Emira ถูกประกอบขึ้นผ่านสายการผลิตใหม่ล้ำสมัยในประเทศอังกฤษ ด้วยการลงทุน 100 ล้านปอนด์ โดยมีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 5,000 คันต่อปี


ธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค บริษัท เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับการเปิดตัว All-new Emira ในประเทศไทย เป็นที่แรกในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการสานต่อจากรถยนต์รุ่นต่างๆของ Lotus เช่น Elise, Exige และ Evora โดย Emira ใหม่ แสดงถึงการก้าวกระโดดไปข้างหน้าของ Lotus ด้วยซิกเนเจอร์ของแบรนด์และจุดเด่นหลักเหล่านี้ ถูกรวมเข้ากับการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในระดับของการใช้งานจริง ความสะดวกสบาย ฟังก์ชัน และเทคโนโลยี เพื่อส่งผลให้เป็นรถสปอร์ตของ Lotus ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเท่าที่เคยมีมา”

โดยในปีที่ผ่านมา Lotus Cars ได้แต่งตั้ง เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของแบรนด์ในประเทศไทย ครอบคลุมกิจกรรมการขาย หลังการขาย การตลาดและการสร้างแบรนด์ บริษัทได้ลงทุนมากถึง 20 ล้านบาทเพื่อสร้างโชว์รูมโลตัสแห่งใหม่บนถนนรามคำแหงในกรุงเทพฯ มีพื้นที่รวม 400 ตารางเมตรสำหรับโชว์รูมและเวิร์กช็อป



รถรุ่น Emira มีความคล้ายคลึงในหลายๆจุดกับ Evija ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตามนโยบาย Vision80 ของบริษัท ซึ่งส่งสัญญาณถึงภาษาการออกแบบใหม่สำหรับ Lotus ด้วยเช่นกัน

Emira มีรูปลักษณ์ที่มีความร่วมสมัยด้วยพื้นผิวที่ลื่นไหล เส้นลักษณะที่คมชัด และรายละเอียดทางเทคนิค เช่นเดียวกับ Evija ฝากระโปรงหน้าที่โดดเด่นสะดุดตา ห้องโดยสารที่หรูหราที่ถูกวางตำแหน่งไปทางด้านหลัง ประตูที่ดูเหมือนถูกแกะสลัก และช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ตัดเข้าไปในด้านท้ายของรถไฟหน้า LED แนวตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยดีไซน์ twin blade ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Evija ไฮเปอร์คาร์ เครื่องหมายคำว่า Lotus อยู่เหนือแผงหลังสีเดียวกับตัวรถ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากด้านหลังของ Evija อย่างชัดเจนเช่นกัน

“Emira เป็นซูเปอร์คาร์ขนาดเล็กที่มาพร้อมความเร้าใจและคุณลักษณะที่พบได้ในรถยนต์ Lotus ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นรถสปอร์ตที่ใช้งานได้ทุกวันซึ่งให้ความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการใช้งานสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่ผู้ขับต้องการ” นายธีรพงศ์กล่าวเสริม


การออกแบบภายในโดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดแบบ wrap around ผสมผสานเข้ากับแผงประตูที่หรูหรา ทำให้ผู้ขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ ภายในของรถมีพื้นผิว soft touch จำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงงานฝีมือระดับพรีเมียมของอังกฤษ ที่สื่อถึงความเป็นสปอร์ตขั้นสูงสุด Emira มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบท้ายตัด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ม่านถุงลมนิรภัย พร้อมด้วยระบบ Launch Control (เป็นส่วนหนึ่งของ Lotus Drivers Pack ที่เป็นอุปกรณ์เสริม) รวมถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) การเข้าถึงระบบ Infotainment ของรถทำได้โดยผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วที่ติดตั้งตรงคอนโซลกลาง พร้อมจอแสดงผลสำหรับคนขับแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว การเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ Lotus รุ่นใหม่ ยังมีระบบเสียงระดับพรีเมียม 10 ลำโพงจาก KEF แบรนด์ออดิโอไฟล์สัญชาติอังกฤษที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง

ด้านหลังของเบาะนั่งทั้งสอง มีพื้นที่ 208 ลิตร สำหรับสัมภาระหรือสิ่งของขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกัน พื้นที่เก็บของด้านหลังของเครื่องยนต์ มีขนาด 151 ลิตร สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดมาตรฐานหรือถุงกอล์ฟได้


ขุมพลังของ Emira จะมีให้เลือก 2 แบบ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในด้านคุณลักษณะด้านสมรรถนะ โดยช่วงเปิดตัว รถยนต์รุ่นแรกจะวางจำหน่ายในรุ่น 'First Edition' ที่ผลิตจำนวนจำกัด ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตรซุปเปอร์ชาร์จ ซึ่งให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 288 กม./ชม. และในปีนี้ จะมีเครื่องยนต์ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีสำหรับแบรนด์ Lotus โดยเครื่องยนต์ที่สองสำหรับ Emira จะมาจากAMG ซึ่งก็คือเครื่องยนต์ 'i4' สี่สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ซึ่งให้กำลัง 360 แรงม้าEmira สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมใหม่ Lotus Sports Car Architecture และมีระยะห่างของล้อที่กว้างกว่ารถรุ่นอื่นๆ ของ Lotus ซึ่งช่วยเพิ่มเสถียรภาพ ให้การยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม และรู้สึกได้กับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมาก

รถรุ่น Emira มาพร้อมกับการตั้งค่าแชสซีและช่วงล่างที่กำหนดไว้สองแบบ โดยแบบแรกคือแบบ Tour ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการใช้งานบนท้องถนนทุกวัน ให้การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะของ Lotus ไดนามิกและการควบคุมรถด้วยการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ในขณะที่ช่วงล่างแบบ Sport จะมาพร้อมกับ Lotus Drivers Pack ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม และให้การตั้งค่าระบบกันสะเทือนที่แข็งขึ้นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสามารถและความรู้สึกแบบไดนามิก


สำหรับการสั่งซื้อ Emira ทางบริษัทได้เปิดให้ลูกค้าชาวไทยได้ทำการจองรถแล้วทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน คือLotus Emira รุ่น V6 First Edition (high spec) มีราคาขายปลีกอยู่ที่ 11.9 ล้านบาท ผลิตทั่วโลก 130 คัน และสำหรับประเทศไทยมีโควต้าเพียง 6 คันเท่านั้น พร้อมส่งมอบต้นปี 2566


ขณะที่รุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ AMG นั่นคือ Lotus Emira i4 First Edition เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นที่ 9,290,000 บาท พร้อมส่งมอบไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 และรุ่นที่ใคร ๆ หมายตาจับจองคือ Lotus Emira i4 BASE เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ สนนราคาที่ 7,990,000 บาท พร้อมส่งมอบไตรมาสที่ 2 ของปี 2566














กำลังโหลดความคิดเห็น