เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันในเหตุไฟไหม้อาคารที่พักอาศัยในลอนดอน เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 30 ราย จากการเปิดเผยของตำรวจในวันศุกร์(16มิ.ย.) ขณะที่หน่วยดับเพลิงยังคงค้นหาศพเหยื่อท่ามกลางความขุ่นเคืองต่อกรณีวัสดุหุ้มตึกที่ถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นตอไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและเผาผลาญอพาร์ตเมนต์ทั้ง 120 ห้องวอดวาย
"เราทราบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 คนในเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ ผมเชื่อว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นอีก" ผู้บัญชาการตำรวจ สจ๊วร์ต คันดี บอกกับผู้สื่อข่าวบริเวณด้านหน้าของอาคารเกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ที่ไหม้เกรียม พร้อมเผยว่าตำรวจได้เริ่มสืบสวนทางอาญาแล้ว แต่ไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าไฟปะทุขึ้นจากความตั้งใจ
ผู้บัญชาการตำรวจรายนี้บอกต่อว่าเปลวไฟสุดท้ายมอดลงแล้ว สองหลังวันหลังจากปะทุขึ้นระหว่างค่ำคืนวันอังคาร(13มิ.ย.) ต่อเช้าวันพุธ(14มิ.ย.) บนตึก 24 ชั้น ในย่านนอร์ทเคนซิงตัน ทางตะวันตกของลอนดอน ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของผู้คนประมาณ 600 คน
สื่อมวลชนรายงานว่ายังมีผู้สูญหายอีกกว่า 70 คน แม้ยังไม่ทราบชัดเจนว่าบางคนในนั้นอยู่ในบรรดาศพที่เก็บกู้มาได้แล้วหรือไม่ ส่วนตำรวจเตือนว่าเหยื่อบางรายอาจถึงขั้นระบุเอกลักษณ์ไม่ได้เลย สืบเนื่องจากสภาพของศพ
คันดี เผยว่าเหยื่อคนหนึ่งเสียชีวิตในโรงพยาบาล ทำให้ตอนนี้มีผู้รอดชีวิต 24 คนที่ยังรักษาตัวในโรงพยาบาลและในนั้นมีถึง 12 คนที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน
หน่วยดับเพลิงใช้โดรนและสุนัขดมกลิ่นค้นหาจากนอกและในอาคาร พร้อมเผยว่าบริเวณชั้นบนๆเจ้าหน้าที่ยังเข้าไปไม่ถึง สืบเนื่องจากความมั่นคงของตึก
พื้นที่โดยรอบของอาคาร พวกญาติๆที่สิ้นหวังต่างนำแผ่นป้ายประกาศที่มีรูปของผู้สูญหายมาติดโดยรอบ มีทั้งคุณปู่คุณย่าไปจนถึงเด็กๆ ขณะที่อาสาสมัครจำนวนมากคอยให้ความช่วยเหลือแก่ผู้รอดชีวิต
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายวิลเลียม ทรงเสด็จเยือนศูนย์ประชาคมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่พักพิงชั่วคราวของผู้รอดชีวิตบางส่วน ท่ามกลางความขุ่นเคืองของชาวบ้านมากขึ้นต่อคำกล่าวอ้างที่ความกังวลด้านความปลอดภัยจากเหตุไฟไหม้ถูกละเลยมานานหลายปี
รัฐบาลออกคำสั่งให้ตั้งคณะไต่สวนที่นำโดยผู้พิพากษารายหนึ่งเข้าสืบสวนเหตุอัคคีภัยครั้งเลวร้ายเมื่อวันพุธ(14มิ.ย.) หลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ลงมือสืบสวนอย่างรวดเร็ว
ส่วนนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ต่อกรณีไม่พบปะกับชาวบ้านตอนที่ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อพูดคุยกับพวกเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสบดี(15มิ.ย.) อย่างไรก็ตามเธอได้เดินทางไปเยี่ยมผู้รอดชีวิตที่โรงพยาบาลในวันศุกร์(16มิ.ย.)
มีคำถามมากขึ้นว่าทำไมไฟถึงลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์มุ่งเน้นไปที่วัสดุหุ้มอาคารที่ติดตั้งบนผนังด้านนอกระหว่างการปรับปรุงตึกเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ปี 1974 แห่งนี้ ที่ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 11 ล้านดอลลาร์ และเพิ่งลุล่วงเมื่อกลางปีที่แล้ว
จากข้อมูลของบีบีซี วัสดุหุ้มอาคารที่เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ใช้มีพลาสติกเป็นแกนกลางและคล้ายกับวัสดุที่ใช้ในอาคารสูงในฝรั่งเศส สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ออสเตรเลีย
แม้ ไรดอน บริษัทที่รับผิดชอบการปรับปรุงตึกแห่งนี้ ยืนยันว่าดำเนินการตามข้อกำหนดด้านอาคารทั้งหมดอย่างเคร่งครัด แต่เดอะ ไทมส์ รายงานว่าชนิดของวัสดุหุ้มที่ใช้ในอาคารแห่งนี้ถูกห้ามในสิ่งปลูกสร้างที่มีความสูงเกิน 12.2 เมตรในสหรัฐฯ สืบเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยหากมีเหตุเพลิงไหม้
นอกจากประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับวัสดุหุ้มแล้ว ยังมีคำถามเพิ่มเติมว่าทำไมถึงไม่มีระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติ(sprinkler) ในอาคารแห่งนี้ ซึ่งอาจช่วยหยุดการลุกลามของเปลวไฟ หรือระบบเตือนควันไฟส่วนกลางที่จะช่วยปลุกชาวบ้านให้ตื่น