ดุเดือด เฉือดเฉือนกันสนั่น สำหรับตลาดรถยนต์ระดับหรูที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีหลัง หรือยอดขายรวมเกิน 20,000 คันต่อปีกลายเป็นเรื่องธรรมดา นอกจากการขยันเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แตกไลน์ขยายเซกเมนต์ของผู้นำตลาดอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยูแล้ว ในความสำเร็จนี้ยังถูกชักนำด้วยกลยุทธ์สงครามราคาอันหนักหน่วง ทั้งลดราคาลงมาดื้อๆ (อาจจะทำช่วงปลายโมเดลหรือออกรุ่นพิเศษ) จัดแคมเปญส่งเสริมการขาย รวมถึงเดินแผนประกอบในประเทศพร้อมปรับราคาขายลงมาหลายแสนบาท
สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีที่ถือเป็นฤดูกาลขาย หลายค่ายรถยนต์หรูมีคิวเปิดตัวโปรดักต์ใหม่อีกเพียบ ซึ่งในจำนวนนี้มีรุ่นประกอบในประเทศที่ทำราคาได้น่าสนใจออกมายั่วกระเป๋าเงินคนไทยด้วย
เริ่มจากบีเอ็มดับเบิลยู หลังนำเข้าเอสยูวีระดับเริ่มต้น “เอ็กซ์1” มาเปิดตัวตั้งแต่ต้นปีกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร sDrive18d xLine ราคา 2.599 ล้านบาท แต่เมื่อกระแสความต้องการรุ่นประกอบในประเทศมาแรงและได้รับการร้องขอจากดีลเลอร์ บีเอ็มดับเบิลยูจึงตัดสินใจเร่งแผนประกอบ “เอ็กซ์1 โฉมใหม่”ที่โรงงานจังหวัดระยองให้เร็วขึ้น จนสามารถเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ราคาเอสยูวีรุ่นดังกล่าวได้ปรับลดลงมา 1 แสนบาทเป็น 2.499 ล้านบาท (ส่วนรุ่น M Sport เพิ่มเงิน 1 แสนบาท) พร้อมเสริมทัพรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร บล็อกใหม่ ประกบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด sDrive18i xLine ราคา 2.299 ล้านบาท
ส่วนดาบสองสำหรับรุ่นประกอบในประเทศของบีเอ็มดับเบิลยูในปีนี้ คือเอสยูวีรุ่นใหญ่ “เอ็กซ์5 ปลั๊ก-อิน ไฮบริด” หลังนำเข้ามาขายปลายปีที่แล้วในราคากว่า 5 ล้านบาท และเสียรังวัดทันทีเมื่อคู่แข่ง “จีแอลอี ปลั๊ก-อินไฮบริด” ประกาศขายรุ่นประกอบในประเทศราคา 4.49 ล้านบาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น GLE 500e 4MATIC Exclusive
ล่าสุด BMW X5 xDRIVE40e พร้อมลุยกับรุ่นประกอบในประเทศแล้วด้วยราคา 4.699 ล้านบาท หรือลดลงไปถึง 7 แสนบาท โดยเอสยูวีรุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริดรุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยู(ก่อนหน้านั้นเป็นเทคโนโลยีในตระกูล i ) วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 245 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า 113 แรงม้า สามารถเลือกขับโดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อีกรุ่นเป็นซีดานปลั๊ก-อิน ไฮบริด “ซีรีย์3” ที่ต้นปีเปิดรุ่นนำเข้า 330e M Sport ราคา 3.099 ล้านบาท แต่เมื่อขึ้นไลน์ประกอบที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จังหวัดระยอง พร้อมทำตลาดในเกรด Luxury ราคาลดลงมาเหลือ 2.599 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งหมดถือเป็นไฮไลต์ปั้นยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ขณะที่ “มินิ” แบรนด์ในเครือก็ทำโปรโมชันผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี ให้เอสยูวี “คันทรีแมน” (ประกอบในประเทศ) ที่กำลังจะตกรุ่นอีกด้วย (รุ่นใหม่เพิ่งเปิดตัวสดๆร้อนๆที่ แอลเอ ออโต้โชว์ 2016)
ด้านคู่ปรับร่วมประเทศ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ช่วงครึ่งหลังของปีนี้นอกจากจะปล่อยรุ่นประกอบในประเทศของ“จีแอลอี” แล้ว ยังมีเอสยูวี “จีแอลซี” ที่ราคาลดลงมา 5.5 แสนบาท โดยรุ่น OFF-ROAD เหลือ 3.24 ล้านบาท และ AMG Dynamic ราคา 3.69 ล้านบาท ซึ่งเป็นเอสยูวีที่เจ้าพ่อรถหรูเพิ่งขยับทำตลาดในไทยเป็นครั้งแรก หลังการโมเดลเชนจ์จาก “จีแอลเค” แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “จีแอลซี” เมื่อปีที่แล้ว ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.1 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 -1,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
สำหรับตลาดเอสยูวีที่อัดกันมันหยดทุกเซกเมนต์ ซึ่ง “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ก็ซัดเต็มสูบแบบไม่ได้หายใจ ทว่าในส่วนของรถยนต์กลุ่มดรีมคาร์ก็มาแปลก เมื่อประกาศขึ้นไลน์ประกอบในประเทศสำหรับ “ซี-คลาส คูเป้”
โดยต้นปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพิ่งส่ง “ซี-คลาส คูเป้” โฉมใหม่ รุ่นนำเข้าทั้งคันมาสร้างความฮือฮาในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2016 โดดเด่นด้วยลักษณะคล้าย “เอส-คลาส คูเป้” ย่อส่วน แต่ตัวถังจริงๆมาพร้อมขนาดที่ใหญ่ขึ้น แต่น้ำหนักเบาลงจากรุ่นเก่า ขณะที่ใต้ฝากระโปรงหน้าวางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 211 แรงม้า แบ่งขาย 2 รุ่น คือ C 250 Coupe AMG Dynamic ราคา 3.79 ล้านบาท และ C 250 Coupe Edition 1 ราคา 3.39 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2016 ต้นเดือนธันวาคมนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะนำรุ่นประกอบในประทศไปอวดโฉมด้วยแน่ๆ พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งดูจากแนวโน้วความน่าจะเป็นแล้ว คาดว่าตัวเริ่มต้นของ C 250 Coupe ราคาไม่น่าจะถึง 3 ล้านบาท
ปิดท้ายกับค่ายรถหรูจากสวีเดน “วอลโว่” ที่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเตรียมทีเด็ดอย่าง “เอส90” มาเปิดตัวพร้อมรับจองเป็นครั้งแรก ซึ่งเริ่มต้นยังเป็นการนำเข้าทั้งคันจากโรงงานทอร์สลานดา เมืองโกเตเบิร์ก แต่ราคาขายประมาณ 4 ล้านบาท ส่วนรุ่นประกอบ CKD จากโรงงานประเทศมาเลเซียน่าจะต้องรอกันนานอีกร่วมปี แต่รุ่นที่เริ่มประกอบพร้อมทยอยทำตลาดอย่างชัดเจนคือเอสยูวีรุ่นธง “เอ็กซ์ซี90”
ทั้งนี้“เอ็กซ์ซี90” รุ่น CKD มาเลเซีย พร้อมทำตลาดก่อนกับรุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด T8 Twin Engine ที่แจ้งราคาขายกันไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยตัวเลข 4.49 ล้านบาทในรุ่น Momentum ซึ่งเท่ากับ GLE 500e 4MATIC Exclusive พอดี แต่วอลโว่ยังมีอาวุธเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร รหัส D5 เกรด Momentum ประกาศราคาขายเพียง 4.19 ล้านบาท
สรุปคือ “เอ็กซ์ซี90” รุ่น CKD มาเลเซีย ทั้งสองรุ่นเครื่องยนต์ราคาปรับลดลงจากรุ่นนำเข้าจากประเทศสวีเดน 9 แสนบาท และ 7 แสนบาทตามลำดับ
...ทั้งหมดเป็นแผนขึ้นไลน์ประกอบในประเทศของค่ายรถยนต์ระดับหรู ที่ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปลายปีนี้ ซึ่งหลายรุ่นทำราคาได้น่าสนใจตามคาดและน่าจะมีส่วนผลักดันยอดขายปลายปีหรือสะสมไปถึงต้นปีหน้าได้พอสมควร
สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีที่ถือเป็นฤดูกาลขาย หลายค่ายรถยนต์หรูมีคิวเปิดตัวโปรดักต์ใหม่อีกเพียบ ซึ่งในจำนวนนี้มีรุ่นประกอบในประเทศที่ทำราคาได้น่าสนใจออกมายั่วกระเป๋าเงินคนไทยด้วย
เริ่มจากบีเอ็มดับเบิลยู หลังนำเข้าเอสยูวีระดับเริ่มต้น “เอ็กซ์1” มาเปิดตัวตั้งแต่ต้นปีกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร sDrive18d xLine ราคา 2.599 ล้านบาท แต่เมื่อกระแสความต้องการรุ่นประกอบในประเทศมาแรงและได้รับการร้องขอจากดีลเลอร์ บีเอ็มดับเบิลยูจึงตัดสินใจเร่งแผนประกอบ “เอ็กซ์1 โฉมใหม่”ที่โรงงานจังหวัดระยองให้เร็วขึ้น จนสามารถเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ราคาเอสยูวีรุ่นดังกล่าวได้ปรับลดลงมา 1 แสนบาทเป็น 2.499 ล้านบาท (ส่วนรุ่น M Sport เพิ่มเงิน 1 แสนบาท) พร้อมเสริมทัพรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร บล็อกใหม่ ประกบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด sDrive18i xLine ราคา 2.299 ล้านบาท
ส่วนดาบสองสำหรับรุ่นประกอบในประเทศของบีเอ็มดับเบิลยูในปีนี้ คือเอสยูวีรุ่นใหญ่ “เอ็กซ์5 ปลั๊ก-อิน ไฮบริด” หลังนำเข้ามาขายปลายปีที่แล้วในราคากว่า 5 ล้านบาท และเสียรังวัดทันทีเมื่อคู่แข่ง “จีแอลอี ปลั๊ก-อินไฮบริด” ประกาศขายรุ่นประกอบในประเทศราคา 4.49 ล้านบาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น GLE 500e 4MATIC Exclusive
ล่าสุด BMW X5 xDRIVE40e พร้อมลุยกับรุ่นประกอบในประเทศแล้วด้วยราคา 4.699 ล้านบาท หรือลดลงไปถึง 7 แสนบาท โดยเอสยูวีรุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริดรุ่นแรกของบีเอ็มดับเบิลยู(ก่อนหน้านั้นเป็นเทคโนโลยีในตระกูล i ) วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 245 แรงม้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า 113 แรงม้า สามารถเลือกขับโดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อีกรุ่นเป็นซีดานปลั๊ก-อิน ไฮบริด “ซีรีย์3” ที่ต้นปีเปิดรุ่นนำเข้า 330e M Sport ราคา 3.099 ล้านบาท แต่เมื่อขึ้นไลน์ประกอบที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จังหวัดระยอง พร้อมทำตลาดในเกรด Luxury ราคาลดลงมาเหลือ 2.599 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งหมดถือเป็นไฮไลต์ปั้นยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู ขณะที่ “มินิ” แบรนด์ในเครือก็ทำโปรโมชันผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 5 ปี ให้เอสยูวี “คันทรีแมน” (ประกอบในประเทศ) ที่กำลังจะตกรุ่นอีกด้วย (รุ่นใหม่เพิ่งเปิดตัวสดๆร้อนๆที่ แอลเอ ออโต้โชว์ 2016)
ด้านคู่ปรับร่วมประเทศ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ช่วงครึ่งหลังของปีนี้นอกจากจะปล่อยรุ่นประกอบในประเทศของ“จีแอลอี” แล้ว ยังมีเอสยูวี “จีแอลซี” ที่ราคาลดลงมา 5.5 แสนบาท โดยรุ่น OFF-ROAD เหลือ 3.24 ล้านบาท และ AMG Dynamic ราคา 3.69 ล้านบาท ซึ่งเป็นเอสยูวีที่เจ้าพ่อรถหรูเพิ่งขยับทำตลาดในไทยเป็นครั้งแรก หลังการโมเดลเชนจ์จาก “จีแอลเค” แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “จีแอลซี” เมื่อปีที่แล้ว ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.1 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 -1,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
สำหรับตลาดเอสยูวีที่อัดกันมันหยดทุกเซกเมนต์ ซึ่ง “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ก็ซัดเต็มสูบแบบไม่ได้หายใจ ทว่าในส่วนของรถยนต์กลุ่มดรีมคาร์ก็มาแปลก เมื่อประกาศขึ้นไลน์ประกอบในประเทศสำหรับ “ซี-คลาส คูเป้”
โดยต้นปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพิ่งส่ง “ซี-คลาส คูเป้” โฉมใหม่ รุ่นนำเข้าทั้งคันมาสร้างความฮือฮาในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2016 โดดเด่นด้วยลักษณะคล้าย “เอส-คลาส คูเป้” ย่อส่วน แต่ตัวถังจริงๆมาพร้อมขนาดที่ใหญ่ขึ้น แต่น้ำหนักเบาลงจากรุ่นเก่า ขณะที่ใต้ฝากระโปรงหน้าวางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 211 แรงม้า แบ่งขาย 2 รุ่น คือ C 250 Coupe AMG Dynamic ราคา 3.79 ล้านบาท และ C 250 Coupe Edition 1 ราคา 3.39 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2016 ต้นเดือนธันวาคมนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะนำรุ่นประกอบในประทศไปอวดโฉมด้วยแน่ๆ พร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ซึ่งดูจากแนวโน้วความน่าจะเป็นแล้ว คาดว่าตัวเริ่มต้นของ C 250 Coupe ราคาไม่น่าจะถึง 3 ล้านบาท
ปิดท้ายกับค่ายรถหรูจากสวีเดน “วอลโว่” ที่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปเตรียมทีเด็ดอย่าง “เอส90” มาเปิดตัวพร้อมรับจองเป็นครั้งแรก ซึ่งเริ่มต้นยังเป็นการนำเข้าทั้งคันจากโรงงานทอร์สลานดา เมืองโกเตเบิร์ก แต่ราคาขายประมาณ 4 ล้านบาท ส่วนรุ่นประกอบ CKD จากโรงงานประเทศมาเลเซียน่าจะต้องรอกันนานอีกร่วมปี แต่รุ่นที่เริ่มประกอบพร้อมทยอยทำตลาดอย่างชัดเจนคือเอสยูวีรุ่นธง “เอ็กซ์ซี90”
ทั้งนี้“เอ็กซ์ซี90” รุ่น CKD มาเลเซีย พร้อมทำตลาดก่อนกับรุ่นปลั๊ก-อินไฮบริด T8 Twin Engine ที่แจ้งราคาขายกันไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยตัวเลข 4.49 ล้านบาทในรุ่น Momentum ซึ่งเท่ากับ GLE 500e 4MATIC Exclusive พอดี แต่วอลโว่ยังมีอาวุธเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร รหัส D5 เกรด Momentum ประกาศราคาขายเพียง 4.19 ล้านบาท
สรุปคือ “เอ็กซ์ซี90” รุ่น CKD มาเลเซีย ทั้งสองรุ่นเครื่องยนต์ราคาปรับลดลงจากรุ่นนำเข้าจากประเทศสวีเดน 9 แสนบาท และ 7 แสนบาทตามลำดับ
...ทั้งหมดเป็นแผนขึ้นไลน์ประกอบในประเทศของค่ายรถยนต์ระดับหรู ที่ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปลายปีนี้ ซึ่งหลายรุ่นทำราคาได้น่าสนใจตามคาดและน่าจะมีส่วนผลักดันยอดขายปลายปีหรือสะสมไปถึงต้นปีหน้าได้พอสมควร