ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ จะมีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ไฮบริด อี:เอชอีวี ขนาด 1.5 ลิตรในตลาดยุโรป พร้อมยืนยันรถยนต์ทุกรุ่นที่วางจำหน่ายในยุโรปจะต้องมีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบภายในปี 2565 นี้
ฮอนด้าเปิดเผยว่าครอสโอเวอร์ เอชอาร์-วี เจเนอเรชันที่ 2 สำหรับวางจำหน่ายในตลาดยุโรป จะมีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ไฮบริด อี:เอชอีวี ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซฺน Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 131 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาราว 10.6 วินาที
ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองถูกเคลมไว้ที่ 5.4 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตรตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP หรือประมาณ 18.5 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยอยู่ที่ 122 กรัมต่อกิโลเมตร
ฮอนด้าระบุเพิ่มเติมว่าแบตเตอรี่ของ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี มีจำนวนเซลส์เพิ่มขึ้นเป็น 60 เซลส์ เมื่อเทียบกับจำนวนเซลส์ของแบตเตอรี่ที่พบใน แจ็ซ อี:เอชอีวี ที่มีจำนวน 48 เซลส์ เพื่อรองรับขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น โดยฮอนด้ายังระบุเพิ่มเติมว่าขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นไม่กระทบต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการปรับปรุงอัตราทดเกียร์ที่อยู่ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและล้อขับเคลื่อนเพื่อให้ตอบสนองได้อย่างทันใจมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี สามารถเลือกโหมดการทำงานของระบบไฮบริดได้ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย Electric Drive, Hybrid Drive และ Engine Drive โดยฮอนด้าระบุว่าในโหมด Hybrid Drive เครื่องยนต์จะแบ่งการทำงานบางส่วนเพื่อใช้ในการชาร์จไฟกลับไปยังแบตเตอรี่ อีกทั้งยังมีปุ่มเลือกระดับปริมาณการชาร์จแบตเตอรี่ขณะปล่อยคันเร่งหรือเหยียบเบรกติดตั้งไว้บริเวณพวงมาลัยอีกด้วย
ทั้งนี้ ฮอนด้าตั้งเป้าติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าลงในรถยนต์หลักทุกรุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดยุโรปภายในปี 2565 นี้ ขณะที่ เอชอาร์-วี ถือว่าเป็นโมเดลที่ 3 ในตลาดยุโรปที่มีเฉพาะเครื่องยนต์ไฮบริดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ภายหลังจากที่เริ่มวางจำหน่าย ซีอาร์-วี และ แจ็ซ ขุมพลังไฮบริดไปก่อนหน้านี้
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปช่วงปลายปี 2564 นี้