นี่คือแบรนด์แรกที่กล้าประกาศว่า “เราคือรถจีน100%” กับการเปิดตัว “โฟตอน ทูนแลนด์” รถปิกอัพลำดับที่ 9 ของตลาดรถยนต์ไทย ด้วยการเข้ามาทำตลาดเองของโฟตอนจากประเทศจีน กับแผนการลงทุนที่ตั้งใจใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ปิกอัพพวงมาลัยขวาเพื่อส่งออกไปขายทั่วโลก ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมแล้วกว่า 600 ล้านบาท ดังนั้นจึงมั่นใจได้ในแง่ของการทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ โฟตอน ทูนแลนด์ เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว ในช่วงงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป พร้อมกับยอดจองราว 50 คัน แต่แล้วด้วยความล่าช้าบางประการทำให้ การส่งมอบรถยนต์โฟตอน ทูนแลนด์ เริ่มต้นได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และให้สื่อมวลชนได้ร่วมขบวนทดลองขับเจ้า โฟตอน ทูนแลนด์ ซึ่ง MGR มอเตอริ่งไม่พลาด มาดูกันว่า “ทูนแลนด์” มีอะไรดีแค่ไหน จะเข้ามาสอดแทรกแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดรถปิกอัพของบ้านเราได้บ้าง
เครื่อง/เฟือง-อเมริกัน เกียร์-เยอรมัน
มาทำความรู้จักกับ ทูนแลนด์กันก่อน สิ่งแรกที่หลายคนต้องสนใจคือ เครื่องยนต์ โดยหัวใจของทูนแลนด์เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ของ “คัมมินส์” ผู้ผลิตเครื่องยนต์อันเลื่องชื่อจากประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยขุมพลังขนาด 2.8 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร เห็นตัวเลขระดับพลังแบบนี้ทุกคนที่ใช้ปิกอัพก็คงคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร4
สำหรับชุดส่งกำลัง ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ของเก็ทแร็ก(Getrag) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเกียร์ชื่อดังจากเยอรมนีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ชุดเฟืองขับเคลื่อนสี่ล้อ ใช้จากผู้ผลิต บอร์ก วอร์เนอร์ (Borg Warner) ส่วนชุดเพลาขับและเฟืองท้าย ผลิตโดย ดานา (DANA) จากสหรัฐอเมริกาทั้งคู่
การตกแต่งภายใน เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ เพราะโฟตอนทำทูนแลนด์ออกมาได้ดีทีเดียว พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบบลูทูธ เบาะนั่งสามารถปรับระดับได้ถึง 6 ทิศทาง คอนโซลกลางมีขนาดกว้าง มีที่เก็บของพร้อมฝาปิดและที่วางแก้วขนาดใหญ่ถึง 2 จุด
ตัวถังได้รับการออกแบบ เน้นความสมบุกสมบันตามสไตล์ของรถเอนกประสงค์ ซึ่งทูนแลนด์ ทำตลาดด้วย 2 ตัวถัง รูปแบบตอนเดียวและรุ่น 4 ประตู ดับเบิลแค็บ สนนราคาเมื่อเทียบกันแบบออพชันต่อออพชันแล้วทูนแลนด์จะมีราคาถูกกว่าตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักร่วมแสนบาท
ขับดี วิ่งเร็วมั่นใจ
เข้ามาสู่ช่วงของการขับขี่กันดีกว่า เราใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - ชลบุรี ในการเดินทางทดลองขับครั้งนี้ โดยมีจุดหมายอยู่ที่ โรงโม่หิน เพื่อทดลองการขับแบบออฟโรด ซึ่งโรงโม่แห่งนี้เป็นลูกค้าชั้นดีของโฟตอน เนื่องจากใช้รถบรรทุกของโฟตอนในการขนส่งหิน
ซึ่งทีมงานนำรถแบบ4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ มาให้พวกเราได้ขับขี่กัน และผู้เขียนถูกวางตำแหน่งให้ขับรถคันที่เป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ ความรู้สึกแรกหลังประจำการที่พวงมาลัย คุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ดีกว่าที่คิดไว้มาก การออกตัวก็ทำให้ดี พละกำลังเหมาะสม
การเข้าเกียร์เรียบลื่นสมบูรณ์ดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เกียร์ 5 สปีดปัจจุบันอาจจะน้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่กลายเป็น เกียร์ 6 สปีดกันทั้งนั้นแล้ว และอีกจุดหนี่งที่น่าเสียดายคือมีแต่เกียร์ธรรมดาเพียงทางเลือกเดียว โดยทีมผู้บริหารบอกเราว่าจะมีรุ่นเกียร์ออโต้ตามออกมาอย่างแน่นอน อดใจรออีกหน่อยและราคาน่าจะแพงกว่ากันราว 3-4 หมื่นบาท
สำหรับความเร็วในการขับขี่ที่ส่วนใหญ่เราใช้อยู่ประมาณ 100-120 กม.ต่อชม. การตอบสนองของเครื่องยนต์ในจังหวะเร่งแซงถือว่า ทันใจ ไม่มีอาการหวาดเสียว เสียงดังของเครื่องยนต์และเสียงลมประทะมีเข้ามารบกวนบ้าง การทรงตัวทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ พวงมาลัยเบามือดี มีระยะฟรีเล็กน้อย
เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนสลับการขับเราไปลองนั่งที่เบาะหลัง พบว่า เบาะหลังนั่งสบายกว่าปิกอัพเจ้าอื่นๆ ในตลาด มีองศาการเอียงของเบาะพอเหมาะ ไม่ตั้งชันจนเกินไป คุณภาพของการประกอบและการเซตอัพรถทำออกมาได้อย่างลงตัว ดีกว่าที่เราคาดไว้มาก ไม่เหมือนรถจากประเทศจีนที่เราเคยสัมผัสมาก่อนอย่างแน่นอน
มาถึงในส่วนของการลองขับลุยแบบออฟโรด เราขับทั้ง 2 รุ่นเปรียบเทียบกันทั้ง ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ แทบไม่เห็นถึงความแตกต่างในเวลาที่ต้องลุย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพื้นที่เซ็ตไว้ค่อนข้างปลอดภัย เราจะค่อนข้างชอบในส่วนของความลงตัวระหว่าง เครื่องยนต์-เกียร์-ระบบเฟืองต่างๆ ทำงานสอดประสานกันได้อย่างราบรื่น ขับแล้วให้ความรู้สึกที่ดี ทั้งทางเรียบและทางขรุขระ การลุยน้ำก็คงไม่ต้องห่วงเพราะยกสูงและเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ขึ้นชื่อด้านความทนทาน
เหมาะกับใคร
ด้วยความมั่นใจในชิ้นส่วนต่างๆ ทางโฟตอนจึงเป็นเจ้าแรกของรถปิกอัพที่กล้า รับประกันคุณภาพเป็นเวลา 5 ปีหรือ 200,000 กิโลเมตร ใครก็ตามที่กำลังมองหาความแตกต่าง อยากใช้รถที่มีการรับประกันยาวๆ โฟตอน ทูนแลนด์ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ มิใช่น้อย
สำหรับ โฟตอน ทูนแลนด์ เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว ในช่วงงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป พร้อมกับยอดจองราว 50 คัน แต่แล้วด้วยความล่าช้าบางประการทำให้ การส่งมอบรถยนต์โฟตอน ทูนแลนด์ เริ่มต้นได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และให้สื่อมวลชนได้ร่วมขบวนทดลองขับเจ้า โฟตอน ทูนแลนด์ ซึ่ง MGR มอเตอริ่งไม่พลาด มาดูกันว่า “ทูนแลนด์” มีอะไรดีแค่ไหน จะเข้ามาสอดแทรกแย่งชิงส่วนแบ่งในตลาดรถปิกอัพของบ้านเราได้บ้าง
เครื่อง/เฟือง-อเมริกัน เกียร์-เยอรมัน
มาทำความรู้จักกับ ทูนแลนด์กันก่อน สิ่งแรกที่หลายคนต้องสนใจคือ เครื่องยนต์ โดยหัวใจของทูนแลนด์เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ของ “คัมมินส์” ผู้ผลิตเครื่องยนต์อันเลื่องชื่อจากประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยขุมพลังขนาด 2.8 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร เห็นตัวเลขระดับพลังแบบนี้ทุกคนที่ใช้ปิกอัพก็คงคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร4
สำหรับชุดส่งกำลัง ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ของเก็ทแร็ก(Getrag) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเกียร์ชื่อดังจากเยอรมนีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ชุดเฟืองขับเคลื่อนสี่ล้อ ใช้จากผู้ผลิต บอร์ก วอร์เนอร์ (Borg Warner) ส่วนชุดเพลาขับและเฟืองท้าย ผลิตโดย ดานา (DANA) จากสหรัฐอเมริกาทั้งคู่
การตกแต่งภายใน เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ เพราะโฟตอนทำทูนแลนด์ออกมาได้ดีทีเดียว พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและระบบบลูทูธ เบาะนั่งสามารถปรับระดับได้ถึง 6 ทิศทาง คอนโซลกลางมีขนาดกว้าง มีที่เก็บของพร้อมฝาปิดและที่วางแก้วขนาดใหญ่ถึง 2 จุด
ตัวถังได้รับการออกแบบ เน้นความสมบุกสมบันตามสไตล์ของรถเอนกประสงค์ ซึ่งทูนแลนด์ ทำตลาดด้วย 2 ตัวถัง รูปแบบตอนเดียวและรุ่น 4 ประตู ดับเบิลแค็บ สนนราคาเมื่อเทียบกันแบบออพชันต่อออพชันแล้วทูนแลนด์จะมีราคาถูกกว่าตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักร่วมแสนบาท
ขับดี วิ่งเร็วมั่นใจ
เข้ามาสู่ช่วงของการขับขี่กันดีกว่า เราใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ - ชลบุรี ในการเดินทางทดลองขับครั้งนี้ โดยมีจุดหมายอยู่ที่ โรงโม่หิน เพื่อทดลองการขับแบบออฟโรด ซึ่งโรงโม่แห่งนี้เป็นลูกค้าชั้นดีของโฟตอน เนื่องจากใช้รถบรรทุกของโฟตอนในการขนส่งหิน
ซึ่งทีมงานนำรถแบบ4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ มาให้พวกเราได้ขับขี่กัน และผู้เขียนถูกวางตำแหน่งให้ขับรถคันที่เป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ ความรู้สึกแรกหลังประจำการที่พวงมาลัย คุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ดีกว่าที่คิดไว้มาก การออกตัวก็ทำให้ดี พละกำลังเหมาะสม
การเข้าเกียร์เรียบลื่นสมบูรณ์ดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เกียร์ 5 สปีดปัจจุบันอาจจะน้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่กลายเป็น เกียร์ 6 สปีดกันทั้งนั้นแล้ว และอีกจุดหนี่งที่น่าเสียดายคือมีแต่เกียร์ธรรมดาเพียงทางเลือกเดียว โดยทีมผู้บริหารบอกเราว่าจะมีรุ่นเกียร์ออโต้ตามออกมาอย่างแน่นอน อดใจรออีกหน่อยและราคาน่าจะแพงกว่ากันราว 3-4 หมื่นบาท
สำหรับความเร็วในการขับขี่ที่ส่วนใหญ่เราใช้อยู่ประมาณ 100-120 กม.ต่อชม. การตอบสนองของเครื่องยนต์ในจังหวะเร่งแซงถือว่า ทันใจ ไม่มีอาการหวาดเสียว เสียงดังของเครื่องยนต์และเสียงลมประทะมีเข้ามารบกวนบ้าง การทรงตัวทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ พวงมาลัยเบามือดี มีระยะฟรีเล็กน้อย
เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนสลับการขับเราไปลองนั่งที่เบาะหลัง พบว่า เบาะหลังนั่งสบายกว่าปิกอัพเจ้าอื่นๆ ในตลาด มีองศาการเอียงของเบาะพอเหมาะ ไม่ตั้งชันจนเกินไป คุณภาพของการประกอบและการเซตอัพรถทำออกมาได้อย่างลงตัว ดีกว่าที่เราคาดไว้มาก ไม่เหมือนรถจากประเทศจีนที่เราเคยสัมผัสมาก่อนอย่างแน่นอน
มาถึงในส่วนของการลองขับลุยแบบออฟโรด เราขับทั้ง 2 รุ่นเปรียบเทียบกันทั้ง ขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ แทบไม่เห็นถึงความแตกต่างในเวลาที่ต้องลุย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพื้นที่เซ็ตไว้ค่อนข้างปลอดภัย เราจะค่อนข้างชอบในส่วนของความลงตัวระหว่าง เครื่องยนต์-เกียร์-ระบบเฟืองต่างๆ ทำงานสอดประสานกันได้อย่างราบรื่น ขับแล้วให้ความรู้สึกที่ดี ทั้งทางเรียบและทางขรุขระ การลุยน้ำก็คงไม่ต้องห่วงเพราะยกสูงและเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ขึ้นชื่อด้านความทนทาน
เหมาะกับใคร
ด้วยความมั่นใจในชิ้นส่วนต่างๆ ทางโฟตอนจึงเป็นเจ้าแรกของรถปิกอัพที่กล้า รับประกันคุณภาพเป็นเวลา 5 ปีหรือ 200,000 กิโลเมตร ใครก็ตามที่กำลังมองหาความแตกต่าง อยากใช้รถที่มีการรับประกันยาวๆ โฟตอน ทูนแลนด์ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ มิใช่น้อย