เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ประกาศทิศทางการทำตลาดรถยนต์ในไทย เดินหน้าตามนโยบายบริษัทแม่ เลิกขายรถใช้น้ำมันภายในปี 2573 แต่แย้มเงื่อนไขขึ้นกับตลาด พร้อมยันเปิดตัวขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก EQS ปีนี้ พร้อม Maybach GLS และ S-Class PHEV
โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การดำเนินนโยบายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะเป็นไปตามที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่า กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวทั่วโลกภายในทศวรรษนี้ โดยเริ่มจากการเปิดตัวโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบภายในปี 2568 ได้แก่ MB.EA, AMG.EA และ VAN.EA
สำหรับประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีความพร้อมด้านสายการผลิต ตามกลยุทธ์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้วด้วยการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านการรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2562
“มูลค่าการลงทุนที่ผ่านมา คงไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนทิศทางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทยภายในปี 2573 รถทุกคันในไลน์การขายจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด แต่ขึ้นกับความพร้อมของตลาดและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้วย ขณะที่ภายในปี 2568 ทุกรุ่นจะมีรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการจำหน่าย รวมถึงจะมีการปรับรูปแบบการเข้าถึงลูกค้าด้วยการใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ” โรลันด์กล่าว
ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวแบรนด์ย่อยเพิ่มขึ้นได้แก่ Mercedes-EQ และ Mercedes-Maybach ในประเทศไทย โดยจะมีตัวแทนจำหน่าย 4 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้จำหน่ายและดูแล Mercedes-Maybach ได้แก่ ทีทีซี, สตาร์แฟล็ก, ไพรมัส และบีเคเค
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะมีการเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่นได้แก่ Mercedes-Maybach GLS โดยเป็นการนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา , The new EQS รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ผลิตในประเทศไทย และเปิดจำหน่าย S-Class เวอร์ชัน PHEV อีกหนึ่งรุ่นโดยเป็นรุ่นประกอบในประเทศไทยเช่นเดียวกัน
โรลันด์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีการปรับปรุงบริการหลังการขาย เพื่อเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยให้ลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ และพนักงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกคนด้วยมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดภายใต้สถานการณ์โควิด-19
เหนือสิ่งอื่นใด มีการปรับเพิ่มโปรแกรมบำรุงรักษาและการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ MBSP ด้วยแพ็คเกจที่หลากหลายให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ Compact, Advance, Extra และ Excellent พร้อมมอบความยืดหยุ่นแก่ผู้ใช้บริการ ทั้งในเรื่องการบำรุงรักษา การเปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอ และการขยายการรับประกันคุณภาพโดยไม่จำกัดระยะทาง พร้อมทั้งขยายความคุ้มครองได้สูงสุดถึง 8 ปี
ขณะที่ โครงสร้างอะไหล่ เมอร์เซเดส-เบนซ์มีการปรับเพิ่มทางเลือกให้มาขึ้นทั้ง StarParts อะไหล่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มาตรฐานราคาประหยัดกว่า 55% เพื่อการบำรุงรักษารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อายุ 5 ปีขึ้นไป และ REMAN part อะไหล่แท้ผ่านกระบวนการ Remanufacturing ซึ่งคิดค้นขึ้นเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและแรงงานในขั้นตอนการผลิตอะไหล่แท้ชิ้นใหม่คุณภาพตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทำให้มีราคาถูกพิเศษ
อนึ่ง อะไหล่ REMAN จะมีทั้งในชุดอุปกรณ์หลัก ชิ้นส่วนสำหรับกลไก ระบบหัวฉีดและการบำบัดไอเสีย ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบขับเคลื่อน โดยลูกค้าผู้ใช้เมอร์เซเดส-เบนซ์หลายรุ่นสามารถเข้ารับบริการและเลือกใช้อะไหล่ REMAN ได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ
นอกจากนั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดแคมเปญ StarFest 2021: Season of the ultimate offers เพื่อมอบข้อเสนอสุดเร้าใจของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในกลุ่ม Compact car, Contemporary Luxury, Dream Cars รวมถึงแบรนด์รถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” ให้ลูกค้ารับข้อเสนอไปแบบเต็มพิกัด ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายนนี้
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ทุกรุ่น แคมเปญต่าง ๆ และรายละเอียดเกี่ยวกับบริการหลังการขายได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การดำเนินนโยบายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะเป็นไปตามที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่า กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวทั่วโลกภายในทศวรรษนี้ โดยเริ่มจากการเปิดตัวโครงสร้างรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 3 แบบภายในปี 2568 ได้แก่ MB.EA, AMG.EA และ VAN.EA
สำหรับประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีความพร้อมด้านสายการผลิต ตามกลยุทธ์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้วด้วยการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านการรับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) และการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2562
“มูลค่าการลงทุนที่ผ่านมา คงไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนทิศทางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ประเทศไทยภายในปี 2573 รถทุกคันในไลน์การขายจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด แต่ขึ้นกับความพร้อมของตลาดและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้วย ขณะที่ภายในปี 2568 ทุกรุ่นจะมีรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการจำหน่าย รวมถึงจะมีการปรับรูปแบบการเข้าถึงลูกค้าด้วยการใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ” โรลันด์กล่าว
ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวแบรนด์ย่อยเพิ่มขึ้นได้แก่ Mercedes-EQ และ Mercedes-Maybach ในประเทศไทย โดยจะมีตัวแทนจำหน่าย 4 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้จำหน่ายและดูแล Mercedes-Maybach ได้แก่ ทีทีซี, สตาร์แฟล็ก, ไพรมัส และบีเคเค
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะมีการเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่นได้แก่ Mercedes-Maybach GLS โดยเป็นการนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา , The new EQS รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ผลิตในประเทศไทย และเปิดจำหน่าย S-Class เวอร์ชัน PHEV อีกหนึ่งรุ่นโดยเป็นรุ่นประกอบในประเทศไทยเช่นเดียวกัน
โรลันด์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีการปรับปรุงบริการหลังการขาย เพื่อเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า และเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยให้ลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ และพนักงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกคนด้วยมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดภายใต้สถานการณ์โควิด-19
เหนือสิ่งอื่นใด มีการปรับเพิ่มโปรแกรมบำรุงรักษาและการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ MBSP ด้วยแพ็คเกจที่หลากหลายให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ Compact, Advance, Extra และ Excellent พร้อมมอบความยืดหยุ่นแก่ผู้ใช้บริการ ทั้งในเรื่องการบำรุงรักษา การเปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอ และการขยายการรับประกันคุณภาพโดยไม่จำกัดระยะทาง พร้อมทั้งขยายความคุ้มครองได้สูงสุดถึง 8 ปี
ขณะที่ โครงสร้างอะไหล่ เมอร์เซเดส-เบนซ์มีการปรับเพิ่มทางเลือกให้มาขึ้นทั้ง StarParts อะไหล่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มาตรฐานราคาประหยัดกว่า 55% เพื่อการบำรุงรักษารถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อายุ 5 ปีขึ้นไป และ REMAN part อะไหล่แท้ผ่านกระบวนการ Remanufacturing ซึ่งคิดค้นขึ้นเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและแรงงานในขั้นตอนการผลิตอะไหล่แท้ชิ้นใหม่คุณภาพตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทำให้มีราคาถูกพิเศษ
อนึ่ง อะไหล่ REMAN จะมีทั้งในชุดอุปกรณ์หลัก ชิ้นส่วนสำหรับกลไก ระบบหัวฉีดและการบำบัดไอเสีย ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบขับเคลื่อน โดยลูกค้าผู้ใช้เมอร์เซเดส-เบนซ์หลายรุ่นสามารถเข้ารับบริการและเลือกใช้อะไหล่ REMAN ได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ
นอกจากนั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดแคมเปญ StarFest 2021: Season of the ultimate offers เพื่อมอบข้อเสนอสุดเร้าใจของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในกลุ่ม Compact car, Contemporary Luxury, Dream Cars รวมถึงแบรนด์รถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่าง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี” ให้ลูกค้ารับข้อเสนอไปแบบเต็มพิกัด ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายนนี้
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ทุกรุ่น แคมเปญต่าง ๆ และรายละเอียดเกี่ยวกับบริการหลังการขายได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
