>>ด้วยคาแรกเตอร์สาวหวาน บวกกับอาชีพการงานที่อยู่กับแวดวงความสวยความงาม ทำให้จินตนาการไปไกลก่อนจะได้พบกับ “ทิพย์ นราธัศจรรย์” ดีไซน์ไดเรกเตอร์ แห่งแบรนด์นรา จอยเลอรี (NARA Joaillerie) และทายาทนักธุรกิจส่งออกเพชร ว่ารถหรูคู่ใจสาวหวานต้องเป็นรถสปอร์ตดูน่ารักๆ ไซส์มินิสมตัว แต่ทันทีที่เธอก้าวลงจากรถเบนท์ลีย์คันหรูสีดำที่ดูเรียบแต่โก้ ก็ทำให้เราค้นพบว่าลุคสาวหวานในมุมมาดเท่ก็ดูมีเสน่ห์น่าค้นหาไปอีกแบบ
“รถคันนี้เพิ่งขับมาได้ครึ่งปีเองค่ะ เป็นครั้งแรกที่ลองหันมาใช้เบนท์ลีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์รถในฝัน ที่เลือกคันนี้เพราะทิพย์มองว่าไม่เพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทิพย์ ทั้งในแง่รูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยวแต่ยังดูภูมิฐาน ตอบโจทย์การใช้งานโดยเฉพาะเวลาต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ภายในห้องโดยสารค่อนข้างโอ่โถง นั่งสบาย แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยความเป็นสปอร์ตกึ่งซีดาน ก็ยังคงตอบโจทย์เรื่องความเร็วที่ทิพย์หลงใหลได้”
ทุกวันนี้ ทิพย์บอกว่า เธอมีพาหนะคู่ใจ 4 คันที่หมุนเวียนกันใช้ ทั้งปอร์เช่เคย์แมน, ปอร์เช่ 911, มินิคูปเปอร์ และ เบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล จีที ที่เธอเลือกขับมาวันนี้ ทิพย์บอกว่า แต่ละวันจะเลือกใช้คันไหน เธอดูจากวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก ถ้าวันสบายๆ เน้นขับชิลๆ ต้องปอร์เช่ และ มินิคูปเปอร์ แต่ถ้าวันไหน ต้องการเสริมลุคให้ดูโดดเด่น มีความภูมิฐาน ก็ต้องเบนท์ลีย์
สาวสวยยอมรับว่า ตอนแรกเธอลังเลไม่น้อยว่า จะเลือกเบนท์ลีย์สีดำหรือสีขาวมาเป็นรถคู่ใจดี แต่สุดท้ายหลังจากประเมินแล้วว่า รถที่ใช้อยู่มีสีอะไรบ้าง เธอเลือกเลยสีดำซึ่งเป็นสีที่ยังไม่มี
“ที่บ้านทิพย์มีปอร์เช่ สีขาวและสีบลอนซ์แล้ว ส่วนมินิก็สีขาว คันนี้เลยเลือกสีที่ยังไม่มีคือ สีดำ เพราะถึงจะเป็นผู้หญิงชอบแต่งตัว แต่เวลาซื้อรถทิพย์กลับชอบอะไรที่ไม่หวือหวา เน้นคุมโทน ที่สำคัญเวลาซื้อรถมาแล้วทิพย์จะไม่ค่อยเอาไปแต่งอะไรเพิ่ม เพราะอย่างเบนท์ลีย์คันนี้ ทิพย์ว่าแบบเดิมที่มาจากศูนย์ก็สวยคลาสสิกอยู่แล้ว ทุกอย่างดูเป็นส่วนผสมที่ลงตัว”
อย่างไรก็ตาม แม้จะใช้รถสลับกันหลายคัน แต่สำหรับทิพย์ไม่มีปัญหา เพราะเธออาจจะแตกต่างจากผู้หญิงหลายๆ คน ที่ชอบเก็บเสื้อผ้า รองเท้าสำรองไว้บนรถ “ทิพย์ชอบแต่งตัวให้เรียบร้อยจากบ้านลงมาเลย ไม่ค่อยได้ทิ้งสัมภาระไว้บนรถ จะมีก็แค่ไม้เทนนิสอาจเพราะปกติทิพย์ชินกับการใส่รองเท้าส้นสูงขับรถอยู่แล้ว เพราะคุณพ่อท่านฝึกมาให้เป็นแบบนั้น เวลาเปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะขับแล้วจะไม่ชิน กะน้ำหนักขาไม่ค่อยถูก เหยียบเบรคหนักไป (หัวเราะ)”
สาวสวยเจ้าของรอยยิ้มสดใส ยังบอกเล่าถึงความชอบที่มีต่อการขับรถว่า ทุกคนในครอบครัวไม่ชอบขับรถ มีเธอคนเดียวที่ชอบเลยมักได้รับหน้าที่อยู่หลังพวงมาลัย ซึ่งทิพย์เองยอมรับว่า เธอเป็นผู้หญิงที่หลงใหลความเร็วไม่น้อยเลยใช้รถสปอร์ตมาตลอด แต่ถึงจะชอบความเร็วแต่ก็ต้องขับรถอย่างมีสติ เพื่อความปลอดภัย
“ปกติอยู่กรุงเทพฯ รถติดๆ ก็คงขับรถเร็วไม่ได้ นานๆ จะได้เจอถนนโล่ง ผิวถนนดีๆ เรียบๆ ก็อดไม่ได้ สำหรับทิพย์มองว่าการขับรถเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เพียงแต่ความสุขนี้จะต้องมาพร้อมสติ ไม่ประมาท”
ทิพย์ยอมรับว่า ถึงจะไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์มากนัก แต่ก็ไม่ละเลยการตรวจสอบสมรรถนะรถเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ “ทิพย์รักรถนะคะ เป็นพวกรักแต่ไม่เก็บ ซื้อรถมาแล้วต้องขับ วันไหนอยากขับคันไหนก็ขับ แต่ช่วงนี้จะระวังหน่อยถ้าฝนตกหนักน้ำท่วม เพราะรถปอร์เช่คันแรก ด้วยความไม่รู้ ขับไปลุยน้ำปรากฏว่าต้องยกเครื่องซ่อมใหม่ เสียเงินไป 4 ล้าน”
บทเรียนราคาแพงครั้งนั้น ทำให้ทิพย์ระมัดระวังมากขึ้น ยิ่งช่วงนี้ที่กรุงเทพฯ ฝนตกหนัก น้ำท่วมหลายจุด เธอเลยต้องทำการบ้านเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ขณะเดียวกัน เธอยังไม่ประมาทในการใช้รถถ้าต้องกลับบ้านดึก ไปปาร์ตี้กับเพื่อน หรือง่วงนอน เธอจะไม่ฝืน เพราะเคยมีบทเรียนสมัยเรียนที่ขับแล้วหลับในไปชนกับรถที่จอดอยู่ข้างทาง ตั้งแต่นั้นถ้าเกิดไม่มั่นใจในสวัสดิภาพ เธอจะหาที่ปลอดภัยเพื่อจอดรถทิ้งไว้หรือใช้บริการ uber,u drink I driveมาเป็นตัวช่วย
“ตอนนี้ ทิพย์พอใจกับรถที่มีอยู่เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ครบ อนาคตจะซื้อรถแบรนด์ไหนมาเพิ่ม ทิพย์ก็ยังศึกษาไปเรื่อยๆ ว่า จะมีรุ่นไหนที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ตามวัยของเราที่เพิ่มขึ้นอีก เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดเวลาทิพย์จะซื้อรถคือ ต้องเหมาะกับการใช้งาน เพราะรถไม่เหมือนกระเป๋าหรือเสื้อผ้า ที่แค่ดูว่าสวยก็จบ แต่ต้องมาพร้อมสมรรถนะที่มีดีด้วย เพราะมันคือความปลอดภัยในชีวิตของเราค่ะ”
