นอกจากรถใหม่ๆที่บรรดาค่ายรถขนมาให้เรา ชม-ช้อป กันแล้ว มอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ภายใน Hall ยังคงมีการจัดแสดงโชว์ รถโบราณ โดยสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย จัดแสดงรถโบราณทรงคุณค่าหลากหลายลักษณะ และในปีนี้มีการจัดแสดงตามกลุ่มต่าง ๆ เช่นก่อนสงครามโลก หลังสงครามโลก และรถคลาสสิค เพื่อแบ่งรูปแบบอย่างชัดเจน ซึ่งงานนี้ ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมฯ ได้นำมาให้เราชมกันถึง 7 รุ่น พร้อมเลือกซื้อของที่ระลึกจากสมาคมฯได้อีก งานนี้ใครเป็นแฟนของรถโบราณห้ามพลาด
ประเภทรถ : รถรุ่นบรรพบุรุษ ก่อนปี 1904
BLACK
ปีผลิต 1904, ผลิตเพียง 379 คัน, ประเทศผูผลิต อเมริกา
รถยนต์ แบล็ค รุ่นปี 1904 หรือราวๆปี 2447 เป็นรถยนต์ ในยุคเริ่มแรก รูปทรง และที่นั่งบังคับขับขี่ มีพื้นฐานมาจากรถเทียมม้า ตัวถัง และกงล้อ หรือซี่ล้อ ทำด้วยไม้ คาดยางเส้นบางๆ ควบคุมด้วยคานโยก หรือแฮนด์แบบรถจักรยาน เครื่องยนต์ระบบสันดาปภายนอก ใช้ไอน้ำ หรือไฟฟ้าจากหม้อแบทเตอรีเป็นแหล่งพลังงาน ติดตั้งใต้พื้นรถ หรือห้อยไว้กับเพลาขับ
จนถึงช่วงปลายทศวรรษ ราวปี 1890 จึงเริ่มติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 จังหวะแบบวัฏจักรอทโทอย่างแพร่หลาย ผู้ผลิตหลัก ได้แก่ เดมเลร์, เมร์เซเดส-เบนซ์, ปังอาร์ เลอ วาซอร์, เปอโฌต์ และโอเพล
ปัจจุบัน BLACK เหลือคงสภาพเพียงแค่ 13 คันทั้งโลก
ประเภทรถ : รถรุ่นผ่านศึก
Overland Model 40 Roadster
ปีผลิต :1910 จำนวนการผลิต 751 คัน ประเทศผู้ผลิต สหรัฐอเมริกา กลุ่มผู้ผลิต ต่างเมืองดีทรอยท์
รถยนต์โอเวอร์แลนด์ โมเดล 40 รุ่นปี 1910 (ราว พ.ศ.2453 รอยต่อแผ่นดิน รัชกาลที่ 5 และ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ผลิตจากอินเดียนาโพลิส เมืองแห่งรถแข่งของสหรัฐอเมริกา
ในช่วงแรกของศตวรรษที่ 20 รถยนต์ได้ปรับรูปทรงจากเกวียนติดเครื่องยนต์กลางลำตัวใต้พื้นรถ ขับขี่ในตำแหน่งสูงเช่นเดียวกับรถม้า เข้าสู่ลักษณะ “รถยุคปัจจุบัน” ติดตั้งหม้อน้ำ-เครื่องยนต์-ห้องโดยสาร เรียงในระดับเดียวกัน
รถโอเวอร์แลนด์ โมเดล 40 ออกแบบโดยผู้สร้างรถแข่งแพคการ์ดที่โด่งดัง คงศักดิ์ศรีของรถแข่ง ด้วยมาตรฐานการผลิตที่ละเอียดแม่นยำ นำสมัยกว่ารถในยุคเดียวกัน มีการิเริ่มใช้โลหะผสมนิคเคิลโครเมียม วานาเดียม และเหล็กกล้า ใช้กระบวนการหล่อโลหะที่นำสมัยในการผลิตเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นแบบ 4 สูบ 4,188 ซีซี 40 แรงม้า จัดว่ามีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่ารถยนต์จากดีทรอยท์อย่างเห็นได้ชัด
ประเภทรถ : รถโบราณ ปี1919-1930
Austin Seven
ปีผลิต : 1935, ประเทศผู้ผลิต : อังกฤษ
รถโบราณ คือ รถยนต์ที่ออกจำหน่ายในช่วงระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 ความรู้จากมหาสงคราม ทำให้เกิดการพัฒนามากมาย
เริ่มใช้คานแชสซีส์เป็นโลหะ ส่วนหน้ารถ และบังโคลนหน้าแบบปีกนก ทำด้วยโลหะเหนียว มีชานบันไดด้านข้าง ล้อเป็นซี่ลวด โครงตัวถังสร้างจากไม้บุโลหะแผ่น เลือกแบบต่างกันได้ในรถรุ่นเดียวกัน ผลิตโดยสำนักผลิตตัวถัง ส่วนระบบรองรับ ระบบบังคับควบคุม ขนาดเครื่องยนต์ 747 ซีซี ระบบส่องสว่าง และระบบห้ามล้อ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นพื้นฐานของรถยุคปัจจุบัน
ประเภทรถ : รถก่อนสงคราม ปี 1931 - 1945
MG VA 1937
ปีผลิต 1937, ประเทศผู้ผลิต, อังกฤษ
รถที่ออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 ลักษณะพื้นฐานคล้ายรถโบราณ แต่มีความแนบเนียน กลมกลืน และสะดวกสบายมากขึ้น
ระยะนี้มีการสร้างถนนเชื่อมโยงไปทั่วยุโรป รถยนต์จึงได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะสูง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ เช่น ไฟส่องสว่างแรงสูง ที่ปัดน้ำฝนไฟฟ้า แตรไฟฟ้า ระบบเบรค 4 ล้อ และยางคุณภาพดี เพื่อให้พร้อมสำหรับการขับขี่ระยะทางไกล ด้วยเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 1,548 ซีซี
นอกจากนี้ ยังมีการผลิตรถหลายประเภท ตามระดับ และวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ เข่น รถหรู สำหรับบุคคลชั้นสูง รถระดับกลางสำหรับบุคคลทั่วไป และรถขนาดเล็กเพื่อการกีฬา ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนหนุ่มสาว
Mercedes -Benz 300SL Gullwing รหัสรุ่น W198
ปีผลิต :1954-1957 , จำนวนผลิต 1400 คัน , ประเทศผู้ผลิต เยอรมนีตะวันตก
เป็นรถสปอร์ตที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของค่ายดาวสามแฉกแห่งเยอรมนี พัฒนามาจากรถ W194 เจ้าสนามของทีมแข่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในช่วงทศวรรษ 1950 ใช้ชื่อ “SL-Sport leicht ระบุความเบาพิเศษของรถ ที่สร้างด้วยท่อเชื่อมเป็นโครง 3 มิติ ประกอบชิ้นส่วนอลูมิเนียมอัลลอย ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 2,996 ซีซี 190 แรงม้า จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง ตามแบบระบบที่ใช้ในเครื่องบิน Me 109 ในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีประตูแบบปีกนกนางนวลเปิดยกขึ้นตามแบบรถแข่ง w194 จึงได้รับสมญานามว่า “Gullwing” เป็นรถที่ครบสมบูรณ์ทั้งพละกำลังมีความเร็วปลายถึง 264 กม./ชม. และมีความงามที่เย้ายวนใจจนอาจะกล่าวได้ว่าเป็นรถ “ซูเปอร์คาร์ยุคใหม่” คันแรกของโลก
ประเภทรถ :รถคลาสสิค
Jaguar E-Type 1 Series
ปีผลิต 1961-1975 , ประเทศผู้ผลิต อังกฤษ
จากัวร์ อี-ไทพ์ ซีรี่ส์ 1 ออกแบบเพื่อใช้ในการแข่งขัน เลอ มองส์ (Le-Mans) ทดแทนรุ่น ดี-ไทพ์ ตัวถังเป็นอัลลอยน้ำหนักเบา ส่วนโครงสร้างหลักผสานกันระหว่างตัวถังแบบชิ้นเดียว (Monocoque) กับแบบ Space Frame ที่ใช้ในรถแข่งระบบรองรับอิสระออกแบบใหม่ทั้งหมด
ตัวรถหุ่นลู่ลม ห้องเครื่องยนต์อยู่ใต้ฝากระโปรงชิ้นเดียว หากจะเปิดต้องยกขึ้นทั้งกะบิ แบบรถแข่งยุคก่อน ฝากระโปรงท้ายเปิดจากซ้ายไปขวา กระทะล้อลายซี่ลวด
ห้องโดยสารขนาดเล็กกระชับ พวงมาลัยทรงสปอร์ต 3 ก้านโครเมียม แผงคอนโซลใส่มาตรวัดเต็มพื้นที่ตามสไตล์รถแข่ง เบาะหลังพักเก็บได้เพื่อบรรทุกสัมภาระ
เครื่องยนต์ที่ใช้มีขนาดตั้งแต่ 3,800/4,235 ซีซี และวี 12 สูบ 5,343 ซีซี ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการผลิตเครื่องยนต์ลักษณะนี้จำนวนมาก ด้วยวัตถุประสงค์ด้านการค้า ประสบความสำเร็จด้วยยอดขาย 72,507 คัน โดยมากกว่า 15,000 คัน เป็นรุ่น วี 12
ประเภทรถ :รถคลาสสิคร่วมสมัย
Porsche 911T Coupe
ปีผลิต : 1971-1973 ,จำนวนผลิต 4,894 คัน ,ประเทศผู้ผลิต เยอรมนี
ปอร์เช่ 911 เป็นการสืบทอดความสำเร็จของรุ่น 356 งามสง่าขึ้นด้วยฝีมือการออกแบบของ Butzi Porsche “หลานปู่ฟอร์เช่” 911T เป็นรุ่นมาตรฐานในชุดมี “ช่องตะแกรงแตร” (Horngrille) ใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศ วางเครื่องท้าย ขับเคลื่อนล้อหลังในรูปแบบปอร์เช่ ดั้งเดิม รถในตลาดสหรัฐฯ ติดตั้งหัวฉีดอีเลคทรอนิคส์ K-Jetronics ให้กำลัง 140 แรงม้า เพลาราวลิ้นเหนือฝาสูบขับด้วยโซ่ เกียร์ 5 จังหวะ นำมาจากรถแข่ง 908 ของทีมปอร์เช่
เครื่องยนต์ 6 สูบ Boxer 2,341ซีซี SOHC 140 แรงม้า ให้ความเร็วสูงสุด 203 กม./ชม.
แจกบัตร มอเตอร์ เอ็กซ์โป ท่านละ 2 ใบ ติดต่อรับได้ที่โอปอเรเตอร์ บ้านพระอาทิตย์ โทร.02-629-4488 ในเวลาทำการ 8.30-18.00 น.
***บัตรเข้างานใช้ได้วันที่ 2-12 ธค. 2559 ***
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
ประเภทรถ : รถรุ่นบรรพบุรุษ ก่อนปี 1904
BLACK
ปีผลิต 1904, ผลิตเพียง 379 คัน, ประเทศผูผลิต อเมริกา
รถยนต์ แบล็ค รุ่นปี 1904 หรือราวๆปี 2447 เป็นรถยนต์ ในยุคเริ่มแรก รูปทรง และที่นั่งบังคับขับขี่ มีพื้นฐานมาจากรถเทียมม้า ตัวถัง และกงล้อ หรือซี่ล้อ ทำด้วยไม้ คาดยางเส้นบางๆ ควบคุมด้วยคานโยก หรือแฮนด์แบบรถจักรยาน เครื่องยนต์ระบบสันดาปภายนอก ใช้ไอน้ำ หรือไฟฟ้าจากหม้อแบทเตอรีเป็นแหล่งพลังงาน ติดตั้งใต้พื้นรถ หรือห้อยไว้กับเพลาขับ
จนถึงช่วงปลายทศวรรษ ราวปี 1890 จึงเริ่มติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 จังหวะแบบวัฏจักรอทโทอย่างแพร่หลาย ผู้ผลิตหลัก ได้แก่ เดมเลร์, เมร์เซเดส-เบนซ์, ปังอาร์ เลอ วาซอร์, เปอโฌต์ และโอเพล
ปัจจุบัน BLACK เหลือคงสภาพเพียงแค่ 13 คันทั้งโลก
ประเภทรถ : รถรุ่นผ่านศึก
Overland Model 40 Roadster
ปีผลิต :1910 จำนวนการผลิต 751 คัน ประเทศผู้ผลิต สหรัฐอเมริกา กลุ่มผู้ผลิต ต่างเมืองดีทรอยท์
รถยนต์โอเวอร์แลนด์ โมเดล 40 รุ่นปี 1910 (ราว พ.ศ.2453 รอยต่อแผ่นดิน รัชกาลที่ 5 และ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ผลิตจากอินเดียนาโพลิส เมืองแห่งรถแข่งของสหรัฐอเมริกา
ในช่วงแรกของศตวรรษที่ 20 รถยนต์ได้ปรับรูปทรงจากเกวียนติดเครื่องยนต์กลางลำตัวใต้พื้นรถ ขับขี่ในตำแหน่งสูงเช่นเดียวกับรถม้า เข้าสู่ลักษณะ “รถยุคปัจจุบัน” ติดตั้งหม้อน้ำ-เครื่องยนต์-ห้องโดยสาร เรียงในระดับเดียวกัน
รถโอเวอร์แลนด์ โมเดล 40 ออกแบบโดยผู้สร้างรถแข่งแพคการ์ดที่โด่งดัง คงศักดิ์ศรีของรถแข่ง ด้วยมาตรฐานการผลิตที่ละเอียดแม่นยำ นำสมัยกว่ารถในยุคเดียวกัน มีการิเริ่มใช้โลหะผสมนิคเคิลโครเมียม วานาเดียม และเหล็กกล้า ใช้กระบวนการหล่อโลหะที่นำสมัยในการผลิตเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นแบบ 4 สูบ 4,188 ซีซี 40 แรงม้า จัดว่ามีเทคโนโลยีก้าวหน้ากว่ารถยนต์จากดีทรอยท์อย่างเห็นได้ชัด
ประเภทรถ : รถโบราณ ปี1919-1930
Austin Seven
ปีผลิต : 1935, ประเทศผู้ผลิต : อังกฤษ
รถโบราณ คือ รถยนต์ที่ออกจำหน่ายในช่วงระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 ความรู้จากมหาสงคราม ทำให้เกิดการพัฒนามากมาย
เริ่มใช้คานแชสซีส์เป็นโลหะ ส่วนหน้ารถ และบังโคลนหน้าแบบปีกนก ทำด้วยโลหะเหนียว มีชานบันไดด้านข้าง ล้อเป็นซี่ลวด โครงตัวถังสร้างจากไม้บุโลหะแผ่น เลือกแบบต่างกันได้ในรถรุ่นเดียวกัน ผลิตโดยสำนักผลิตตัวถัง ส่วนระบบรองรับ ระบบบังคับควบคุม ขนาดเครื่องยนต์ 747 ซีซี ระบบส่องสว่าง และระบบห้ามล้อ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นพื้นฐานของรถยุคปัจจุบัน
ประเภทรถ : รถก่อนสงคราม ปี 1931 - 1945
MG VA 1937
ปีผลิต 1937, ประเทศผู้ผลิต, อังกฤษ
รถที่ออกแบบและผลิตด้วยเทคโนโลยีก่อนสงครามโลก ครั้งที่ 2 ลักษณะพื้นฐานคล้ายรถโบราณ แต่มีความแนบเนียน กลมกลืน และสะดวกสบายมากขึ้น
ระยะนี้มีการสร้างถนนเชื่อมโยงไปทั่วยุโรป รถยนต์จึงได้รับการพัฒนาให้มีสมรรถนะสูง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นใหม่ เช่น ไฟส่องสว่างแรงสูง ที่ปัดน้ำฝนไฟฟ้า แตรไฟฟ้า ระบบเบรค 4 ล้อ และยางคุณภาพดี เพื่อให้พร้อมสำหรับการขับขี่ระยะทางไกล ด้วยเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 1,548 ซีซี
นอกจากนี้ ยังมีการผลิตรถหลายประเภท ตามระดับ และวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ เข่น รถหรู สำหรับบุคคลชั้นสูง รถระดับกลางสำหรับบุคคลทั่วไป และรถขนาดเล็กเพื่อการกีฬา ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนหนุ่มสาว
Mercedes -Benz 300SL Gullwing รหัสรุ่น W198
ปีผลิต :1954-1957 , จำนวนผลิต 1400 คัน , ประเทศผู้ผลิต เยอรมนีตะวันตก
เป็นรถสปอร์ตที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของค่ายดาวสามแฉกแห่งเยอรมนี พัฒนามาจากรถ W194 เจ้าสนามของทีมแข่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในช่วงทศวรรษ 1950 ใช้ชื่อ “SL-Sport leicht ระบุความเบาพิเศษของรถ ที่สร้างด้วยท่อเชื่อมเป็นโครง 3 มิติ ประกอบชิ้นส่วนอลูมิเนียมอัลลอย ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 2,996 ซีซี 190 แรงม้า จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง ตามแบบระบบที่ใช้ในเครื่องบิน Me 109 ในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีประตูแบบปีกนกนางนวลเปิดยกขึ้นตามแบบรถแข่ง w194 จึงได้รับสมญานามว่า “Gullwing” เป็นรถที่ครบสมบูรณ์ทั้งพละกำลังมีความเร็วปลายถึง 264 กม./ชม. และมีความงามที่เย้ายวนใจจนอาจะกล่าวได้ว่าเป็นรถ “ซูเปอร์คาร์ยุคใหม่” คันแรกของโลก
ประเภทรถ :รถคลาสสิค
Jaguar E-Type 1 Series
ปีผลิต 1961-1975 , ประเทศผู้ผลิต อังกฤษ
จากัวร์ อี-ไทพ์ ซีรี่ส์ 1 ออกแบบเพื่อใช้ในการแข่งขัน เลอ มองส์ (Le-Mans) ทดแทนรุ่น ดี-ไทพ์ ตัวถังเป็นอัลลอยน้ำหนักเบา ส่วนโครงสร้างหลักผสานกันระหว่างตัวถังแบบชิ้นเดียว (Monocoque) กับแบบ Space Frame ที่ใช้ในรถแข่งระบบรองรับอิสระออกแบบใหม่ทั้งหมด
ตัวรถหุ่นลู่ลม ห้องเครื่องยนต์อยู่ใต้ฝากระโปรงชิ้นเดียว หากจะเปิดต้องยกขึ้นทั้งกะบิ แบบรถแข่งยุคก่อน ฝากระโปรงท้ายเปิดจากซ้ายไปขวา กระทะล้อลายซี่ลวด
ห้องโดยสารขนาดเล็กกระชับ พวงมาลัยทรงสปอร์ต 3 ก้านโครเมียม แผงคอนโซลใส่มาตรวัดเต็มพื้นที่ตามสไตล์รถแข่ง เบาะหลังพักเก็บได้เพื่อบรรทุกสัมภาระ
เครื่องยนต์ที่ใช้มีขนาดตั้งแต่ 3,800/4,235 ซีซี และวี 12 สูบ 5,343 ซีซี ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการผลิตเครื่องยนต์ลักษณะนี้จำนวนมาก ด้วยวัตถุประสงค์ด้านการค้า ประสบความสำเร็จด้วยยอดขาย 72,507 คัน โดยมากกว่า 15,000 คัน เป็นรุ่น วี 12
ประเภทรถ :รถคลาสสิคร่วมสมัย
Porsche 911T Coupe
ปีผลิต : 1971-1973 ,จำนวนผลิต 4,894 คัน ,ประเทศผู้ผลิต เยอรมนี
ปอร์เช่ 911 เป็นการสืบทอดความสำเร็จของรุ่น 356 งามสง่าขึ้นด้วยฝีมือการออกแบบของ Butzi Porsche “หลานปู่ฟอร์เช่” 911T เป็นรุ่นมาตรฐานในชุดมี “ช่องตะแกรงแตร” (Horngrille) ใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศ วางเครื่องท้าย ขับเคลื่อนล้อหลังในรูปแบบปอร์เช่ ดั้งเดิม รถในตลาดสหรัฐฯ ติดตั้งหัวฉีดอีเลคทรอนิคส์ K-Jetronics ให้กำลัง 140 แรงม้า เพลาราวลิ้นเหนือฝาสูบขับด้วยโซ่ เกียร์ 5 จังหวะ นำมาจากรถแข่ง 908 ของทีมปอร์เช่
เครื่องยนต์ 6 สูบ Boxer 2,341ซีซี SOHC 140 แรงม้า ให้ความเร็วสูงสุด 203 กม./ชม.
แจกบัตร มอเตอร์ เอ็กซ์โป ท่านละ 2 ใบ ติดต่อรับได้ที่โอปอเรเตอร์ บ้านพระอาทิตย์ โทร.02-629-4488 ในเวลาทำการ 8.30-18.00 น.
***บัตรเข้างานใช้ได้วันที่ 2-12 ธค. 2559 ***
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
