ข่าวต่างประเทศ - โรลส์-รอยซ์ สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ เตรียมจัดงานแสดงสุดยอดยานยนต์ในตำนาน “The Great Eight Phantoms” ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ บริเวณย่านเมย์แฟร์ใจกลางกรุงลอนดอน โดยรวบรวมรถยนต์รุ่นแฟนทอมชื่อดังซึ่งเป็นที่จดจำในประวัติศาสตร์ยานยนต์เมื่อกว่า 92 ปีที่ นำมาจัดแสดงร่วมกับนวัตกรรมยานยนต์รุ่นใหม่
ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์นับจากนี้ โรลส์-รอยซ์จะทยอยเปิดเผยรถยนต์แฟนทอมรุ่นต่าง ๆ ที่จะเดินทางไปอวดโฉมและสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญร่วมกัน ณ กรุงลอนดอน โดยการจัดแสดงครั้งแรกจะเป็นเรื่องราวของ “The Fred Astaire Phantom I (เดอะ เฟร็ด แอสแตร์ แฟนทอม I)” )” ตามมาด้วยแฟนทอมรุ่นยอดนิยมอื่น ๆ อีกเจ็ดรุ่นในงานจัดแสดงสุดยอดยานยนต์ “The Great Eight Phantoms” โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป
โรลส์-รอยซ์ เริ่มผลิตรถยนต์รุ่นแฟนทอมในปี ค.ศ. 1925 โดยการผลิตถูกเก็บเป็นความลับสุดยอดภายใต้รหัสโครงการ Eastern Armoured Car ซึ่งทำให้ดูเหมือนโรลส์-รอยซ์ตั้งใจผลิตยานพาหนะทางทหารสำหรับใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ได้ถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์เรื่องลอเรนซ์แห่งอาราเบีย (Lawrence of Arabia) จนมีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาต่อมา โดยในระหว่างการผลิตได้มีการวางชิ้นส่วนเกราะกันกระสุนเรียงรายไว้รอบโรงงานผลิต เพื่อสร้างความสับสนให้กับคู่แข่งที่แอบมาเก็บข้อมูลการสร้าง รถยนต์รุ่นนี้
รถยนต์รุ่น แฟนทอม 1 ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยเครื่องยนต์ 6 สูบ 7.668 ลิตรรุ่นใหม่ ถือเป็นความแปลกใหม่อย่างมากของรถยนต์รุ่นนี้ เมื่อบริษัทเจเนอรัลมอเตอร์เปิดสนามทดสอบสมรรถนะรถยนต์ในรัฐมิชิแกน ปรากฏว่าแฟนทอม 1 โชว์สมรรถนะได้อย่างเหนือชั้นและสมบูรณ์แบบ โดยสามารถทำความเร็วคงที่ได้สูงสุด 80 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นผลสำเร็จ
ต่อมา เซอร์เฮนรี รอยซ์ ผู้ยึดมั่นในปรัชญา “นำสิ่งที่ดีที่สุดที่มีอยู่ มาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น” ได้พัฒนารถยนต์รุ่น แฟนทอม 2 ขึ้นในปี ค.ศ. 1929 ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ใช้โครงช่วงล่างที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ทำให้เกิดการยกระดับสมรรถนะของรถยนต์ และยังทำการออกแบบเครื่องยนต์ใหม่ในทุกองค์ประกอบเช่นกัน
โดย แฟนทอม 3 ถือเป็นยานยนต์รุ่นสุดท้ายของ เซอร์เฮนรี รอยซ์ เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1933 ด้วยอายุ 70 ปี ในเวลา 12 เดือนก่อนการพัฒนาแฟนทอมรุ่นต่อไป เมื่อสามารถผลิตรถต้นแบบที่ใช้เครื่องยนต์ 12 สูบ รถยนต์รุ่นนี้ก็ได้เปิดตัวในเวลา 2 ปีหลังจากนั้น และมีการผลิตเรื่อยมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยโครงช่วงล่างรุ่นสุดท้ายถูกผลิตในปี ค.ศ. 1941 และไม่สามารถผลิตตัวถังรถได้อีกเลยจนถึงปี ค.ศ. 1947 ในช่วงเวลานั้น โรลส์-รอยซ์ไม่มีการประกาศแจ้งข่าวใด ๆ จนดูเหมือนว่า รถยนต์แฟนทอมก็ได้กลายเป็นเหยื่อสงครามไปแล้วเช่นกัน
ในปี ค.ศ. 1950 รถยนต์รุ่น แฟนทอม 4 ก็ปรากฏขึ้น โดยเริ่มแรกเป็นการสั่งผลิตแบบคันเดียวสำหรับเจ้าชายฟิลิปและเจ้าหญิงอลิซาเบธ ทว่า เมื่อรถยนต์คันนี้ได้เผยโฉมครั้งแรกก็มีคำสั่งผลิตจากสมาชิกในราชวงศ์และผู้นำรัฐต่าง ๆ ทั่วโลกตามมาอีกถึง 17 คัน โดยรถยนต์รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบซึ่งทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ในความเร็วต่ำ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้วิ่งในขบวนพาเหรดของงานพิธีต่าง ๆ และยังนำเสนอสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy บนฝากระโปรงรถอันเลื่องชื่อในเวอร์ชั่นคุกเข่าที่สร้างความฮือฮาได้อย่างมาก
ยานยนต์ แฟนทอม 5 ถูกผลิตขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1959 ถึง 1968 โดยรถยนต์ทั้ง 516 คันของรุ่นนี้ถูกผลิตเพื่อลูกค้าระดับสูง อาทิ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง กษัตริย์โอลาฟแห่งนอร์เวย์ และ จอห์น เลนนอน
สำหรับรุ่น แฟนทอม 6 ซึ่งใช้ระยะเวลาในการพัฒนาที่ยาวนาน (ค.ศ. 1968 - 1990) ก็ได้ถูกผลิตในเวอร์ชั่นแบบเปิดประทุนเพื่อถวายแก่สมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบธที่ 2 ในโอกาสฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 25 ปีของพระองค์ ในปี ค.ศ. 1977 และต่อมา ยังได้ถูกใช้ในงานอภิเษกระหว่างดุ๊กและดัชเชสส์แห่งแคมบริดจ์
ในปี ค.ศ. 2003 แฟนทอม 7 อันเป็นสิ่งยืนยันถึงยุคแห่งการฟื้นฟูอำนาจอันรุ่งโรจน์ของโรลส์-รอยซ์ที่บ้านหลังใหม่ในกู้ดวู้ด เทศมณฑลเวสต์ซัสเซกซ์ โดยผลิตขึ้นที่สำนักงานใหญ่โรลส์-รอยซ์ (Home of Rolls-Royce) โดยใช้เครื่องยนต์ V12 6.75 ลิตร รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้น ด้วยกำลังเครื่องยนต์ 453 แรงม้าและเร่งความเร็ว 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ทำให้ผู้บริโภคต่างมั่นใจว่าแบรนด์โรลส์-รอยซ์ ได้กลับมาแล้วอย่างสง่างาม
การผลิตรถยนต์ Phantom VII ยุติลงในเวลา 13 ปีต่อมา ช่วงปลายปี ค.ศ. 2016
งานแสดงสุดยอดยานยนต์ในตำนาน “The Great Eight Phantoms” ของโรลส์-รอยซ์ เป็นการรวบรวมรถยนต์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศและนำมาจัดแสดงภายในสถานที่เดียวกันเป็นครั้งแรก ยานยนต์แฟนทอมของโรลส์รอยซ์ทุกคันล้วนมีเอกลักษณ์พิเศษและบางรุ่นมีผลิตเพียงคันเดียวเท่านั้น ซึ่งเจ้าของทุกคนล้วนเป็นบุคคลระดับสูงที่มีชื่อเสียงและถือเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสรรค์สร้างประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ งานครั้งนี้จึงเป็นความพิเศษครั้งแรกและครั้งเดียว ที่เราจะได้สัมผัสกับความเป็นเลิศจากทุกยุคสมัยพร้อมกัน
งานแสดงสุดยอดยานยนต์ในตำนาน “The Great Eight Phantoms” ของโรลส์-รอยซ์ กำหนดจัดในย่านเมย์แฟร์ใจกลางกรุงลอนดอน ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์นับจากนี้ โรลส์-รอยซ์จะทยอยเปิดเผยรถยนต์แฟนทอมรุ่นต่าง ๆ ที่จะเดินทางไปอวดโฉมและสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญร่วมกัน ณ กรุงลอนดอน โดยการจัดแสดงครั้งแรกจะเป็นเรื่องราวของ “The Fred Astaire Phantom I (เดอะ เฟร็ด แอสแตร์ แฟนทอม I)” )” ตามมาด้วยแฟนทอมรุ่นยอดนิยมอื่น ๆ อีกเจ็ดรุ่นในงานจัดแสดงสุดยอดยานยนต์ “The Great Eight Phantoms” โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป
โรลส์-รอยซ์ เริ่มผลิตรถยนต์รุ่นแฟนทอมในปี ค.ศ. 1925 โดยการผลิตถูกเก็บเป็นความลับสุดยอดภายใต้รหัสโครงการ Eastern Armoured Car ซึ่งทำให้ดูเหมือนโรลส์-รอยซ์ตั้งใจผลิตยานพาหนะทางทหารสำหรับใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ได้ถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์เรื่องลอเรนซ์แห่งอาราเบีย (Lawrence of Arabia) จนมีชื่อเสียงโด่งดังในเวลาต่อมา โดยในระหว่างการผลิตได้มีการวางชิ้นส่วนเกราะกันกระสุนเรียงรายไว้รอบโรงงานผลิต เพื่อสร้างความสับสนให้กับคู่แข่งที่แอบมาเก็บข้อมูลการสร้าง รถยนต์รุ่นนี้
รถยนต์รุ่น แฟนทอม 1 ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยเครื่องยนต์ 6 สูบ 7.668 ลิตรรุ่นใหม่ ถือเป็นความแปลกใหม่อย่างมากของรถยนต์รุ่นนี้ เมื่อบริษัทเจเนอรัลมอเตอร์เปิดสนามทดสอบสมรรถนะรถยนต์ในรัฐมิชิแกน ปรากฏว่าแฟนทอม 1 โชว์สมรรถนะได้อย่างเหนือชั้นและสมบูรณ์แบบ โดยสามารถทำความเร็วคงที่ได้สูงสุด 80 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นผลสำเร็จ
ต่อมา เซอร์เฮนรี รอยซ์ ผู้ยึดมั่นในปรัชญา “นำสิ่งที่ดีที่สุดที่มีอยู่ มาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น” ได้พัฒนารถยนต์รุ่น แฟนทอม 2 ขึ้นในปี ค.ศ. 1929 ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ใช้โครงช่วงล่างที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ทำให้เกิดการยกระดับสมรรถนะของรถยนต์ และยังทำการออกแบบเครื่องยนต์ใหม่ในทุกองค์ประกอบเช่นกัน
โดย แฟนทอม 3 ถือเป็นยานยนต์รุ่นสุดท้ายของ เซอร์เฮนรี รอยซ์ เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1933 ด้วยอายุ 70 ปี ในเวลา 12 เดือนก่อนการพัฒนาแฟนทอมรุ่นต่อไป เมื่อสามารถผลิตรถต้นแบบที่ใช้เครื่องยนต์ 12 สูบ รถยนต์รุ่นนี้ก็ได้เปิดตัวในเวลา 2 ปีหลังจากนั้น และมีการผลิตเรื่อยมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยโครงช่วงล่างรุ่นสุดท้ายถูกผลิตในปี ค.ศ. 1941 และไม่สามารถผลิตตัวถังรถได้อีกเลยจนถึงปี ค.ศ. 1947 ในช่วงเวลานั้น โรลส์-รอยซ์ไม่มีการประกาศแจ้งข่าวใด ๆ จนดูเหมือนว่า รถยนต์แฟนทอมก็ได้กลายเป็นเหยื่อสงครามไปแล้วเช่นกัน
ในปี ค.ศ. 1950 รถยนต์รุ่น แฟนทอม 4 ก็ปรากฏขึ้น โดยเริ่มแรกเป็นการสั่งผลิตแบบคันเดียวสำหรับเจ้าชายฟิลิปและเจ้าหญิงอลิซาเบธ ทว่า เมื่อรถยนต์คันนี้ได้เผยโฉมครั้งแรกก็มีคำสั่งผลิตจากสมาชิกในราชวงศ์และผู้นำรัฐต่าง ๆ ทั่วโลกตามมาอีกถึง 17 คัน โดยรถยนต์รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบซึ่งทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ในความเร็วต่ำ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้วิ่งในขบวนพาเหรดของงานพิธีต่าง ๆ และยังนำเสนอสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy บนฝากระโปรงรถอันเลื่องชื่อในเวอร์ชั่นคุกเข่าที่สร้างความฮือฮาได้อย่างมาก
ยานยนต์ แฟนทอม 5 ถูกผลิตขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1959 ถึง 1968 โดยรถยนต์ทั้ง 516 คันของรุ่นนี้ถูกผลิตเพื่อลูกค้าระดับสูง อาทิ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ผู้ว่าการเกาะฮ่องกง กษัตริย์โอลาฟแห่งนอร์เวย์ และ จอห์น เลนนอน
สำหรับรุ่น แฟนทอม 6 ซึ่งใช้ระยะเวลาในการพัฒนาที่ยาวนาน (ค.ศ. 1968 - 1990) ก็ได้ถูกผลิตในเวอร์ชั่นแบบเปิดประทุนเพื่อถวายแก่สมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบธที่ 2 ในโอกาสฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 25 ปีของพระองค์ ในปี ค.ศ. 1977 และต่อมา ยังได้ถูกใช้ในงานอภิเษกระหว่างดุ๊กและดัชเชสส์แห่งแคมบริดจ์
ในปี ค.ศ. 2003 แฟนทอม 7 อันเป็นสิ่งยืนยันถึงยุคแห่งการฟื้นฟูอำนาจอันรุ่งโรจน์ของโรลส์-รอยซ์ที่บ้านหลังใหม่ในกู้ดวู้ด เทศมณฑลเวสต์ซัสเซกซ์ โดยผลิตขึ้นที่สำนักงานใหญ่โรลส์-รอยซ์ (Home of Rolls-Royce) โดยใช้เครื่องยนต์ V12 6.75 ลิตร รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้น ด้วยกำลังเครื่องยนต์ 453 แรงม้าและเร่งความเร็ว 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ทำให้ผู้บริโภคต่างมั่นใจว่าแบรนด์โรลส์-รอยซ์ ได้กลับมาแล้วอย่างสง่างาม
การผลิตรถยนต์ Phantom VII ยุติลงในเวลา 13 ปีต่อมา ช่วงปลายปี ค.ศ. 2016
งานแสดงสุดยอดยานยนต์ในตำนาน “The Great Eight Phantoms” ของโรลส์-รอยซ์ เป็นการรวบรวมรถยนต์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศและนำมาจัดแสดงภายในสถานที่เดียวกันเป็นครั้งแรก ยานยนต์แฟนทอมของโรลส์รอยซ์ทุกคันล้วนมีเอกลักษณ์พิเศษและบางรุ่นมีผลิตเพียงคันเดียวเท่านั้น ซึ่งเจ้าของทุกคนล้วนเป็นบุคคลระดับสูงที่มีชื่อเสียงและถือเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสรรค์สร้างประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ งานครั้งนี้จึงเป็นความพิเศษครั้งแรกและครั้งเดียว ที่เราจะได้สัมผัสกับความเป็นเลิศจากทุกยุคสมัยพร้อมกัน
งานแสดงสุดยอดยานยนต์ในตำนาน “The Great Eight Phantoms” ของโรลส์-รอยซ์ กำหนดจัดในย่านเมย์แฟร์ใจกลางกรุงลอนดอน ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้