ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง มั่นใจยอดขายรถโค้งหลังโตแรง อานิสงส์ค่ายรถเตรียมอวดโฉมรุ่นใหม่ เขย่าตลาดในงาน Motor Expo 2020 พร้อมโปรแรง! กระตุ้นกำลังซื้อ ผู้บริหารย้ำเตรียมเปิดศูนย์ซ่อมรถยนต์ทุกยี่ห้อ (Fast Fit) ตามแผน วางเป้าปี 64 แจ้งเกิดไม่ต่ำกว่า 10 สาขา หนุนผลงานโตแกร่ง
นายภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (ACG) ดีลเลอร์รายใหญ่รถยนต์ฮอนด้า เปิดเผยว่า มั่นใจว่าแนวโน้มยอดขายรถยนต์ฮอนด้าในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้จะฟื้นตัว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของฮอนด้าที่จะออกมาเขย่าตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากงาน Motor Expo 2020 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37) ที่เตรียมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคม 2563 ซึ่งค่ายรถยนต์แต่ละค่ายพร้อมจัดโปรโมชันพิเศษ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่ในช่วงปลายปี
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เราได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องต่อสถานการณ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า อีกทั้งฮอนด้า มีการเปิดตัวรถยนต์หลายรุ่น เพื่อรองรับการเปลี่ยนไปของผู้บริโภครับกระแส New Normal”
นายภานุมาศ กล่าวว่า ACG ในฐานะดีลเลอร์รายใหญ่ของฮอนด้า ยอดขายเริ่มฟื้นตัวจากการที่ลูกค้าคลายกังวลสถานการณ์โรคระบาด โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาให้บริการจำนวน 9 สาขา ในพื้นที่เศรษฐกิจโดยเฉพาะสาขาที่ถือเป็นหัวหอกในการดำเนินธุรกิจคือภูเก็ต ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่กำลังเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง ถือเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญที่ช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ของบริษัทฯ
สำหรับแผนธุรกิจใหม่ที่จะเปิดศูนย์บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ ในรูปแบบของ Fast Fit ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะสามารถเดินได้ตามแผนที่วางไว้ โดยศูนย์บริการ Fast Fit ที่จะเริ่มเปิดดำเนินการนั้น คาดว่าจะเปิดที่จังหวัดภูเก็ตเป็นที่แรก ซึ่งนอกเหนือจากที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว ยังได้มีการเจรจาเพื่อหาพื้นที่ในการขยายศูนย์บริการ Fast Fit ไปยังหัวเมืองใหญ่ และในกรุงเทพฯ อีกหลายแห่ง ซึ่งคาดว่าหากสามารถเจรจาเรื่องพื้นที่ได้สำเร็จ จะทำให้ในปี 2564 ศูนย์บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษานี้ จะเติบโตและขยายสาขาได้มากกว่า 10 สาขาแน่นอน
“จุดเด่นที่น่าสนใจของธุรกิจ Fast Fit เรามองว่า รถยนต์ในประเทศไทยยังปริมาณที่มาก และลูกค้าเองก็ต้องการการบริการที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับศูนย์บริการของค่ายรถยนต์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ของการเป็นดีลเลอร์รถยนต์รายใหญ่ และการตอบสนองต่อการให้บริการกับลูกค้ามาอย่างยาวนาน จะทำให้ธุรกิจ Fats Fit ภายใต้การบริหารงานของบริษัท มีคุณภาพ ตรงตามที่ลูกค้าต้องการอย่างแน่นอน”
สำหรับรูปแบบการให้บริการของ Fast Fit จะมีความแตกต่างจากการให้บริการของศูนย์บริการรถยนต์ หรือโชว์รูมของค่ายรถยนต์โดยทั่วไปที่จะเน้นการเช็กระยะทั่วไป การซ่อมสี หรือบริการตรวจสภาพ ซึ่งสำหรับธุรกิจ Fast fit ของบริษัทจะเน้นการให้บริการที่รวดเร็ว เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ให้บริการและคำปรึกษาเปลี่ยนยางรถยนต์ การซ่อมช่วงล่างและระบบเบรก
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะเริ่มกลับมาดีขึ้นตามลำดับ หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ ส่งผลกระทบต่อยอดขาย อีกทั้งในช่วงโค้งสุดท้ายจากการที่ค่ายรถยนต์ฮอนด้ามีการปรับกลยุทธ์การตลาด และการออกรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น ประกอบกับระบบการบริหารจัดการสต๊อกรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพของบริษัทฯ ซึ่งจะทำให้รองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างเพียงพอ” นายภานุมาศ กล่าว