เปิดบทสัมภาษณ์ “ภิญโญ ธนวัชรภรณ์” นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ถึงทิศทางและสภาพตลาดรถยนต์มือสองในเวลานี้ หลังกลุ่มผู้ประกอบได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีทั้งอยู่รอดและต้องปิดฉากลงไป ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไร ลองติดตามกันดู
ภาพรวมตลาดรถมือสอง?การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 และการล็อกดาวน์ของภาครัฐ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงในช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นมา แต่หลังจากผ่านเดือนกรกฎาคมมา ตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากคนที่ไม่เคยมีรถยนต์มาก่อน จะหันมาใช้รถยนต์ในการเดินทางเนื่องจากกลังการติดเชื้อจากระบบขนส่งสาธารณะ
ขนาดของตลาด?
โดยปกติจะประเมินขนาดของตลาดรถมือสองตามตลาดของรถยนต์ เช่น ตลาดรถป้ายแดงมียอดขาย 1 ล้านคัน ตลาดรถมือสองจะเป็น 2 เท่า หรือราว 2 ล้านคัน แต่ในความเป็นจริงอาจจะมากกว่านั้น เนื่องจากรถยนต์หนึ่งคันเมื่อลูกค้าเปลี่ยนรถและมีการขายให้ผู้ประกอบการ จะมีการเปลี่ยนมือได้หลายครั้ง อาจจะมากกว่า 3-4 ครั้ง ก็เป็นไปได้ ฉะนั้นจึงประเมินตัวเลขแบบชัดเจนได้ค่อนข้างยาก
ทิศทางตลาด?
ตลาดในปีนี้คือว่า ผันผวนอย่างหนัก ยอดขายน่าจะหายไปราว 30% ในช่วงกลางปี แต่ทิศทางตลาดเริ่มดีขึ้นเมื่อผ่านช่วง 9 เดือนแรกลดลงราว 10-15% จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ทำให้ราคารถยนต์มือสองขยับสูงขึ้นทั้งราคารับซื้อและราคาขายออก เนื่องจากรถมือสองเข้าสู่ตลาดน้อยลง และความต้องการใช้รถของลูกค้ายังมีอยู่เช่นเดิม โดยคาดว่าทั้งปีนี้ตลาดมือสองน่าจะไม่ติดลบ
ปัญหาของผู้ประกอบการ?
ผู้ประกอบการจะขายรถมือสองได้มากกว่านี้ หากไฟแนนซ์ลดความเข้มงวดลง ปัจจุบันไฟแนนซ์ตั้งกำแพงเงื่อนไขค่อนข้างสูงมาก ตรวจละเอียด ลูกค้าต้องดีจริงๆ จึงจะอนุมัติ เนื่องจากแนวโน้ม NPL สูงขึ้น ฉะนั้นไฟแนนซ์จึงต้องเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักนั้นคาดว่ามีผู้ประกอบการค้ารถยนต์มือสองปิดกิจการไปราว 10%
ปรับตัวและประเมินอย่างไร?
สถานการณ์ยังไม่แน่นอน แต่สิ่งที่คาดไว้คือ ปีหน้า เมื่อทุกอย่างเริ่มคลายตัว การยืดระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้สิ้นสุด จะทำให้เห็นภาพจริงของเศรษฐกิจ ซึ่งรถน่าจะถูกยึดเป็นจำนวนมาก โดยขึ้นกับสถาบันการเงินว่าจะผ่อนคลายและช่วยเหลือลูกหนี้เหล่านั้นอย่างไร ถ้าสามารถแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ เชื่อว่าตลาดจะเติบโตไปในทิศทางที่ดี ทั้งนี้ภาครัฐต้องเข้าใจอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอย่างดีด้วย เพราะตลาดรถยนต์ทั้งมือหนึ่งและมือสองนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่
ภาพรวมตลาดรถมือสอง?การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 และการล็อกดาวน์ของภาครัฐ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงในช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นมา แต่หลังจากผ่านเดือนกรกฎาคมมา ตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จากคนที่ไม่เคยมีรถยนต์มาก่อน จะหันมาใช้รถยนต์ในการเดินทางเนื่องจากกลังการติดเชื้อจากระบบขนส่งสาธารณะ
ขนาดของตลาด?
โดยปกติจะประเมินขนาดของตลาดรถมือสองตามตลาดของรถยนต์ เช่น ตลาดรถป้ายแดงมียอดขาย 1 ล้านคัน ตลาดรถมือสองจะเป็น 2 เท่า หรือราว 2 ล้านคัน แต่ในความเป็นจริงอาจจะมากกว่านั้น เนื่องจากรถยนต์หนึ่งคันเมื่อลูกค้าเปลี่ยนรถและมีการขายให้ผู้ประกอบการ จะมีการเปลี่ยนมือได้หลายครั้ง อาจจะมากกว่า 3-4 ครั้ง ก็เป็นไปได้ ฉะนั้นจึงประเมินตัวเลขแบบชัดเจนได้ค่อนข้างยาก
ทิศทางตลาด?
ตลาดในปีนี้คือว่า ผันผวนอย่างหนัก ยอดขายน่าจะหายไปราว 30% ในช่วงกลางปี แต่ทิศทางตลาดเริ่มดีขึ้นเมื่อผ่านช่วง 9 เดือนแรกลดลงราว 10-15% จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ทำให้ราคารถยนต์มือสองขยับสูงขึ้นทั้งราคารับซื้อและราคาขายออก เนื่องจากรถมือสองเข้าสู่ตลาดน้อยลง และความต้องการใช้รถของลูกค้ายังมีอยู่เช่นเดิม โดยคาดว่าทั้งปีนี้ตลาดมือสองน่าจะไม่ติดลบ
ปัญหาของผู้ประกอบการ?
ผู้ประกอบการจะขายรถมือสองได้มากกว่านี้ หากไฟแนนซ์ลดความเข้มงวดลง ปัจจุบันไฟแนนซ์ตั้งกำแพงเงื่อนไขค่อนข้างสูงมาก ตรวจละเอียด ลูกค้าต้องดีจริงๆ จึงจะอนุมัติ เนื่องจากแนวโน้ม NPL สูงขึ้น ฉะนั้นไฟแนนซ์จึงต้องเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยในช่วงโควิด-19 ระบาดหนักนั้นคาดว่ามีผู้ประกอบการค้ารถยนต์มือสองปิดกิจการไปราว 10%
ปรับตัวและประเมินอย่างไร?
สถานการณ์ยังไม่แน่นอน แต่สิ่งที่คาดไว้คือ ปีหน้า เมื่อทุกอย่างเริ่มคลายตัว การยืดระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้สิ้นสุด จะทำให้เห็นภาพจริงของเศรษฐกิจ ซึ่งรถน่าจะถูกยึดเป็นจำนวนมาก โดยขึ้นกับสถาบันการเงินว่าจะผ่อนคลายและช่วยเหลือลูกหนี้เหล่านั้นอย่างไร ถ้าสามารถแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ เชื่อว่าตลาดจะเติบโตไปในทิศทางที่ดี ทั้งนี้ภาครัฐต้องเข้าใจอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอย่างดีด้วย เพราะตลาดรถยนต์ทั้งมือหนึ่งและมือสองนั้นมีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่
