ภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ปัจจุบันนี้ยังเป็นที่ถกเถียงอยู่ว่า มันดีหรือแย่... ซึ่ง ฟังจากภาครัฐและนักวิชาการบางส่วนเราจะได้ยินแต่คำว่า “ดี ยังเติบโตได้” ส่วนภาคเอกชนและประชาชนจะได้ยินอะไรที่ตรงกันข้าม ยอดขายต่างๆ ลดลง การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนยังไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง ทำให้ยังเป็นข้อที่สับสนอยู่มิใช่น้อย ซึ่งอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวบ่งชี้สภาพเศรษฐกิจได้ดีคือ ตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สถานการณ์
ล่าสุดในภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ ตลาดรถยนต์ใหม่ทั้งปี 2562 คาดหมายว่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ระดับ 1 ล้านคัน อาจจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เรียกว่า ทรงตัวในระดับเดียวกัน อย่างไรก็ตามยังมีอีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจนั่นคือ ตลาดรถมือสอง สิ่งหนึ่งที่รู้สึกแปลกประหลาดใจอย่างมาก “การประมูลรถมือสอง” ... แน่นอนเบื้องต้นคือ จากการสังเกตมีรถยนต์เข้ามาประมูลนับพันคันในแต่ละสัปดาห์ รถมอเตอร์ไซค์นับร้อยคัน เฉพาะที่สำนักงานใหญ่ของ สหการประมูลเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ไม่นับรวมที่อื่นๆ แสดงให้เห็นถึงอะไร...??? “รถยึดและหนี้เสีย” ที่ชัดเจนที่สุด ประชาชนผู้ผ่อนรถไม่สามารถผ่อนต่อจนจบได้ ทำให้สถาบันการเงินต้องยึดรถแล้วนำมาประมูลขายทอดตลาด (ตามที่กฎหมายกำหนดให้ทำ)
นั่นหมายความว่า ประชาชนที่ซื้อรถไปแล้ว ไม่มีกำลังที่จะผ่อนต่อไปได้นั่น สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสองข้อหลัก หนึ่งคือ เศรษฐกิจที่ถดถอย และสอง คือการปล่อยสินเชื่อที่หละหลวมเกินไป จึงนำไปสู่มาตรฐานรัดเข็มขัด คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ก็หวังว่าน่าจะช่วยได้ในระยะยาว ซึ่งกรณีนี้จะให้สรุปว่า เศรษฐกิจแย่เลย คงไม่ใช่ซะทีเดียว เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น... คำตอบ ... ถ้าเศรษฐกิจแย่ ราคารถมือสองจะต้องถูกลงตามไปด้วย เพราะบรรดาพ่อค้ารถมือสองทั้งหลายย่อมต้องป้องกันตัวเอง ไม่มีทางซื้อแพง เพื่อไปขายถูกมีแต่จะซื้อให้ถูก เพื่อไปขายแพง... เขาจะคำนึงถึงราคาที่จะขายต่อได้ก่อนเป็นลำดับแรก เช่นเดียวกับ คนที่กำลังหารถมือสอง กำลังซื้อจะต้องลดลง เพราะเงินในกระเป๋านั้น จะน้อยลง ... แต่การณ์กลับหาได้เป็นเช่นนั้นไม่... ราคาประมูลรถมือสอง นัดแรกของปีนี้ ฟังเสียงบ่นจากบรรดาพ่อค้ารถหลายคนที่เข้าประมูล “บ้าไปแล้ว รถปีนี้แพงกว่ารถปีที่แล้ว” , “ปีก่อนซื้อแค่ 2 ปลาย ปีนี้ล่อไป 3 กว่า” , “ไหนว่าเศรษฐกิจไม่ดี ทำไมมือสองแพงขึ้น” ตัวอย่างเสียงบ่นที่ได้ยินจากลานประมูล ... และทุกคนก็ยังประมูลสู้กัน
ตามหลักง่ายๆ ซื้อถูกขายแพง ไม่มีทางที่พวกเขาเหล่านั้นจะยอมควักเนื้อ ถ้าคิดว่าขายไม่ได้ราคามากกว่าที่ประมูลไป และเชื่อหรือไม่ว่า รถแทบทุกคัน (เว้นรถที่มีปัญหาเกี่ยวกับทะเบียน) มีผู้ประมูลไปจนหมด แสดงให้เห็นถึงอะไร... “มั่นใจว่าขายได้ ชัดเจนว่ากำลังซื้อยังคงมีอยู่” แบบนี้ดูมันจะย้อนแยงในตัวเองอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะถ้าเศรษฐกิจแย่จริงๆ การประมูลรถมือสองจะย่ำแย่ตามไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย ราคารถมือสองจะดิ่ง เพราะรถขายไม่ได้ บรรดาพ่อค้าเหล่านี้ เงินหมุนทั้งนั้น ไม่มีใครอยากซื้อรถแล้วดองไว้รอขาย ทุกคนอยากขายได้ไวๆ หมุนรอบให้เร็ว
ทั้งนั้น บางคนอาจจะคิดว่า ก็พวกที่รถถูกยึดไง กลับมาซื้อใหม่... เป็นไปไม่ได้จ้า... ทันทีที่รถคุณโดนยึด แบล็คลิส ขึ้นทันที และไม่มีทางที่จะกู้ผ่าน ดังนั้น คนที่ซื้อมือสองพวกนี้ ย่อมเป็นลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง ที่แตกต่างจากกลุ่มที่ซื้อรถใหม่แล้วโดนยึด นั่นก็ชัดเจนว่า เขามีเงินและกล้าจับจ่ายซื้อรถด้วย ถามคำเดียว คุณว่าเศรษฐกิจไทย ยังดีอยู่หรือไม่... คำตอบของข้าพเจ้าคือ ตอบไม่ได้จริงๆ ... แต่ที่ตอบได้ชัดๆ คือ เงินในระบบค่อนข้างฝืด รากหญ้ากำลังแย่ ชนชั้นกลางกำลังโดนรีดภาษี และชนชั้นบนนอนกุมขมับ ... แล้วจะแก้อย่างไร... การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบคือ คำตอบ ... แต่วิธีการนั้น ไม่ใช่แจกอย่างที่รัฐทำอยู่... ส่วนจะทำแบบไหน ไว้ว่างแล้วจะมาเล่าให้อ่านกัน ...