ส้มหยุด แต่การเปิดตัวรถจะหยุดไม่ได้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแม้จะอยู่ในช่วงการกักตัวของวิกฤตโควิด-19 แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตลาด 2 ล้อต้องชะงักลงแต่ประการใด เพราะในแวดวงรถมอเตอร์ไซค์ไฮโซก็มีการนำเสนอรุ่นใหม่ๆ รวมถึงการปรับราคาใหม่ที่เร้าใจมากขึ้น สร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างต่อเนื่องแบบไม่กลัวจะติดไวรัส ด้วยเหตุผลหลักคือการสร้างความเคลื่อนไหวให้ลูกค้าได้รับรู้กันว่า ขณะนี้แบรนด์มีสินค้าใหม่มาแล้ว สามารถเข้ามาเลือกซื้อเลือกชม และศึกษาข้อมูลกันได้แบบยาวนานขึ้น เพราะออกเดินทางไปไม่ได้นอกจากอยู่ในโลกของอินเทอร์เน็ตที่บ้าน
เวสป้า ส่ง 2 รุ่นใหม่และโปรโมชั่น เก่าแลกใหม่
เริ่มกันตั้งแต่แบรนด์รถคันเล็กแต่ราคาไม่ได้กะทัดรัดตามตัว อย่าง “เวสป้า” จัดกิจกรรมพิเศษภายใต้ชื่อ “VESPA MINI MOTOR SHOW ON TOUR” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกกับการ Live ผ่านช่องทางออนไลน์จากโชว์รูมเวสป้าพร้อมกันทั่วประเทศ รวมถึงยังได้เปิดตัว เวสป้า 2 รุ่นใหม่ คือ “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ สปอร์ต 300 เอชพีอี” (Vespa GTS Super Sport 300 HPE) และ “เวสป้า เรซซิ่ง ซิกส์ตี้” (Vespa Racing Sixties) พร้อมเปิดตัว LINE @vespathailand ให้ลูกค้าได้ติดตามข่าวสารโดยที่ไม่ต้องเดินทางมาโชว์รูม
สำหรับ เวสป้า ที่เปิดตัวท้าโควิดรุ่น “Vespa GTS Super Sport 300 HPE” มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ HPE ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่แรงที่สุดของเวสป้า โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำด้าน (Black Opaco) และสีเหลือง (Yellow Sole) รวมถึงเวสป้ารุ่นพิเศษอย่าง “Vespa Racing Sixties” ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากการแข่งขันรถยุค ‘60s เป็นการผสานความสปอร์ตเข้ากับความคลาสสิก โดยใช้สีรถตัดกับสีเส้นกราฟิก เพื่อให้ได้กลิ่นอายของรถแข่งยุคนั้น ซึ่งมีด้วยกัน 2 สี คือ รถสีเขียวเมทัลลิก ตัดด้วยเส้นกราฟิกสีเหลือง-ทอง (สี Green Racing Sixties) และรถสีขาว ตัดด้วยเส้นกราฟิกสีแดง-ทอง (สี White Racing Sixties) เพิ่มความสปอร์ตด้วยชุดแต่งสีดำด้านรอบคัน และคงความคลาสสิกด้วยล้อแม็กสีทองเมทัลลิก ซึ่งเป็นครั้งแรกของเวสป้าที่มีการแต่งล้อแม็กให้เป็นสี มาพร้อมกับของพรีเมียมเข้าชุด
ไม่ใช่แค่เปิดตัวเท่านั้นเวสป้ายังได้จัดโปรโมชั่นที่หลากหลาย เพื่อให้แฟนๆ และสาวกเวสป้าได้จับจองเป็นเจ้าของรถได้ง่ายๆ ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อาทิ การแถม Vespa Miniature ฟรีคูปองมูลค่า 3,000 บาท สำหรับใช้ที่โชว์รูมเวสป้าอย่างเป็นทางการทั่วประเทศหรือเพียงแค่แอด Line @vespathailand และลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ ก็ได้รับฟรีบัตรเติมน้ำมันฟรีแถมด้วยบริการส่งรถถึงบ้านทั่วประเทศ
นอกจากนี้เพื่อเป็นการทำให้รถในฝันเป็นจริงมากขึ้น เวสป้ายังได้มีโปรโมชั่น "เก่าแลกใหม่" เพียงนำรถมอเตอร์ไซค์หรือสกู๊ตเตอร์รุ่นใดหรือยี่ห้อใดก็ได้ มาแลกเป็นเวสป้าใหม่ได้ทุกรุ่น ได้รับค่าประเมินรถเก่าเพิ่มขึ้น 5,000 บาท เมื่อนำมาแลกเวสป้ารุ่น LX , S และ SPRINT , ได้รับค่าประเมินรถเก่าเพิ่มขึ้น 10,000 บาท เมื่อนำมาแลกเวสป้ารุ่น PRIMAVERA และ GTS ทุกรุ่น ยังไม่นับรวมการออกรถแล้วไม่ต้องผ่อน 2 เดือนแรก และการซื้ออะไหล่ตกแต่งเวสป้าทุกแพ็คเกจผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน เป็นต้น เรียกได้ว่าถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ โปรดีๆ แบบนี้อาจจะไม่มีให้เห็น
ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ลดราคาให้เข้าถึงง่ายขึ้น
ด้านรถมอเตอร์ไซต์ที่มีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเองแต่มีเสน่ห์จนทุกคนต้องเหลียวมองอย่าง ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ได้ทำการประกาศราคาใหม่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2020 ตระกูลยอดนิยมอย่าง สปอร์ตสเตอร์ 1200 (Sportster™1200), ซอฟเทล (Softail™) และ ทัวร์ริ่ง (Touring) ไม่ใช่ลดราคาเพราะพิษโควิด-19 เป็นเหตุ แต่เพื่อเป็นการตอบสนองเหล่าบรรดาผู้ขับขี่ชาวไทย ให้ได้เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสันได้ง่ายขึ้น ในราคาใหม่เริ่มต้นเพียง 572,500 บาท สำหรับรุ่นสปอร์ตสเตอร์ ไอรอน 1200 (Sportster Iron 1200™)
โดยฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์ในฝัน สามารถเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน™ สำหรับรุ่นปี 2020 กับราคาใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนนี้ ผ่าน 11 ผู้จำหน่ายฮาร์ลีย์-เดวิดสัน อย่างเป็นทางการ โดยการประกาศราคาใหม่ในครั้งนี้เป็นความตั้งใจของบริษัทที่ต้องการทำให้ผู้ขับขี่รุ่นใหม่สามารถเข้าถึงประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้มากขึ้น เพราะประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในกลุ่มตลาดที่ใหญ่และเติบโตมาอย่างยาวนานในเอเชีย การปรับราคาจึงส่งผลดีต่อตลาดและเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับเหล่าลูกค้าที่อยากเป็นเจ้าของได้มีโอกาสเข้าถึงได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ทางด้านการทดลองขับขี่และสัมผัสรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสันในรุ่นปี 2020 จะมีความง่ายและสะดวกสบายด้วยบริการจัดส่งรถมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ที่มาพร้อมกับการบริการให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองขับขี่ถึงที่บ้าน รวมไปถึงจะได้สิทธิ์เลือกรับรถตามสถานที่ที่ต้องการอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยูมาหลายรุ่นหลากราคา
ในบรรดามอเตอร์ไซค์ไฮโซ บีเอ็มดับเบิลยูนับว่ามีความหลากหลายของรุ่นรถมากที่สุด มีรถให้เลือกหลากหลายตามการใช้งาน ซึ่งในโมเดลใหม่ที่นำเสนอกันนี้มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ราคา 209,000 บาท ในรุ่น G 310 R ไปจนถึงราคา 1,174,000 บาท ในรุ่น R 1250 GS Adventure (Limited Edition) โดยมีให้เลือกกันถึง 9 รุ่น แต่ เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ขอเลือกที่เด่นๆ มายั่วน้ำลายกัน 4 รุ่น
เริ่มตั้งแต่บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS เป็นรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่สองต่อจากบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี เป็นเครื่องยนต์หนึ่งสูบ 313 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำให้กำลังสูงสุด 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 28 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และระบบกันสะเทือนหน้าที่มีขนาดยาว ยังช่วยให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่านั่งหลังตรงที่ผ่อนคลาย พร้อมช่วยในการบังคับทิศทางที่คล่องแคล่วและแม่นยำ โดยระบบช่วงล่างเป็นเฟรมตัวถังเหล็กกล้าและท้ายรถแบบ bolt-on ที่มีความทนทานและแข็งแกร่ง อันเป็นปัจจัยสำคัญทำให้รถมอเตอร์ไซค์คันนี้โดดเด่นเรื่องของเสถียรภาพในการขับขี่และความแม่นยำในการบังคับทิศทาง
บีเอ็มดับเบิลยู C 400 GT สมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูลสกู๊ตเตอร์ขนาดกลาง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หนึ่งสูบที่เน้นความประหยัดน้ำมัน พละกำลังสูงสุด 25 กิโลวัตต์ / 34 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์ CVTเสริมความสะดวกสบายด้วยหน้าจอ TFT Screen ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อม BMW ConnectedRide ที่สามารถเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนและหมวกกันน็อกที่รองรับระบบบลูทูธได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะการขับขี่แบบทัวริ่งในสไตล์แกรนทัวริสโม ให้เพลิดเพลินทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ระยะใกล้หรือไกล มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลังและระบบ ABS กระจกบังลมออกแบบมาให้สูงขึ้น และช่องเก็บของแบ่งพื้นที่ภายในเป็นสองส่วนเพื่อความสะดวกสบายและเป็นระเบียบ มีช่องเก็บหมวกกันน็อก Flexcase ที่พับเก็บอยู่ใต้เบาะแบบตอนเดียว อีกทั้งยังมอบความสะดวกสบายให้แก่ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยพนักพิงแยกบนที่นั่งสำหรับผู้ขับขี่ และบอร์ดวางเท้าสำหรับผู้โดยสาร ให้ขับขี่อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย ตอบได้ทุกโจทย์ในชีวิตประจำวัน
บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS Adventure เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักผจญภัย มาพร้อมเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 853 ซีซี ส่งกำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ / 95 แรงม้า ที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 92 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์ 6 สปีดที่อยู่พร้อมโหมดการขับขี่ ‘Rain’ และ ‘Road’ พร้อม Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่ ‘Dynamic’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Dynamic ESA, Dynamic Traction Control (DTC) และ Keyless Ride ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน ปลอดภัยทุกการเข้าโค้งด้วยระบบเบรก ABS และระบบ ASC (Automatic Stability Control) พร้อมไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Dynamic Brake Light) มาพร้อมกระจกกันลมขนาดใหญ่ขึ้น สามารถปรับได้ 2 ระดับ รวมถึงการ์ดแฮนด์ เพิ่มการป้องกันจากสภาพลมและฝนให้แก่ผู้ขับขี่ อุปกรณ์พื้นฐานยังมีไฟหน้า LED ที่วางเท้าแบบเอนดูโร่ คันคลัทช์และเบรกปรับได้ โครงป้องกันเครื่องยนต์ และที่วางสัมภาระด้านท้ายในวัสดุสแตนเลส สตีล
ปิดท้ายกันด้วยบีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure (Limited Edition) Exclusive Style สี Kalamata Metallic Matt สะท้อนดีเอ็นเอของนักผจญภัยด้วยสมรรถนะเต็มพิกัดเพื่อการขับขี่ออฟโรดอย่างแท้จริง มาพร้อมโหมดการขับขี่สองแบบคือ ‘Rain’ และ ‘Road’ และ Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่แบบโปร คือ ‘Dynamic’, ‘Dynamic Pro’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ ส่วนตัวถังน้ำมันปรับให้จุมากขึ้นถึง 30 ลิตร เหมาะสำหรับการขับขี่ระยะไกล มาพร้อมไฟหน้า LED สะดุดตา ล้อซี่ลวด ลาย Cross Spoke และชุดกล่องสัมภาระอะลูมิเนียม (Aluminum Panniers) 3 ใบ และยังมาพร้อมกับจอแสดงผลสีแบบ TFT ขนาด 6.5 นิ้ว ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ ทั้งยังมาพร้อมกับ BMW Motorrad Multi-Controller ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงการทำงานของรถและการเชื่อมต่อได้สะดวก
การเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สำหรับไฮโซกลุ่มนี้ แม้จะเป็นรถในกลุ่มที่น้อยคนจะสามารถเอื้อมถึงได้ แต่นับว่าเป็นการสร้างสีสันทางการตลาดให้กับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่รถ 2 ล้อได้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงที่กักการท่องโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อดูสิ่งที่ตัวเองชอบเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคยุคโควิด-19 นิยมทำกัน การได้ศึกษาและเรียนรู้เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะสร้างการจดจำ เพราะถ้าวันหนึ่งลูกค้าเหล่านี้มีกำลังซื้อ แน่นอนว่ารถที่พวกเขาเห็นอย่างชินตาจะทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อแต่ละค่ายต่างทำราคาในตัวเริ่มต้นสามารถเข้าถึงง่ายขึ้นแตกต่างจากเดิมที่เกินเอื้อม เรียกได้ว่าในวิกฤตจะมีโอกาสเสมอ