การทำตลาดในช่วงล็อกดาวน์โควิด 19 ซึ่งเป็นช่วงไตรมาส 2 ของปี นับเป็นฝันร้ายของบรรดาค่ายรถยนต์อย่างมาก ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง การจะกอบกู้ยอดขายกลับคืนมากลายเป็นเรื่องที่ยากลำบากกว่าในภาวะปกติ กลยุทธ์รูปแบบเดิมๆ เริ่มใช้ไม่ได้ เพราะลูกค้าจะมีความระมัดระวังในการใช้เงินมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามการขายก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะไม่เช่นนั้นการปิดยอดปลายปีอาจจะทำให้มีคนว่างงานเพิ่มขึ้น
ในกลุ่มธุรกิจการเงิน มีการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ให้กับลูกค้า และมีมาตรการต่างๆ ออกมาอย่างมายมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และน่าจะเป็นไอเดียหนึ่งของการนำมาใช้กับค่ายรถยนต์ ที่ได้ดำเนินตามแนวทางลักษณะนี้เช่นกัน
ขับฟรี 90 วันแล้วค่อยผ่อน ยืดอายุการจ่ายได้รถ
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่เลือกใช้กัน คือการให้ลูกค้าขับรถไปก่อน 90 วัน หลังจากนั้นค่อยเริ่มผ่อนชำระงวดแรก แตกต่างจากก่อนหน้าโควิดที่สิ้นเดือนปุ๊บต้องจ่ายปั๊บ ไม่เช่นนั้นก็จะมีข้อความทวงถามผ่านเสียงตามสายหรือมีข้อความเข้ามาทวงแบบรัวๆ แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้ใครที่ทำเช่นนั้นมีหลังลูกค้าเมินหน้าไปหาคู่แข่งอย่างแน่นอน
ฟอร์ดใช้ชื่อแคมเปญนี้ว่า Defer Payment 3 Months โดยให้ลูกค้าเริ่มชำระค่างวดงวดแรกหลังจากได้ทำการส่งมอบรถ 90 วัน สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ทุกรุ่น นอกเหนือไปจากโปรแกรมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี เพื่อลบอดีตที่ไม่ค่อยดีงามนักกับปัญหาที่ลูกค้าเคยประสบมาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ในช่วงก่อนหน้านี้
เช่นเดียวกับเจ้าตลาดอย่าง อีซูซุ เมื่อเลือกรับเงื่อนไขดอกเบี้ยพิเศษรับข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วันจะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น / สำหรับลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 31 ตุลาคม 2563 และรับรถภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 โดยเลือกเงื่อนไขการผ่อนชำระไม่เกิน 84 เดือน
ด้านโตโยต้าก็จัดหนักกับหลากหลายรุ่นโดยเฉพาะรถกระบะ ด้วยการเลื่อนระยะเวลาการผ่อนชำระงวดแรกออกไป 90 วัน นับจากวันที่สัญญาเริ่มต้น แถมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care 1 ปี และการขยายการรับประกันคุณภาพต่อเนื่องจากระยะเวลา 3 ปี หรือภายในระยะทาง 100,000 กม. เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ ภายในระยะทาง 150,000 กม. แล้วแต่อย่างใดถึงก่อนพร้อมการตรวจสอบฟรีตามระยะ 100,000 กม. และโปรนี้ก็รวมไปถึง C-HR รุ่นเครื่องยนต์เบนซินอีกด้วย
นิสสันเน้นผ่อนต่อเดือนน้อย ผ่อนนาน 6 เดือน
สำหรับค่ายนี้ นอกจากจะนำเสนอรถราคาคุ้มค่าที่อัดแน่นเทคโนโลยีแล้ว ล่าสุดยังมีโปรแกรม “Nissan Easy Pay” ที่มีราคาดึงดูดใจอย่างมาก แม้จะไม่ได้ยืดระยะเวลาการผ่อน แต่ก็นำเสนอแคมเปญการผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,700 บาท โดยในงวดที่ 1-6 คิดค่างวด 3,400 บาท แต่นิสสันช่วยผ่อน 1,700 บาท จำนวน 6 งวด ส่วนงวดที่ 7-60 ก็ยังจ่ายแค่ 3,400 บาท
แคมเปญนี้คำนวณจากเงินดาวน์ 25% ดอกเบี้ย 0.94% และงวดที่ 61 ก็ค่อยโป๊ะปิดทีเดียวอีก 126,000 บาท (คำนวณจากรุ่น MARCH S MTราคา 420,000 บาท) เรียกได้ว่า เน้นผ่อนน้อยแบบสบายๆ ไปก่อน แล้ว ค่อยไปโป๊ะทีหลังก้อนใหญ่ทีเดียว แถมยังฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี อีกด้วย
เช่นเดียวกับรถพลังจี๊ดแถมไฮเทคอย่าง ALL-NEW NISSAN ALMERA V ก็ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,400 บาท (งวดที่ 1-6 ค่างวด 6,800 บาท นิสสันช่วยผ่อน 3,400 บาท จำนวน 6 งวด, งวดที่ 7-60 (6,800 บาท), คำนวณจากเงินดาวน์ 25%, ดอกเบี้ย 4.94% และงวดที่ 61 (191,700 บาท), คำนวณจากรุ่น ALMERA VL ราคา 639,000 บาท ก็ฟรีประกันเช่นกัน เรียกได้ว่างานนี้การจะมีป้ายแดงคุณภาพดีสักคันไม่ยากอีกต่อไป
ส่วนฮอนด้าก็มีข้อเสนอพิเศษ เมื่อออกรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ผ่อนสบายเริ่มต้น 5,500 บาท กับ DOUBLE SMILE หรือ รับข้อเสนอดอกเบี้ย 2.89% พร้อม ฮอนด้าช่วยผ่อน เดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน รวมมูลค่า 24,000 บาท
เมอร์เซเดส-เบนซ์ รถระดับหรูแต่ก็มีทางเลือกให้เบาใจ
สำหรับในกลุ่มตลาดบน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีโปรโมชันเอาใจเศรษฐีที่รักความคุ้มค่า เพราะงานนี้ค่ายดาวสามแฉกก็จัดให้แบบหลายทางเลือก ด้วยข้อเสนอพิเศษที่ชื่อว่า "มายสตาร์" ที่จะค่างวดต่ำกว่าโปรแกรมทางการเงินรูปแบบอื่น ด้วยการผ่อนรถหรูเริ่มต้นเพียง 21,200 บาทต่อเดือน แล้วค่อยไปจ่ายปิดในงวดสุดท้าย แต่ได้เพิ่ม 3 ทางเลือกสำหรับมูลค่าบอลลูน ที่ลูกค้าจะสามารถเลือกได้เองเมื่อสิ้นสุดสัญญา
1. เลือกคืนรถยนต์ โดยไม่ต้องชำระมูลค่าบอลลูน เพื่อให้มีอิสระในการเปลี่ยนรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์คันใหม่ ได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้คันเก่าอีกต่อไป 2. เลือกเป็นเจ้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์คันปัจจุบัน ด้วยการชำระมูลค่าบอลลูนเต็มจำนวน และ 3. เลือกขยายเวลาการผ่อนชำระไม่ต้องกังวลกับการชำระมูลค่าบอลลูนในครั้งเดียว ด้วยการขยายเวลาการผ่อนชำระมูลค่าบอลลูนออกไปสูงสุดถึง 4 ปี
เป็นปกติที่โปรโมชันในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีจะต้องร้อนแรงเพื่อกระตุ้นการซื้อ แต่หลังจากที่มีสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 เกิดขึ้น ทำให้ตลาดต้องซบเซาไปหลายเดือน โปรโมชันในช่วงโค้งสุดท้ายนี้จึงดุเดือดกว่าที่คิด หลายโปรโมชันมีความคุ้มค่าเพราะลดแลกแจกแถมกันค่อนข้างมาก แต่อีกหลายโปรโมชันก็เป็นเพียงการช่วยลูกค้าแบ่งเบาภาระทางด้านค่าใช้จ่าย และเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น งานนี้จึงอยู่ที่ตัวผู้บริโภคเองว่าจะเลือกทางไหน แต่ไม่ว่าจะเลือกอย่างไรผู้ที่ได้ก็ประโยชน์ที่สุดก็คือค่ายรถอยู่ดี