Toyota Aqua ใหม่ เก๋ง 5 ประตูขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตรเจเนอเรชันใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่ญี่ปุ่น ชูจุดเด่นด้วยอัตราสิ้นเปลืองต่ำเพียง 35.8 กม./ลิตรเท่านั้น แถมยังมีฟังก์ชันจ่ายกระแสไฟให้กับบ้านพักอาศัยกรณีฉุกเฉินได้อีกด้วย
Toyota Aqua โฉมใหม่ (หรือ Prius C ที่คนไทยคุ้นหูมากกว่า) ถูกเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วที่ญี่ปุ่น หลังจากที่โฉมแรกถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011 เพื่อทำตลาดควบคู่ไปกับ Prius รุ่นปกติ และยังถือเป็นรถที่มียอดจดทะเบียนสูงสุดในญี่ปุ่นช่วงปี 2013-2015 โดยปัจจุบันมียอดจำหน่ายสะสมทั้งสิ้นกว่า 1.87 ล้านคันแล้ว โดยโฉมใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม TNGA (GA-B) พร้อมทั้งขยายความยาวฐานล้อขึ้นอีก 50 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
Toyota Aqua ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร แต่หากเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four จะเพิ่มด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หลังอีก 1 ตัว ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 6.4 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 5.3 นิวตัน-เมตร พร้อมอัตราสิ้นเปลืองดีที่สุดอยู่ที่ 35.8 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC
นอกจากนี้ Toyota Aqua ใหม่ ยังถูกติดตั้งระบบ Pleasure pedal เป็นครั้งแรก โดยหากผู้ขับขี่ปรับไปยังโหมด POWER+ ก็จะสามารถใช้แป้นคันเร่งในการเพิ่มหรือชะลอความเร็วเพียงแป้นเดียวได้ (คล้ายกับ e-Pedal ที่อยู่ใน Nissan Leaf) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายโดยเฉพาะการขับขี่ในเมือง รวมถึงโหมดการขับขี่อีก 3 โหมดให้เลือก ได้แก่ Normal, POWER และ Eco-drive
จุดเด่นของ Toyota Aqua โฉมใหม่อยู่ที่ฟังก์ชันจ่ายไฟในกรณีฉุกเฉิน เช่น เกิดภัยพิบัติจนทำให้ไฟดับ ก็ยังสามารถจ่ายไฟแบบกระแสสลับได้สูงสุด 1,500 วัตต์ ด้วยแรงดัน 100 โวลต์ตามมาตรฐานครัวเรือนของญี่ปุ่น พร้อมทั้งช่องจ่ายไฟแบบ USB สำหรับชาร์จสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ขนาดเล็กต่างหากด้วย
รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง Toyota Safety Sense เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย เสริมด้วยระบบช่วยจอด Toyota Teammate Advanced Park เป็นครั้งแรกในรถขนาดคอมแพ็คของโตโยต้า ซึ่งสามารถควบคุมการจอดได้เองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้า-ถอยหลัง และการควบคุมพวงมาลัย โดยไม่ต้องอาศัยผู้ขับขี่เลยแม้แต่น้อย
สำหรับราคาจำหน่าย Toyota Aqua โฉมใหม่ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มต้นที่ 1,980,000 เยน หรือประมาณ 590,000 บาท
