มาถึงเจเนอเรชันที่ 5 เป็นที่เรียบร้อยนับตั้งแต่การปรากฎตัวครั้งแรกเมื่อปี 1996 เป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษแล้วที่ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” ทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นรถยนต์เอนกประสงค์รุ่นบุกเบิกที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่มีจำหน่ายในเวลานั้น
ซึ่งในโฉมใหม่ล่าสุดนี้ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ฮอนด้า เลือกทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ดีเซล หลังจากที่ 2 เจเนอเรชันก่อนหน้าก็มีเครื่องยนต์ดีเซล แต่เลือกทำตลาดเฉพาะในยุโรปและที่อื่นๆ เท่านั้น โดยในคราวนี้ ฮอนด้า ตัดรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรทิ้งไป คงเหลือไว้เพียงเบนซินขนาด 2.4 ลิตร และดีเซล 1.6 ลิตร มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
เบนซิน 2.4VSดีเซล 1.6 ???
นี่คือคำถามที่ตอบยากที่สุด แล้วเราจะไปฟันธงในท้าย สำหรับการเลือกว่าจะซื้อรุ่นใดระหว่าง เบนซินหรือดีเซล ส่วนเวลานี้มาทำความรู้จักกับเจ้า ฮอนด้า ซีอาร์-วี กันก่อน ไฮไลท์อย่างแรกที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าคือ การมีเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง อันเป็นผลมาจากการสำรวจความเห็นผู้ใช้งานซีอาร์-วี รุ่นก่อนว่า อยากได้หรือไม่ คำตอบจึงออกมาว่า 7 นั่นเอง
ส่วนจะนั่งได้จริงหรือไม่ ผู้เขียนถามวิศวกรผู้พัฒนาซีอาร์-วีคันนี้ เขาตอบว่า ให้วิศวกรคนที่ทำเบาะนั่งแถว 3 ไปลองนั่งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งวิศวกรคนนั้นมีน้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม แล้วมาปรับเบาะและช่วงล่างให้เหมาะสมสามารถใช้งานได้จริง โดยมีการนั่งเปรียบเทียบกับรถยนต์ของค่ายคู่แข่งด้วย วิศวกรจึงกล้าตอบแบบมั่นใจว่า แถวที่ 3 ของซีอาร์-วีนั่งสบายที่สุดแน่นอน พร้อมกับการมีแอร์และที่วางแก้วน้ำอย่างครบครัน
ระบบเกียร์เป็นอีกสิ่งที่สร้างความแตกต่าง รุ่นเบนซินจะเป็นเกียร์แบบ ซีวีที ส่วนรุ่นดีเซลเป็นเกียร์อัตโนมัติปกติ 9 สปีด พร้อมกับระบบเกียร์แบบใหม่ไม่มีคันโยกใช้การกดปุ่มเพื่อเปลี่ยนเกียร์แทน ซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและปลอดภัยเพราะหากรถกำลังวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 8 กม./ชม. ไม่ว่ากดปุ่มใดก็จะกลายเป็นเกียร์ว่างทันที
สำหรับสิ่งที่ผู้เขียนชอบที่สุดอยู่ตรง ดีไซน์ภายนอกที่สวยงามถูกใจบวกกับคุณภาพของการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่ให้ความรู้สึกดูดี งานประกอบเนี๊ยบเนียน คุ้มค่าสมราคาที่จ่ายออกไป
ขับสบาย เอาใจแม่บ้าน
ในช่วงของการทดลองขับและนั่ง ฮอนด้า ให้เราได้สัมผัสทั้ง 2 รุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลโดยจัดมาให้เฉพาะรุ่นท้อปขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน ว่าแล้วก็เริ่มติดเครื่องกันเลยดีกว่า
เราเริ่มต้นด้วยการขับเครื่องยนต์ดีเซลก่อน พละกำลัง 160 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร กับขนาดเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ผสานกับเกียร์ 9 สปีด เราคาดหวังไว้สูงมากสำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้ เมื่อได้ลองขับจริง ไม่พุ่งแรงเหมือนดังที่คาดไว้ สไตล์นุ่มๆเนียนๆ ไม่สปอร์ต บุคลิกออกแนวผู้ดี หากคุณคิดหวังขับแบบสนุกสนานเหมือนซีวิค คงไม่ใช่อย่างแน่นอน
ด้วยน้ำหนักตัวที่มากกว่า รุ่นเบนซิน ราว 50 กิโลกรัม ทำให้การเซตช่วงล่างมีความแตกต่างกันระหว่าง 2 รุ่น ซึ่งเรารู้สึกว่า ดีเซลนิ่งและหนักแน่นกว่าเบนซิน การทรงตัวขณะวิ่งด้วยความเร็วระดับ 120 กม./ชม. ไม่แตกต่างกัน เสียงลมมีประทะบ้าง เสียงยางรบกวนเล็กน้อยอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
อัตราเร่งของรุ่นดีเซล ผู้ร่วทดสอบหลายท่านบอกว่าแค่คิกดาวน์เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอต่อการเร่งแซง แต่สำหรับผู้เขียนเลือกที่จะใช้โหมดสปอร์ตเข้าช่วยเพื่อความอุ่นในขณะแซง ความเร็วเฉลี่ยที่เราขับส่วนมากอยู่ที่ระดับ 100-120 กม./ชม. อัตราการบริโภคน้ำมันตามการแสดงผลบนหน้าจอ กับระยะทางกว่า 150 กม. ระบุตัวเลข 13.4 กม./ลิตร
ผลลัพท์ดังกล่าว เราค่อนข้างแปลกใจเนื่องจากฮอนด้า เคลมไว้ที่ระดับ 17.9 กม./ลิตร วิศวกรให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า เพราะเป็นเส้นทางที่มีการขึ้น-ลงภูเขา ผ่านชุมชน และทางโค้งเยอะมาก ไม่ใช่ทางตรงเพียงอย่างเดียว ดังนั้น ตัวเลขอัตราประหยัดน้ำมันทางวิศวกรคาดไว้แล้วว่าจะอยู่ที่ประมาณ 13 กม./ลิตร ไม่น่าแปลกใจเพราะนี่คือการใช้งานจริง
หลังจากนั้นเรามาขับต่อในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่มีกำลัง 173 แรงม้า แรงบิด 224 นิวตันเมตร โดยรวมไม่แตกต่างเท่าไหร่นัก อัตราเร่งบางช่วงดีกว่า ไม่มีอาการรอรอบ เรียกว่าแทบไม่แตกต่างในแง่ของความรู้สึกในการขับขี่ ส่วนสิ่งที่ต่างออกไปคือ ตัวเลขอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่ระดับ 10 กม./ลิตร ถือว่า พอรับได้ ไม่แตกต่างจากดีเซลมากมายนัก
มาถึงบทสรุปว่าจะต้องเลือกใคร เราทิ้งระเบิดคำถามนี้ให้วิศวกรเลือก คำตอบคือ เบนซิน ด้วยเหตุผลที่ว่า ลงตัวที่สุด การตอบสนองขับขี่ดีทุกย่านความเร็ว แต่ก็มีทิ้งท้ายว่า ถ้าเขาขับคนเดียวเขาจะเลือกรุ่น ดีเซล เพราะขับได้สนุกกว่า
เหมาะกับใคร
สำหรับเรา บอกตามตรงบุคลิกของซีอาร์-วี โฉมนี้ เหมาะกับผู้ขับที่เป็นสุภาพสตรีอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ใดก็ตาม แต่หากมองถึงความคุ้มค่าต่อราคาแล้ว รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน จะเป็นคำตอบที่ใช่ อย่างไรก็ตามหากมองในแง่ของเทคโนโลยีและการใช้งานระยะยาวแล้ว ชอบเครื่องยนต์ดีเซลมากกว่า สุดท้ายจะเลือกมุมไหนก็ขอให้คุณผู้ชายถามคนข้างๆว่า เลือกแบบไหนจะได้สบายใจคนใช้งานตัวจริง
ซึ่งในโฉมใหม่ล่าสุดนี้ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ฮอนด้า เลือกทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ดีเซล หลังจากที่ 2 เจเนอเรชันก่อนหน้าก็มีเครื่องยนต์ดีเซล แต่เลือกทำตลาดเฉพาะในยุโรปและที่อื่นๆ เท่านั้น โดยในคราวนี้ ฮอนด้า ตัดรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรทิ้งไป คงเหลือไว้เพียงเบนซินขนาด 2.4 ลิตร และดีเซล 1.6 ลิตร มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
เบนซิน 2.4VSดีเซล 1.6 ???
นี่คือคำถามที่ตอบยากที่สุด แล้วเราจะไปฟันธงในท้าย สำหรับการเลือกว่าจะซื้อรุ่นใดระหว่าง เบนซินหรือดีเซล ส่วนเวลานี้มาทำความรู้จักกับเจ้า ฮอนด้า ซีอาร์-วี กันก่อน ไฮไลท์อย่างแรกที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าคือ การมีเบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง อันเป็นผลมาจากการสำรวจความเห็นผู้ใช้งานซีอาร์-วี รุ่นก่อนว่า อยากได้หรือไม่ คำตอบจึงออกมาว่า 7 นั่นเอง
ส่วนจะนั่งได้จริงหรือไม่ ผู้เขียนถามวิศวกรผู้พัฒนาซีอาร์-วีคันนี้ เขาตอบว่า ให้วิศวกรคนที่ทำเบาะนั่งแถว 3 ไปลองนั่งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งวิศวกรคนนั้นมีน้ำหนักตัว 120 กิโลกรัม แล้วมาปรับเบาะและช่วงล่างให้เหมาะสมสามารถใช้งานได้จริง โดยมีการนั่งเปรียบเทียบกับรถยนต์ของค่ายคู่แข่งด้วย วิศวกรจึงกล้าตอบแบบมั่นใจว่า แถวที่ 3 ของซีอาร์-วีนั่งสบายที่สุดแน่นอน พร้อมกับการมีแอร์และที่วางแก้วน้ำอย่างครบครัน
ระบบเกียร์เป็นอีกสิ่งที่สร้างความแตกต่าง รุ่นเบนซินจะเป็นเกียร์แบบ ซีวีที ส่วนรุ่นดีเซลเป็นเกียร์อัตโนมัติปกติ 9 สปีด พร้อมกับระบบเกียร์แบบใหม่ไม่มีคันโยกใช้การกดปุ่มเพื่อเปลี่ยนเกียร์แทน ซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและปลอดภัยเพราะหากรถกำลังวิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 8 กม./ชม. ไม่ว่ากดปุ่มใดก็จะกลายเป็นเกียร์ว่างทันที
สำหรับสิ่งที่ผู้เขียนชอบที่สุดอยู่ตรง ดีไซน์ภายนอกที่สวยงามถูกใจบวกกับคุณภาพของการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในที่ให้ความรู้สึกดูดี งานประกอบเนี๊ยบเนียน คุ้มค่าสมราคาที่จ่ายออกไป
ขับสบาย เอาใจแม่บ้าน
ในช่วงของการทดลองขับและนั่ง ฮอนด้า ให้เราได้สัมผัสทั้ง 2 รุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลโดยจัดมาให้เฉพาะรุ่นท้อปขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน ว่าแล้วก็เริ่มติดเครื่องกันเลยดีกว่า
เราเริ่มต้นด้วยการขับเครื่องยนต์ดีเซลก่อน พละกำลัง 160 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร กับขนาดเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ผสานกับเกียร์ 9 สปีด เราคาดหวังไว้สูงมากสำหรับเครื่องยนต์ตัวนี้ เมื่อได้ลองขับจริง ไม่พุ่งแรงเหมือนดังที่คาดไว้ สไตล์นุ่มๆเนียนๆ ไม่สปอร์ต บุคลิกออกแนวผู้ดี หากคุณคิดหวังขับแบบสนุกสนานเหมือนซีวิค คงไม่ใช่อย่างแน่นอน
ด้วยน้ำหนักตัวที่มากกว่า รุ่นเบนซิน ราว 50 กิโลกรัม ทำให้การเซตช่วงล่างมีความแตกต่างกันระหว่าง 2 รุ่น ซึ่งเรารู้สึกว่า ดีเซลนิ่งและหนักแน่นกว่าเบนซิน การทรงตัวขณะวิ่งด้วยความเร็วระดับ 120 กม./ชม. ไม่แตกต่างกัน เสียงลมมีประทะบ้าง เสียงยางรบกวนเล็กน้อยอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
อัตราเร่งของรุ่นดีเซล ผู้ร่วทดสอบหลายท่านบอกว่าแค่คิกดาวน์เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอต่อการเร่งแซง แต่สำหรับผู้เขียนเลือกที่จะใช้โหมดสปอร์ตเข้าช่วยเพื่อความอุ่นในขณะแซง ความเร็วเฉลี่ยที่เราขับส่วนมากอยู่ที่ระดับ 100-120 กม./ชม. อัตราการบริโภคน้ำมันตามการแสดงผลบนหน้าจอ กับระยะทางกว่า 150 กม. ระบุตัวเลข 13.4 กม./ลิตร
ผลลัพท์ดังกล่าว เราค่อนข้างแปลกใจเนื่องจากฮอนด้า เคลมไว้ที่ระดับ 17.9 กม./ลิตร วิศวกรให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า เพราะเป็นเส้นทางที่มีการขึ้น-ลงภูเขา ผ่านชุมชน และทางโค้งเยอะมาก ไม่ใช่ทางตรงเพียงอย่างเดียว ดังนั้น ตัวเลขอัตราประหยัดน้ำมันทางวิศวกรคาดไว้แล้วว่าจะอยู่ที่ประมาณ 13 กม./ลิตร ไม่น่าแปลกใจเพราะนี่คือการใช้งานจริง
หลังจากนั้นเรามาขับต่อในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่มีกำลัง 173 แรงม้า แรงบิด 224 นิวตันเมตร โดยรวมไม่แตกต่างเท่าไหร่นัก อัตราเร่งบางช่วงดีกว่า ไม่มีอาการรอรอบ เรียกว่าแทบไม่แตกต่างในแง่ของความรู้สึกในการขับขี่ ส่วนสิ่งที่ต่างออกไปคือ ตัวเลขอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่ระดับ 10 กม./ลิตร ถือว่า พอรับได้ ไม่แตกต่างจากดีเซลมากมายนัก
มาถึงบทสรุปว่าจะต้องเลือกใคร เราทิ้งระเบิดคำถามนี้ให้วิศวกรเลือก คำตอบคือ เบนซิน ด้วยเหตุผลที่ว่า ลงตัวที่สุด การตอบสนองขับขี่ดีทุกย่านความเร็ว แต่ก็มีทิ้งท้ายว่า ถ้าเขาขับคนเดียวเขาจะเลือกรุ่น ดีเซล เพราะขับได้สนุกกว่า
เหมาะกับใคร
สำหรับเรา บอกตามตรงบุคลิกของซีอาร์-วี โฉมนี้ เหมาะกับผู้ขับที่เป็นสุภาพสตรีอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ใดก็ตาม แต่หากมองถึงความคุ้มค่าต่อราคาแล้ว รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน จะเป็นคำตอบที่ใช่ อย่างไรก็ตามหากมองในแง่ของเทคโนโลยีและการใช้งานระยะยาวแล้ว ชอบเครื่องยนต์ดีเซลมากกว่า สุดท้ายจะเลือกมุมไหนก็ขอให้คุณผู้ชายถามคนข้างๆว่า เลือกแบบไหนจะได้สบายใจคนใช้งานตัวจริง
