>>สมกับเป็นก้าวย่างใหม่ที่แสนโดดเด่นของค่าย BMW ที่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด BMW X2 ที่ฉีกภาพลักษณ์เดิมๆ ด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง และสีเหลืองทองล้ำสมัย เผยเอกลักษณ์แห่งรูปโฉมใหม่ที่กล้าจะแตกต่าง พร้อมกับได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการแฟชั่น ด้วยการจับมือกับ 3 แบรนด์ดังดีไซเนอร์ไทยที่โดดเด่นแห่งยุคสร้างแฟชั่นคอลเลกชันพิเศษที่กล้าฉีกทุกกฎเกณฑ์ ตามคอนเซ็ปต์ “Be the one who dares” ออกมาเป็นผลงานแห่งความทรงจำที่ส่งต่อแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ให้แก่ผู้ที่ได้รับชม
โดย 2 ดีไซเนอร์ “เต้ - ศักดิ์สิทธิ์ พิศาลสุพงศ์” และ “ยุ่ย - พิสิฐ จงนรังสิน” จากแบรนด์ Tube Gallery ที่นำเอาแรงบันดาลใจจาก BMW X2 และย่านถนนเยาวราช มาสร้างสรรค์คอลเลกชันสุดวิจิตรบรรจง
“Tube Gallery เราโดดเด่นในเรื่องการทำเสื้อแบบฉีกแนวอยู่แล้ว ยิ่งได้ BMW X2 ที่ก็กล้าจะฉีกกรอบกฎเกณฑ์ของการทำรถ BMW เองมาเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้เรายิ่งสนุกในการกล้าที่จะแตกต่างมากขึ้นไปอีก ซึ่งเราได้หยิบยกความเป็นเยาวราชอันมีความเป็นจีนมานำเสนอ โดยได้ใช้งานศิลปะอย่างการตัดกระดาษจีนเข้ามาผสมผสานในการออกแบบ
การใช้โทนสีเหลืองทองของรถมาตัดกับสีดำสร้างความสง่างาม และใช้วัสดุหลากหลาย ทั้งผ้าไหม งานปัก อะคริลิก งานพรินต์ ซึ่งเป็นงานรูปแบบดั้งเดิมของแบรนด์ออกมาสร้างสรรค์เป็นงานรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ตามนิยาม Be the one who dares อันเป็นความกล้าที่จะฉีกตัวเองออกมาจากกฎเกณฑ์ ออกมาจากกรอบที่เราสร้างไว้หรือคนอื่นเคยสร้างไว้ให้ เพื่อให้เกิดผลงานที่น่าสนใจ เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่ดีขึ้น พร้อมด้วยความคาดหวังที่อยากให้ทุกคนได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในวงการแฟชั่น และวงการรถยนต์”
ทางด้านแบรนด์ HOOK's โดยดีไซเนอร์ “ผักกาด - ประภากาศ อังศุสิงห์” ก็อธิบายถึงคอลเลกชันพิเศษที่ทำร่วมกับ BMW ในครั้งนี้ว่า “รู้สึกตื่นเต้นและท้าทาย ตั้งแต่รู้ว่าได้ร่วมงานกับ BMW แล้ว เพราะเป็นแบรนด์รถที่เราใฝ่ฝัน และอยากขับมานานแล้ว ที่สำคัญแบรนด์ HOOK's ไม่ได้ทำอะไรสนุกๆ แบบจริงจังอย่างนี้มานานแล้ว ยิ่งโจทย์คือการให้อิสระในการสร้างสรรค์อย่างเต็มที่แบบนี้ก็ยิ่งสนุก และด้วยความที่แบรนด์เราโดดเด่นด้านความเป็นอาร์ตอยู่แล้ว ยิ่งได้ผนวกกับแรงบันดาลใจอย่างย่านถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นถนนที่เราประทับใจ และมีความเป็นศิลปะสูง ก็ยิ่งทำให้ออกแบบได้สนุกมากยิ่งขึ้น
แบรนด์เลือกใช้วัสดุที่หลากหลายและดูไม่น่าเข้ากันได้มาใช้ประกอบรวมกัน อย่างของที่เป็นเมทัลลิก หรือความเป็นเลื่อมวิบวับมาไว้กับตุ๊กตา ทำให้เกิดรูปแบบงานใหม่ๆ เข้ากับคอนเซ็ปต์ Be the one who dares ที่ไม่ต้องกลัวใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับการออกแบบ เพราะเมื่อไรที่เริ่มกลัว ก็จะไม่เกิดงานใหม่ๆ ไม่เกิดอะไรที่ท้าทาย ไม่น่าสนใจขึ้นมา”
ทิ้งท้ายกันด้วยแบรนด์ “Wonder Anatomie” ของ “ป๊อป - เฉลิมเกียรติ คติเกษมเลิศ” ที่ดึงเอาแรงบันดาลใจของ BMW X2 ผนวกกับสีสันของย่านเศรษฐกิจใจกลางกรุงเทพฯ อย่าง ย่านสาทร
“เวลาที่ขับรถอยู่ในกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน เราจะเห็นแสงสะท้อนต่างๆ ของตึกสูง และแสงไฟของท้องถนนที่โฉบเฉี่ยวไปตามเส้นทางต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับดีไซน์ของรถรุ่นใหม่นี้ ที่เพิ่งเห็นในครั้งแรกก็รู้สึกว่ามีเส้นสาย มีความโฉบเฉี่ยว และมีการนำเอาสิ่งที่ไม่เข้ากันมาผสมกันให้เกิดสิ่งใหม่ ซึ่งผมก็ได้เอาไอเดียตรงจุดนี้มาใช้ในคอลเลกชันนี้ด้วยการเลือกวัสดุที่ดูไม่เข้ามาใช้งานการตัดเย็บ โดยผมเลือกใช้วัสดุที่คนไม่คิดว่าจะเอามาทำเป็นเสื้อผ้าได้อย่างพลาสติกมาทำ พร้อมกับเลือกเอาผ้าเลื่อมมาพิมพ์ลายเพิ่มเข้าไปเพื่อให้เกิดแสงสะท้อนเหมือนอย่างเวลาเรามองตึกสูงและเห็นแสงไฟระยิบระยับ
ด้วยความท้าทายในการนำเอาของสองสิ่งมารวมกันมาทำให้เกิดสิ่งใหม่ การใช้พลาสติกในการทำเสื้อผ้าก็ถือเป็นการสร้างความกล้าหาญที่จะสวมใส่มัน เป็นการ Be the one who dares ที่กล้าจะท้าทายในการสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ ซึ่งการที่เราย่ำอยู่กับที่ มันทำให้ไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือสิ่งที่ดีกว่าออกมาได้ ผมจึงอยากให้ทุกคนที่ได้เห็นคอลเลกชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจบางอย่าง เป็นการปลุกกระแสให้เขาได้เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ กล้าทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่ได้ทำในชีวิตประจำวันครับ”
โดย 2 ดีไซเนอร์ “เต้ - ศักดิ์สิทธิ์ พิศาลสุพงศ์” และ “ยุ่ย - พิสิฐ จงนรังสิน” จากแบรนด์ Tube Gallery ที่นำเอาแรงบันดาลใจจาก BMW X2 และย่านถนนเยาวราช มาสร้างสรรค์คอลเลกชันสุดวิจิตรบรรจง
“Tube Gallery เราโดดเด่นในเรื่องการทำเสื้อแบบฉีกแนวอยู่แล้ว ยิ่งได้ BMW X2 ที่ก็กล้าจะฉีกกรอบกฎเกณฑ์ของการทำรถ BMW เองมาเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้เรายิ่งสนุกในการกล้าที่จะแตกต่างมากขึ้นไปอีก ซึ่งเราได้หยิบยกความเป็นเยาวราชอันมีความเป็นจีนมานำเสนอ โดยได้ใช้งานศิลปะอย่างการตัดกระดาษจีนเข้ามาผสมผสานในการออกแบบ
การใช้โทนสีเหลืองทองของรถมาตัดกับสีดำสร้างความสง่างาม และใช้วัสดุหลากหลาย ทั้งผ้าไหม งานปัก อะคริลิก งานพรินต์ ซึ่งเป็นงานรูปแบบดั้งเดิมของแบรนด์ออกมาสร้างสรรค์เป็นงานรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ตามนิยาม Be the one who dares อันเป็นความกล้าที่จะฉีกตัวเองออกมาจากกฎเกณฑ์ ออกมาจากกรอบที่เราสร้างไว้หรือคนอื่นเคยสร้างไว้ให้ เพื่อให้เกิดผลงานที่น่าสนใจ เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่ดีขึ้น พร้อมด้วยความคาดหวังที่อยากให้ทุกคนได้เห็นอะไรใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในวงการแฟชั่น และวงการรถยนต์”
ทางด้านแบรนด์ HOOK's โดยดีไซเนอร์ “ผักกาด - ประภากาศ อังศุสิงห์” ก็อธิบายถึงคอลเลกชันพิเศษที่ทำร่วมกับ BMW ในครั้งนี้ว่า “รู้สึกตื่นเต้นและท้าทาย ตั้งแต่รู้ว่าได้ร่วมงานกับ BMW แล้ว เพราะเป็นแบรนด์รถที่เราใฝ่ฝัน และอยากขับมานานแล้ว ที่สำคัญแบรนด์ HOOK's ไม่ได้ทำอะไรสนุกๆ แบบจริงจังอย่างนี้มานานแล้ว ยิ่งโจทย์คือการให้อิสระในการสร้างสรรค์อย่างเต็มที่แบบนี้ก็ยิ่งสนุก และด้วยความที่แบรนด์เราโดดเด่นด้านความเป็นอาร์ตอยู่แล้ว ยิ่งได้ผนวกกับแรงบันดาลใจอย่างย่านถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นถนนที่เราประทับใจ และมีความเป็นศิลปะสูง ก็ยิ่งทำให้ออกแบบได้สนุกมากยิ่งขึ้น
แบรนด์เลือกใช้วัสดุที่หลากหลายและดูไม่น่าเข้ากันได้มาใช้ประกอบรวมกัน อย่างของที่เป็นเมทัลลิก หรือความเป็นเลื่อมวิบวับมาไว้กับตุ๊กตา ทำให้เกิดรูปแบบงานใหม่ๆ เข้ากับคอนเซ็ปต์ Be the one who dares ที่ไม่ต้องกลัวใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับการออกแบบ เพราะเมื่อไรที่เริ่มกลัว ก็จะไม่เกิดงานใหม่ๆ ไม่เกิดอะไรที่ท้าทาย ไม่น่าสนใจขึ้นมา”
ทิ้งท้ายกันด้วยแบรนด์ “Wonder Anatomie” ของ “ป๊อป - เฉลิมเกียรติ คติเกษมเลิศ” ที่ดึงเอาแรงบันดาลใจของ BMW X2 ผนวกกับสีสันของย่านเศรษฐกิจใจกลางกรุงเทพฯ อย่าง ย่านสาทร
“เวลาที่ขับรถอยู่ในกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน เราจะเห็นแสงสะท้อนต่างๆ ของตึกสูง และแสงไฟของท้องถนนที่โฉบเฉี่ยวไปตามเส้นทางต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับดีไซน์ของรถรุ่นใหม่นี้ ที่เพิ่งเห็นในครั้งแรกก็รู้สึกว่ามีเส้นสาย มีความโฉบเฉี่ยว และมีการนำเอาสิ่งที่ไม่เข้ากันมาผสมกันให้เกิดสิ่งใหม่ ซึ่งผมก็ได้เอาไอเดียตรงจุดนี้มาใช้ในคอลเลกชันนี้ด้วยการเลือกวัสดุที่ดูไม่เข้ามาใช้งานการตัดเย็บ โดยผมเลือกใช้วัสดุที่คนไม่คิดว่าจะเอามาทำเป็นเสื้อผ้าได้อย่างพลาสติกมาทำ พร้อมกับเลือกเอาผ้าเลื่อมมาพิมพ์ลายเพิ่มเข้าไปเพื่อให้เกิดแสงสะท้อนเหมือนอย่างเวลาเรามองตึกสูงและเห็นแสงไฟระยิบระยับ
ด้วยความท้าทายในการนำเอาของสองสิ่งมารวมกันมาทำให้เกิดสิ่งใหม่ การใช้พลาสติกในการทำเสื้อผ้าก็ถือเป็นการสร้างความกล้าหาญที่จะสวมใส่มัน เป็นการ Be the one who dares ที่กล้าจะท้าทายในการสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ ซึ่งการที่เราย่ำอยู่กับที่ มันทำให้ไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือสิ่งที่ดีกว่าออกมาได้ ผมจึงอยากให้ทุกคนที่ได้เห็นคอลเลกชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจบางอย่าง เป็นการปลุกกระแสให้เขาได้เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ กล้าทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่ได้ทำในชีวิตประจำวันครับ”