xs
xsm
sm
md
lg

ท้องถนนแห่งความทรงจำของ “โต้” วิรุนันท์ ชิตเดชะ กับ BMW X1

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


"โต้" วิรุนันท์ ชิตเดชะ ช่างภาพอาชีพ เจ้าของผลงานนิทรรศการ The Last Light (แสงสุดท้าย) ให้สัมภาษณ์ถึง ความทรงจำ ความผูกพัน แรงบันดาลใจผ่านภาพถ่ายคอนเซ็ปต์ “Let the xRoad takes you” กับ BMW X1

แรงบันดาลใจของผลงานเซ็ตนี้คืออะไร?
ตอนแรกพอได้ยิน concept GET OUT THERE ก็มานั่งคิดว่าเราควรทำอะไรดีที่จะตอบความเป็นตัวเอง ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของเรา พอดีปรกติเป็นคนชอบ แสง สี เส้น สาย อะไรอยู่แล้วถ้าสังเกตในงานก่อน ๆ ที่เคยทำ เคยถ่ายมา มันก็เลยทำให้รู้สึกว่าอยากลอง อยากพาตัวเอง ขับรถออกไปสัมผัส Bangkok night life ดู เพราะว่าเราเคยทำ campaign เกี่ยวกับพวก night life in Bangkok อะไรมาค่อนข้างเยอะ มันเลยเป็นสิ่งที่ผูกพันกับเรา สิ่งที่ทำคือเราพยายามที่จะทำอะไรที่มันสะท้อนความเป็นตัวเรา และความเป็น BMW X1 บวกเข้าไปกับ Bangkok night life สิ่งเหล่านี้ทั้งปวงคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดภาพถ่ายเซ็ตนี้ขึ้นมา

ความรู้สึกที่มีต่อ BMW X1 เป็นอย่างไร?
จริง ๆ แล้วตอนแรกก่อนที่จะซื้อ X3 ก็ได้ลอง X1 แล้วเหมือนกัน ก็ชอบมาอยู่แล้ว ตั้งใจจะซื้อ X1 ด้วยซ้ำ แต่พอได้ขับ X3 แล้วรู้สึกมันตอบสนองไลฟ์สไตล์ตัวเองมากกว่าเพราะว่าต้องขนของเยอะอะไรแบบนี้ รู้สึกว่า X1 มันเล็กกว่า X3 ตอนได้ลองขับ X1 ตอนนั้นมันเหมือนแค่ได้ test นิดหน่อยเอง แต่พอช่วงนี้ได้มาลองขับ BMW X1 จริงจังแล้ว ได้เอามาใช้งานในเมืองมันก็รู้สึกว่า X1 มันก็มีความคล่องตัวไม่แพ้ X3 พอสมควร อย่างที่เก็บของข้างหลังก็ค่อนข้างจะใหญ่และสะดวก ส่วนตัวรถก็ขับง่าย มันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน พอลองขับจริงแล้ว X1 ก็ค่อนข้างโอเคเลยที่จะขับในเมือง

รู้สึกว่า X1 มันตอบโจทย์วัยรุ่นด้วยตัวโครงสร้างและรูปลักษณ์ อาจจะไม่เด็กมากแต่อาจจะประมาณ fist jobber รึเปล่า มันมีความคล่องตัวและ multifunction ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ได้มองว่า X1 แก่ รู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ในยุคนี้เริ่มหันมาสนใจพวก SUV หรือ mini SUV มากขึ้น ตัวเราเองก็ใช้ SUV มาตลอด

ถ้าให้เปรียบเทียบ BMW X1 เป็นสิ่งของหรืองานศิลปะ คุณมองว่ามันเป็นแบบไหน อย่างไร?
เรามองว่า X1 เป็นเหมือนผลงานศิลปะแบบ post-impressionism มันจะมีความ lively มันมีมุมมองความประทับใจที่ถูกนำมาสร้างสรรค์ด้วยเทคนิคที่น่าสนใจ แสดงความรู้สึกทางอารมณ์ การใช้สีอะไรก็จะมีความสนุกหน่อย พอดีมันเป็นยุคของงานศิลปะยุคที่เราชอบพอดี เลยเอามันมา relate กับ X1(หัวเราะ)

GET OUT THERE ของคุณโต้คืออะไร?
ชีวิตทุกวันนี้คือการทำงานไปเรื่อย ๆ เราไม่ได้ไปในที่ ๆตั วเองอยากไปมานานแล้ว เรารู้สึกว่าอยากจะขับออกไปในที่ ๆ ตัวเองอยากไป เราเลยเอาความคิดนี้มา develop เป็น Bangkok night life สถานที่บางสถานที่เราเคยไปเมื่อนานมาแล้ว มันเป็นเหมือนสถานที่ ที่เราคุ้นเคยเช่น สยาม เยาวราช ข้าวสารแต่ทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยได้ไปเพราะเรื่องของเวลาและหน้าที่การงาน มันเหมือนกับที่ ๆ เคยอยู่ในความทรงจำเรา ที่ ๆ เราเคย hang out กับเพื่อนในสมัยก่อน ท้องถนนที่เราคุ้นเคยแต่มัน fade หายไปไปตามกาลเวลา GET OUT THERE ของเรามันเลยมีความ nostalgia นิดนึงเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในท้องถนนที่เคยไป เราอยากลองกลับไปเพื่อดูว่ามันจะยังคงเป็นเหมือนเดิมไหม

ตอนไปถ่ายมันก็ดีนะ ฝน ฟ้า อากาศ แต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน มีวันที่ฝนตกบ้าง ตอนแรกก็คิดว่าฝนตกเอายังไงดี สุดท้ายก็ถ่ายไปซะเลยเพราะไหน ๆ ก็มาแล้ว มันก็ออกมาเป็นภาพที่จริงมากตามเวลาขณะนั้น มันสนุกดี GET OUT THERE ของเราคือการได้ใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้น ในขณะนั้นจริง ๆ มันเป็นเรื่องของความรู้สึก การตามหาท้องถนนในความทรงจำของเราในถนนที่เรา “เคย” คุ้นเคย แต่เราออกมาจุดนั้นและได้กลับไปเพื่อสัมผัสมันอีกครั้ง



















กำลังโหลดความคิดเห็น