ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ปรับโฉม SUZUKI XL7 เพิ่มสีสไตล์ทูโทน ตอกย้ำความนิยมในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ MPV ชูสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ในแบบฉบับของ Multi-Dynamic Crossover เคาะราคาจำหน่ายเริ่มที่ 789,000 บาท ตั้งเป้าขยับส่วนแบ่งในตลาด MPV ด้วยยอดขาย 5,400 คัน
ล่าสุด ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำบทบาทผู้นำรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก ด้วยการแนะนำ SUZUKI XL7 สีใหม่สไตล์ทูโทน โดยนายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความร้อนแรงของตลาดรถอเนกประสงค์ MPV ส่งผลให้หลากหลายค่ายส่งผู้เล่นลงขับเคี่ยวอย่างเข้มข้น ผลักดันให้เซกเมนต์ดังกล่าวเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้บริโภคสำหรับทางเลือกที่มากขึ้น โดย SUZUKI XL7 มีการเพิ่มความโดดเด่นและดุดันยิ่งขึ้น ทั้งยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการใช้งานที่ยอดเยี่ยมในแบบฉบับของ Multi-Dynamic Crossover”
นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า SUZUKI XL7 โดดเด่นด้วยสีทูโทน หลังคาสีดำตัดกับสีตัวรถ เติมเต็มความสปอร์ตด้วยกระจกมองข้างสีดำ ให้ความรู้สึกเข้มและดุดันด้วยกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตสีดำผสมโครเมียม สอดรับกับไฟหน้า LED สามารถปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ มาพร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งใต้กันชนด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน มาพร้อมไฟท้าย LED และไฟเบรกแนวตั้ง เติมความเข้มด้วยซุ้มล้อสีดำ พร้อมล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว รวมถึงราวหลังคา เพื่ออรรถประโยชน์ในการบรรทุกสัมภาระมากยิ่งขึ้น
คอนโซลด้านหน้าตกแต่งวัสดุด้วยลาย CarbonFiber เสริมด้วยคิ้วโครเมียม และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่พร้อมรองรับทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน อาทิ มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผล แจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ ทั้งยังเชื่อมต่อกับความบันเทิงด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว มาพร้อมระบบปรับแต่งเสียงและประมวลผลในแบบดิจิทัล พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน Apple CarPlay, Android Auto รวมไปถึงช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า อีกทั้งช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง
ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย ด้วยที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร เสริมความสปอร์ตด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ทรง D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและการสั่งการสมาร์ตโฟน ทันสมัยด้วยระบบ Keyless Push Start และระบบ Keyless Entry ประตูเปิด-ปิดได้ โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมต รวมถึงกระจกมองข้างที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ให้ผู้ขับขี่สัมผัสความสะดวกสบายในการใช้งาน
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ที่ได้รับการปรับแต่งประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และอัตราทดเกียร์ให้เหมาะกับการขับขี่อย่างลงตัว ผสานกับแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิ ซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับเคลื่อนเป็นไปอย่างคล่องตัว สนุกสนาน ปลอดภัย และประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
ระบบช่วงล่างได้รับการออกแบบและปรับแต่งเพื่อตอบสนองการขับขี่ได้ในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยความสูงใต้ท้องรถ 200 มม. สร้างความนุ่มนวลและมั่นใจในทุกสภาวะถนนด้วยเหล็กกันโคลงด้านหน้าขนาดใหญ่ ลดอาการโคลงของตัวรถและเพิ่มการยึดเกาะถนน มาพร้อมระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า, ระบบเบรก ABS, ระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน, จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ เสริมความปลอดภัยด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
พร้อมรับโปรโมชั่น “SUZUKI SUPER SURPRISE DEAL” สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 ภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม-3 เมษายน 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ