คาวาลลิโน มอเตอร์ เปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด "เฟอร์รารี่ โรมา" ในประเทศไทย มากับตัวถังแบบ 2+2 ที่นั่ง เครื่องยนต์วางกลางทางด้านหน้า เจาะกลุ่มลูกค้าเน้นใช้งานทุกวัน เคาะราคาเริ่มต้นเพียง 21.23 ล้านบาท ถูกที่สุดในไลน์อัพ
บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่าย เฟอร์รารี่ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เฟอร์รารี่ โรมา (Ferrari Roma) รถสปอร์ต 2+2 ที่นั่งสไตล์เฉพาะตัวตามแบบฉบับอิตาเลียนขนานแท้ สะท้อนภาพวิถีชีวิตอันสมบูรณ์ด้วยความสุขของกรุงโรมยุค ‘50s และ ‘60s ซึ่งที่มาของชื่อ “โรมา”
การออกแบบภายนอกเป็นฝีมือของ เฟอร์รารี่ สไตลิ่ง เซนเตอร์ (Ferrari Styling Centre) ด้วยแนวคิด La Nuova Dolce Vitaโดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่เรียบง่ายสะอาดตา สัดส่วนที่ลงตัวและความสง่างามถูกผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
ดุลยภาพเหล่านี้เทียบเคียงได้กับรถแกรนด์ทัวริ่งเครื่องยนต์วางกลางด้านหน้าในตำนานอันโด่งดังของเฟอร์รารี่ ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือรุ่น 250 จีที เบอร์ลิเนตต้า ลุสโซ และ 250 จีที แบบ 2+2 ที่นั่ง รถซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ เฟอร์รารี่ โรมา ขึ้นมา
รูปโฉมของตัวถังเริ่มจากเส้นสายลากยาวจากฝากระโปรงหน้าเน้นแสงเงา ไปสู่ช่วงห้องโดยสารที่มีขนาดกะทัดรัดและลาดเอียงไปจรดท้ายรถ มีการลดรายละเอียดบางส่วนออกไปเพื่อเน้นย้ำสไตล์แบบมินิมอลให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น กระจังหน้าแบบใหม่ที่มีช่องรับลมสำหรับระบายความร้อนหม้อน้ำ
ชุดไฟหน้าแบบเมทริกซ์แอลอีดีปรับลำแสงได้ (Full-LED adaptive headlights) ถูกแบ่งครึ่งด้วยแถบไฟแนวนอนที่มีโครงสร้างฝังลึกลงไปในตัวถัง เพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่งตัดกับความโค้งมนของตัวรถโดยรวมได้อย่างลงตัว กระจกหลังโอบล้อมห้องโดยสารส่วนท้ายของรถ เก็บซ่อนสปอยเลอร์แบบแอคทีฟเข้าไว้ได้อย่างแนบเนียน ขณะที่ชุดไฟท้ายคู่ก็ถูกออกแบบให้ดูราวกับอัญมณีที่เปล่งประกาย
โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ โดยชิ้นส่วนต่างๆ กว่า 70% เป็นแบบใหม่ทั้งหมด เน้นในเรื่องของการลดน้ำหนัก ทำให้ เฟอร์รารี่ โรมา เป็นรถที่มีอัตราส่วน น้ำหนัก/แรงม้า ดีที่สุดในคลาส (2.37 กก./แรงม้า) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับควบคุมและการตอบสนองที่ดีขึ้น
เครื่องยนต์วางกลางทางด้านหน้าแบบ V8 เทอร์โบ ขนาด 3.9 ลิตร กำลังสูงสุด 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ตระกูล V8 ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ International Engine of the Year ถึง 4 ปีซ้อน มาพร้อมกับระบบควบคุมแรงบูสต์แบบแปรผัน (VariableBoost Management) ช่วยให้คันเร่งตอบสนองฉับไวในทุกจังหวะความเร็ว นอกจากนั้น ระบบไอเสียยังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยการเปลี่ยนจากหม้อพักไอเสียมาเป็นการใช้บายพาสวาล์วแบบใหม่แทน
ระบบส่งกำลังใหม่แบบ 8 สปีด คลัทช์คู่ ขนาดกะทัดรัดและเบากว่าเกียร์ 7 สปีดรุ่นที่แล้วถึง 6 กิโลกรัม และไม่เพียงแค่ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมถึงการปล่อยมลพิษเท่านั้น แต่ชุดเกียร์รุ่นใหม่นี้ยังเปลี่ยนจังหวะได้รวดเร็วและนุ่มนวลกว่าเดิม สะดวกสบายเมื่อใช้งานในเมืองที่มีการจราจรเคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่งตลอดเวลา
เฟอร์รารี่ โรมา มาพร้อมระบบควบคุมประสิทธิภาพการทรงตัวอันล้ำสมัยใหม่ล่าสุดของเฟอร์รารี่ เช่น ระบบควบคุมการลื่นไถลด้านข้างเวอร์ชั่น 6.0 (Side Slip Control 6.0) ซึ่งถือเป็นสปอร์ตคาร์จีทีคันแรกของเฟอร์รารี่ที่ใช้ระบบนี้ ด้วยสวิตช์มาเนตติโน 5 ตำแหน่ง และระบบเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว (Ferrari Dynamic Enhancer) ซึ่งจะควบคุมองศาการเอียงของตัวรถด้วยการปรับแรงดันน้ำมันเบรกที่คาลิเปอร์โดยตรง
เฟอร์รารี่ โรมา ยังมากับเทคโนโลยีใหม่หลายรายการ เช่น สปอยเลอร์ติดตั้งซ่อนอยู่ในกระจกหลังอย่างแนบเนียน เพื่อคงความหรูหราของตัวรถเอาไว้ และสามารถสร้างแรงกดอากาศ ด้วยการยกตัวสปอยเลอร์ขึ้นอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
ห้องโดยสารของ เฟอร์รารี่ โรมา มีรูปแบบแบ่งแยกฝั่งผู้ขับและผู้โดยสารออกจากกันเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ตามหลักปรัชญา “สายตาอยู่ที่ถนนเบื้องหน้า มือจับบนพวงมาลัย” ฟังก์ชันหลักสั่งการได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยผู้ขับไม่จำเป็นต้องละมือออกจากพวงมาลัย
หน้าปัดใหม่เป็นจอแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 16 นิ้ว ให้ข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน ส่วนจอแสดงผลกลางมีขนาด 8.4 นิ้ว แนวตั้ง รวมทั้งจอฝั่งผู้โดยสาร ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกและเข้าใจง่าย กุญแจแบบใหม่ของเฟอร์รารี่มาพร้อมกับฟังก์ชัน “Comfort Access” ช่วยให้ผู้ขับสามารถเปิดรถได้ด้วยการสัมผัสปุ่มซึ่งติดตั้งอยู่ถัดจากมือเปิดประตูแบบใหม่ที่แนบสนิทไปกับตัวรถ
เสริมความปลอดภัยด้วย ระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ (ADAS – Advanced Driver Assistance System) ซึ่งนั่นรวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับความเร็วตามคันหน้า
เฟอร์รารี่ โรม่า เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น 21,230,000 บาท พร้อมส่งมอบได้ราวต้นปีหน้า
บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่าย เฟอร์รารี่ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ เฟอร์รารี่ โรมา (Ferrari Roma) รถสปอร์ต 2+2 ที่นั่งสไตล์เฉพาะตัวตามแบบฉบับอิตาเลียนขนานแท้ สะท้อนภาพวิถีชีวิตอันสมบูรณ์ด้วยความสุขของกรุงโรมยุค ‘50s และ ‘60s ซึ่งที่มาของชื่อ “โรมา”
การออกแบบภายนอกเป็นฝีมือของ เฟอร์รารี่ สไตลิ่ง เซนเตอร์ (Ferrari Styling Centre) ด้วยแนวคิด La Nuova Dolce Vitaโดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ที่เรียบง่ายสะอาดตา สัดส่วนที่ลงตัวและความสง่างามถูกผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
ดุลยภาพเหล่านี้เทียบเคียงได้กับรถแกรนด์ทัวริ่งเครื่องยนต์วางกลางด้านหน้าในตำนานอันโด่งดังของเฟอร์รารี่ ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือรุ่น 250 จีที เบอร์ลิเนตต้า ลุสโซ และ 250 จีที แบบ 2+2 ที่นั่ง รถซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ เฟอร์รารี่ โรมา ขึ้นมา
รูปโฉมของตัวถังเริ่มจากเส้นสายลากยาวจากฝากระโปรงหน้าเน้นแสงเงา ไปสู่ช่วงห้องโดยสารที่มีขนาดกะทัดรัดและลาดเอียงไปจรดท้ายรถ มีการลดรายละเอียดบางส่วนออกไปเพื่อเน้นย้ำสไตล์แบบมินิมอลให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น กระจังหน้าแบบใหม่ที่มีช่องรับลมสำหรับระบายความร้อนหม้อน้ำ
ชุดไฟหน้าแบบเมทริกซ์แอลอีดีปรับลำแสงได้ (Full-LED adaptive headlights) ถูกแบ่งครึ่งด้วยแถบไฟแนวนอนที่มีโครงสร้างฝังลึกลงไปในตัวถัง เพิ่มความรู้สึกแข็งแกร่งตัดกับความโค้งมนของตัวรถโดยรวมได้อย่างลงตัว กระจกหลังโอบล้อมห้องโดยสารส่วนท้ายของรถ เก็บซ่อนสปอยเลอร์แบบแอคทีฟเข้าไว้ได้อย่างแนบเนียน ขณะที่ชุดไฟท้ายคู่ก็ถูกออกแบบให้ดูราวกับอัญมณีที่เปล่งประกาย
โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ โดยชิ้นส่วนต่างๆ กว่า 70% เป็นแบบใหม่ทั้งหมด เน้นในเรื่องของการลดน้ำหนัก ทำให้ เฟอร์รารี่ โรมา เป็นรถที่มีอัตราส่วน น้ำหนัก/แรงม้า ดีที่สุดในคลาส (2.37 กก./แรงม้า) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับควบคุมและการตอบสนองที่ดีขึ้น
เครื่องยนต์วางกลางทางด้านหน้าแบบ V8 เทอร์โบ ขนาด 3.9 ลิตร กำลังสูงสุด 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ตระกูล V8 ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ International Engine of the Year ถึง 4 ปีซ้อน มาพร้อมกับระบบควบคุมแรงบูสต์แบบแปรผัน (VariableBoost Management) ช่วยให้คันเร่งตอบสนองฉับไวในทุกจังหวะความเร็ว นอกจากนั้น ระบบไอเสียยังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยการเปลี่ยนจากหม้อพักไอเสียมาเป็นการใช้บายพาสวาล์วแบบใหม่แทน
ระบบส่งกำลังใหม่แบบ 8 สปีด คลัทช์คู่ ขนาดกะทัดรัดและเบากว่าเกียร์ 7 สปีดรุ่นที่แล้วถึง 6 กิโลกรัม และไม่เพียงแค่ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรวมถึงการปล่อยมลพิษเท่านั้น แต่ชุดเกียร์รุ่นใหม่นี้ยังเปลี่ยนจังหวะได้รวดเร็วและนุ่มนวลกว่าเดิม สะดวกสบายเมื่อใช้งานในเมืองที่มีการจราจรเคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่งตลอดเวลา
เฟอร์รารี่ โรมา มาพร้อมระบบควบคุมประสิทธิภาพการทรงตัวอันล้ำสมัยใหม่ล่าสุดของเฟอร์รารี่ เช่น ระบบควบคุมการลื่นไถลด้านข้างเวอร์ชั่น 6.0 (Side Slip Control 6.0) ซึ่งถือเป็นสปอร์ตคาร์จีทีคันแรกของเฟอร์รารี่ที่ใช้ระบบนี้ ด้วยสวิตช์มาเนตติโน 5 ตำแหน่ง และระบบเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว (Ferrari Dynamic Enhancer) ซึ่งจะควบคุมองศาการเอียงของตัวรถด้วยการปรับแรงดันน้ำมันเบรกที่คาลิเปอร์โดยตรง
เฟอร์รารี่ โรมา ยังมากับเทคโนโลยีใหม่หลายรายการ เช่น สปอยเลอร์ติดตั้งซ่อนอยู่ในกระจกหลังอย่างแนบเนียน เพื่อคงความหรูหราของตัวรถเอาไว้ และสามารถสร้างแรงกดอากาศ ด้วยการยกตัวสปอยเลอร์ขึ้นอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
ห้องโดยสารของ เฟอร์รารี่ โรมา มีรูปแบบแบ่งแยกฝั่งผู้ขับและผู้โดยสารออกจากกันเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ตามหลักปรัชญา “สายตาอยู่ที่ถนนเบื้องหน้า มือจับบนพวงมาลัย” ฟังก์ชันหลักสั่งการได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยผู้ขับไม่จำเป็นต้องละมือออกจากพวงมาลัย
หน้าปัดใหม่เป็นจอแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 16 นิ้ว ให้ข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วน ส่วนจอแสดงผลกลางมีขนาด 8.4 นิ้ว แนวตั้ง รวมทั้งจอฝั่งผู้โดยสาร ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวกและเข้าใจง่าย กุญแจแบบใหม่ของเฟอร์รารี่มาพร้อมกับฟังก์ชัน “Comfort Access” ช่วยให้ผู้ขับสามารถเปิดรถได้ด้วยการสัมผัสปุ่มซึ่งติดตั้งอยู่ถัดจากมือเปิดประตูแบบใหม่ที่แนบสนิทไปกับตัวรถ
เสริมความปลอดภัยด้วย ระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ (ADAS – Advanced Driver Assistance System) ซึ่งนั่นรวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับความเร็วตามคันหน้า
เฟอร์รารี่ โรม่า เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น 21,230,000 บาท พร้อมส่งมอบได้ราวต้นปีหน้า