เปิดใจ “ชาญชัย ตระการอุดมสุข” ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ถึงสถานการณ์ตลาดรถยนต์ไทยในเวลานี้ และการเปิดตัวเรือธงคันใหม่ล่าสุดอย่าง มาสด้า ซีเอ็กซ์-8 ว่าจะมีส่วนช่วยด้านยอดขายอย่างไรบ้าง
ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปีนี้
ประเมินว่าจะทรงตัวเท่าๆ กับปีที่แล้ว 1,000,000 คัน โดยน่าจะทำได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าลดลงคงเล็กน้อย ภาพรวมปิกอัพคงยังครองส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุดราว 42% และรถยนต์นั่งแบบอีโคคาร์ได้รับความนิยมรองลงมา ขณะที่รถยนต์เอนกประสงค์แบบเอสยูวีมีสัดส่วนการขายที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะรถเอสยูวีขนาดเล็กเติบโตกว่า 30%
ปรับกลยุทธ์อย่างไร
จัดกิจกรรมที่เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น โดยสนับสนุนให้ดีลเลอร์ออกงานในพื้นที่ของตัวเอง ทั้งการจัดงานที่โชว์รูม หรือไปจัดกิจกรรมตามตลาดท้องถิ่นเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ซึ่งการเปิดตัว ซีเอ็กซ์-8 จะช่วยกระตุ้นการรับรู้และการออกโรดโชว์นั้น แม้จะไม่ได้ยอดของซีเอ็กซ์-8 แต่จะมีส่วนช่วยให้รุ่นอื่นขายได้
จุดเด่นของ ซีเอ็กซ์-8
มาสด้า ซีเอ็กซ์-8 เป็นเรือธงใหม่ของเรา สร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่ง โดยมีจุดเด่นคือเป็นรถเอนกประสงค์แบบ 6-7 ที่นั่ง ซึ่งไม่มีคู่แข่งโดยตรง นับเป็นการเปิดเซ็กเมนท์ใหม่ แต่หากดูลักษณะการใช้งานและราคาที่ใกล้เคียงคัน จะเทียบได้กับรถในหมวดของพีพีวีทุกคัน ซึ่งมาสด้า ซีเอ็กซ์-8 เหนือกว่าโดยเฉพาะเบาะนั่งแถวที่สามที่นั่งได้สบายที่สุด
ยอดขาย 10 เดือนที่ผ่านมา
ตัวเลขยอดขายอยู่ที่ประมาณ 840,000 คัน ยังอยู่ในระดับเดียวกับที่มาสด้าประเมินเอาไว้ ส่วนยอดขายมาสด้าทำได้ 49,668 คัน ลดลง 13.5% ซึ่งเกิดจากการที่มาสด้าไม่มีรถใหม่เปิดตัวในช่วงต้นปีและอยู่ระหว่างการเปลี่ยนโมเดลใหม่ ซึ่งเราเปิดตัวในช่วงปลายปีทั้งมาสด้า , มาสด้า ซีเอ็กซ์ และ มาสด้า ไมเนอร์เชนจ์ ที่กำลังจะแนะนำตัวในช่วงงานมอเตอร์ เอ็กโป
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งคือเรื่องของการปล่อยสินเชื่อของสถานบันการเงินที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะกระทบต่อยอดขายแต่คงเป็นเพียงระยะสั้น เรามองว่าจะเป็นผลดีในระยะยาว และมีการพูดคุยกับสถาบันการเงินที่สนับสนุนเราเรียบร้อยแล้ว
ความคาดหวังต่อ ซีเอ็กซ์-8
มาสด้า ตั้งเป้าจำหน่ายเอาไว้ที่ 6,000 คัน ในระยะเวลาหนึ่งปี หรือราว 500 คันต่อเดือน โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าครอบครัวขนาดใหญ่ ที่มีสมาชิกราว 6-7 คน คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีในรุ่นเบนซิน 2.5 SP ราคา 1,699,000 บาท ซึ่งซีเอ็กซ์-8 จะมีส่วนช่วยทำให้มาสด้าสามารถบรรลุเป้าหมายการขายทั้งปีที่ 65,000 คันได้