ยังคงความกล้าบ้าบิ่นพร้อมท้าพิสูจน์ให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงสมรรถนะผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างเปิดเผย สำหรับยางยี่ห้อดังสัญชาติอิตาเลียน “พิเรลลี” (Pirelli) ภายใต้สโลแกนที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย
“เราขายยางที่เราใช้แข่ง เราแข่งด้วยยางที่เราขาย”
...แต่บางทีกับยางบางรุ่น ไม่ต้องชวนพิสูจน์กันถึงสนามแข่งก็ได้มั้ง เพราะมันเสียว!
เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ค่ายยางชั้นนำจากแดนมักโรนีจัดกิจกรรมทดสอบยางรถจักรยานยนต์ซีรีย์ใหม่ล่าสุด หวังเจาะตลาดสกู๊ตเตอร์ในชื่อ “DIABLO ROSSO SCOOTER” และ “ANGEL SCOOTER” กันที่ประเทศไต้หวัน พร้อมเชิญเหล่าตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและผู้สื่อข่าวในแต่ละประเทศ เข้าร่วมสัมผัสสมรรถนะแบบถึงลูกถึงคนบนสนามแข่งขัน LIHPAO CIRCUIT (คนท้องถิ่นออกเสียงว่า ลี่เป๋า)
ทดสอบยางสกู๊ตเตอร์ในสนามแข่ง-ใช่ครับ อ่านไม่ผิด
แม้จะมั่นใจผลิตภัณฑ์ของตัวเองขนาดไหน แต่เดี๋ยวก่อน นี่มันดูเกินขีดความสามารถ และอาจถึงขั้นใช้งานผิดประเภทไปหรือเปล่า
Alberico Avogadro ตำแหน่ง Commercial director business unit Moto APAC กล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน พร้อมอธิบายคุณสมบัติของยางสกู๊ตเตอร์รุ่นใหม่ “DIABLO ROSSO SCOOTER” และ “ANGEL SCOOTER” ว่าเป็นผลิตภัณฑ์สองรุ่นล่าสุด ที่มาเสริมทัพในกลุ่มสองล้อแบบบิดอย่างเดียวไม่ต้องใช้เกียร์ ซึ่งจริงๆ แล้ว พีเรลลีมีตัวเลือกสินค้าที่ใช้ทำตลาดกลุ่มนี้มาตั้งแต่ปี 1950 ดังนั้น ในเรื่องของประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีต่อผลิตภัณฑ์ รวมทั้งความเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคขอให้ไว้วางใจได้
สำหรับยางใหม่รุ่นแรก คือ หนึ่งในยางตระกูล Diablo หรือยางถนนที่ใช้สนามแข่งขันเสมือนห้องแลปในการพัฒนาเทคโนโลยีสู่ความเป็นเลิศด้านประสิทธิภาพ จากการที่พิเรลลีเป็นพาร์ทเนอร์ผลิตยางแข่งในรายการเวิล์ดซูเปอร์ไบค์ มาตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปัจจุบัน หวังเจาะตลาดบิ๊กสกู๊ตเตอร์หรือขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 300 ซีซี. ขึ้นไป โดยความโดดเด่นอยู่ที่ให้สัมผัสการยึดเกาะที่ดีเยี่มม จากองศาหน้ายางที่รองรับการขับขี่แบบสปอร์ต และแน่นอนสามารถใช้งานได้นานกว่า เมื่อเทียบกับยางรุ่นก่อนหน้าด้วย(รายละเอียดดูจากกราฟในภาพ)
ขณะที่อีกรุ่นมุ่งเจาะกลุ่มสองล้อแบบบิดอย่างเดียวที่ใช้ขุมพลังขนาดเล็ก เน้นความหลากหลายของพื้นผิวสัมผัส ทั้งแบบราบเรียบ ขรุขระ ไม่ว่าสภาวะพื้นแห้งหรือเปียก อีกทั้งยังให้ความสะดวกสบายและความมั่นใจ ขณะวิ่งผ่านรอยต่อของถนนหรือรางรถไฟ รวมถึงมีความคล่องตัวกับการใช้งานในเมือง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ยางสกู๊ตเตอร์พึงตอบโจทย์มากที่สุด เมื่อต้องใช้ความเร็วต่ำยามเผชิญสภาพการจราจรที่ติดขัด(รายละเอียดดูจากกราฟในภาพเช่นกัน)
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของพิเรลลีไม่ได้ให้คำตอบถึงสิ่งที่หลายคนรู้สึกแปลกใจ เกี่ยวกับการทดสอบยางสกู๊ตเตอร์ในสนามแข่ง หลังพูดจบเพียงแค่แจ้งลำดับการลงแทร็กของผู้ร่วมงาน คล้ายท้าทายให้เราคลายข้อสงสัยด้วยตัวเอง
เมื่อได้เวลาอันสมควร การทดสอบแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เริ่มจากในสถานีพื้นเปียก รถแต่ละคันจะต้องวิ่งมาด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อถึงจุดที่กำหนดต้องกำเบรกเพื่อหยุดรถแบบกะทันหัน(ทดสอบเฉพาะรุ่นรถที่มีระบบเบรก ABS) ทำซ้ำมากกว่า 10 รอบ และผลที่ออกมาปรากฎว่า ยางทั้งสองรุ่นให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน คือ มีระยะหยุดนิ่งห่างจากจุดเบรกประมาณ 5-7 เมตร เท่านั้น
ส่วนอีกสถานีเป็นการลงสนามแบบฟูลแทร็ก ปล่อยให้วิ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 25 นาที จุดนี้เองทำให้ผู้ร่วมทดสอบแต่ละคนมาถึงบางอ้อว่า เพราะเหตุใดพิเรลลีถึงกล้าท้าพิสูจน์สมรรถนะกันถึงสนามแข่ง
แม้ในรุ่น ANGEL จะเป็นรอง DIABLO ROSSO อยู่บ้างก็ตาม ในด้านของการยึดเกาะ อย่างในจังหวะพับรถก่อนเร่งความเร็วออกจากโค้ง ยังมีอาการสไลด์ให้พอตื่นเต้นอยู่บ้าง
ทว่าท้ายที่สุดหากมองในภาพรวมแล้ว การทดสอบขีดความสามารถบนสนามแข่งลี่เป๋าเซอร์กิตครั้งนี้ ยางซีรีย์ใหม่ทั้งสองรุ่นของพิเรลลีนั้น นับว่าให้สัมผัสที่น่าทึ่ง ซึ่งมาพร้อมความประทับใจจากประสิทธิภาพการวิ่งในสนามได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
เป็นการทดสอบยางสกู๊ตเตอร์ที่มาพร้อมความเสียว แต่เป็นความเสียวที่สนุกและควบคุมได้.
***ขอขอบคุณ Alpinestars Thailand สำหรับอุปกรณ์ Riding Gear (www.1goal1visionth.com โทร. 02-000-7885-6)***