มาตามคาดสำหรับ CR-V รุ่นปรับโฉมหรือไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งในตลาดสหรัฐอเมริกามีการ เปิดตัวออกมาแล้ว ปรับหน้าตารอบคันให้ดูสดใสขึ้น พร้อมกับเพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยรุ่นไฮบริดที่จะเข้ามาแทนที่รุ่นเครื่องยนต์ 2,400 ซีซี ส่วนรุ่นปกติจะเป็นหน้าที่ของขุมพลัง 1,500 ซีซี เทอร์โบบล็อกเดียวกับที่อยู่ใน Civic และ Accord บ้านเรา
CR-V รุ่นปัจจุบันถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 5 ของรถยนต์ SUV รุ่นยอดนิยมของฮอนด้า ที่เปิดตัวออกมาในปี 1995 โดยรุ่นที่ขายอยู่ในตอนนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 พร้อมหลากหลายทางเลือกของเครื่องยนต์ที่ขึ้นอยู่กับกลุ่มตลาด โดยในตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกาจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซี เทอร์โบ และ 2,400 ซีซี ขณะที่เมืองไทยมีรุ่น 2,400 ซีซีสำหรับเบนซิน และอีกรุ่นเป็นเทอร์โบดีเซล
สำหรับไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้เปิดตัวที่ตลาดสหรัฐอเมริกา โดยในแง่ของความเปลี่ยนแปลงเชิงรูปลักษณ์มีไม่เยอะอย่างที่คิด เพราะมีแค่การเปลี่ยนกันชนหน้าทรงใหม่ ขณะที่ด้านท้ายไฟเลี้ยวที่เป็นเลนส์ใสก็ถูกรมดำ ขณะที่ข้างในแทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงในแง่ของชิ้นส่วนหลักเลย
ประเด็นหลักของการปรับโฉมคือ การส่งรุ่นไฮบริดลงสู่ตลาดเพื่อเข้ามาทดแทนรุ่นเบนซิน 2,400 ซีซี โดยขุมพลังไฮบริดชุดนี้ยกมาจากแอคคอร์ดใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC Atkinson cycle 2,000 ซีซี ร่วมกับ 2 มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้มีกำลังรวม 212 แรงม้า ทางฮอนด้าอ้างว่ารถเอสยูวีที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดสามารถเพิ่มการประหยัดน้ำมันได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี เทอร์โบที่ไม่มีมอเตอร์ช่วย นอกจากนี้ในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของรถยังใช้คลัตช์อีเล็กทรอนิกทำงานเพื่อส่งกำลังไปยังล้อหลังเมื่อตรวจจับพบพื้นผิวถนนที่ลื่น
นอกจากนั้นฮอนด้ายังติดตั้งระบบ Honda Sensing ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่นย่อยจากเดิมที่มีเฉพาะรุ่นท็อป โดยระบบที่อยู่ในกลุ่มนี้คือ CMS-Collision Mitigation Braking System พร้อมกับ FCW-Forward Collision Warning แจ้งเตือนให้ผู้ขับรับทราบหากมีความเสี่ยงในการเกิดการชนทางด้านหน้า หรือช่วยลดความรุนแรงหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนทางด้านหน้า ระบบ RDM-Road Departure Mitigation พร้อม LDW-Lane Departure Warning ช่วยแจ้งเตือนเมื่อตัวรถแล่นออกนอกช่องทาง รวมถึงระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันความเร็วอัตโนมัติ
ในอเมริกาจะเริ่มวางขายช่วงปลายปีนี้ ส่วนบ้านเรา CR-V น่าจะถึงเวลาปรับโฉมตามแล้ว และน่าจะเร็วสุดก็คืองานมอเตอร์ เอ็กซ์โปช่วงปลายปีนี้