ปอร์เช่ เสริมไลน์การขายเต็มสูบ เตรียมเปิดตัวรถใหม่ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ปลายปีนี้ ส่ง “718 เคย์แมน” เคาะราคาค่าตัว 6.99 ล้านบาทถูกลงกว่าเดิม 2 ล้าน พร้อมเผยราคาของ “718 เคย์แมน เอส” ที่ 8.3 ล้านบาท ลดลงจากรุ่นก่อนหน้า 3.7 ล้านบาท เหตุจาก เครื่องยนต์ใหม่มีขนาดเล็กลงทำให้เสียภาษีอัตราต่ำ พร้อมเสริมทัพด้วยรุ่นตกแต่งพิเศษ “ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลทินั่ม อิดิชั่น”
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ “718 เคย์แมน (718 Cayman) , 718 เคย์แมน เอส” (718 Cayman S) และ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลทินั่ม อิดิชั่น” (Cayenne S E-Hybrid Platinum Edition)
สำหรับ 718 เคย์แมนและเคย์แมน เอส เป็นรถสปอร์ต2 ที่นั่งแบบคูเป้ เครื่องยนต์วางกลาง มีโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันกับรุ่น บอกเซอร์ (แบบโรดสเตอร์ หลังคาเปิดได้) ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า สำหรับ 718 เคย์แมนเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยเป็นครั้งแรกที่ปอร์เช่ ละทิ้งเครื่องยนต์แบบ 6 สูบนอน อันเป็นเอกลักษณ์มาอย่างยาวนาน และหันมาเลือกคบหากับเครื่องยนต์แบบ 4 สูบนอนแทนที่
โดย 718 เคย์แมน บรรจุเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ นอน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,950-4,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.1 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 4.9 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ PDK (4.7 วินาที สำหรับ PDK sport chorno package) ความเร็วสูงสุด 275 กม./ชม. อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 168-158 กรัมต่อกิโลเมตร
ขณะที่ 718 เคย์แมน เอส มากับเครื่องยนต์ 4 สูบ นอนยัน ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 350 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่รอบกว้าง 1,900-4,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.6 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 4.4 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ PDK (4.2 วินาที สำหรับ PDK sport chorno) ความเร็วสูงสุด 277 กม./ชม. อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 184-167 กรัมต่อกิโลเมตร สำหรับในประเทศไทยจะทำตลาดเฉพาะรุ่นเกียร์ PDK เท่านั้น
จากการปรับเปลี่ยนขนาดของเครื่องยนต์ดังกล่าว ส่งผลทำให้ 718 เคย์แมน และ718 เคย์แมน เอส สามารถนำเข้ามาจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าเดิมได้ โดย 718 เคย์แมนมีราคาขายที่ 6.99 ล้านบาท เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ที่จำหน่ายในราคา 8.99 ล้านบาท (อ้างอิงจากราคาจำหน่ายของ โมเดลปี 2015 ซึ่งเป็นโมเดลสุดท้ายที่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ) ถูกลงถึง 2 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการเสียภาษีในพิกัดอัตราต่ำลง จากขนาดของเครื่องยนต์ที่ลดลงจาก 2.7 ลิตร เหลือเพียง 2.0 ลิตร
ส่วน เคย์แมน เอส โมเดลก่อนหน้าที่มีราคาถึง 12 ล้านบาท(อ้างอิงจากราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ โมเดลปี 2015) แต่รุ่นใหม่ 718 เคย์แมน เอส ประกาศราคาขายเพียง 8.3 ล้านบาท ลดลงถึง 3.7 ล้านบาท
ทั้งนี้นอกจาก 718 เคย์แมนแล้ว ทางปอร์เช่ ประเทศไทย ได้แนะนำ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลทินั่ม อิดิชั่น ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งตรวจการณ์แบบเอสยูวี ขนาดใหญ่ที่สุดของค่ายปอร์เช่ ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษในสไตล์สปอร์ตพันธ์แท้ และเหนือกว่ารุ่นทั่วไปด้วยระบบ Porsche Communication Management (PCM) รุ่นใหม่ ที่สามารถติดต่อสื่อสารคลอบคลุมทั้งระบบนำทางและการเชื่อมต่อกับศูนย์บริการได้โดยตรง
การตกแต่งภายในถือเป็นหัวใจของรุ่นพิเศษนี้ด้วยแนวคิดการออกแบบให้ผู้ขับรู้สึกเสมือนหนึ่งเป็นนักบิน เบาะนั่งทรงสปอร์ตทำจากหนังแท้อัลคันทาร่าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขณะที่เบาะหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบเครื่องเสียงจาก BOSE พร้อมป้ายแพลทินั่ม อิดิชั่นรอบคัน ล้อขนาด 20 นิ้วลายอาร์เอส สไปเดอร์
ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลทินั่ม อิดิชั่น มากับเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร V6 ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 70 กิโลวัตต์ ให้กำลังสูงสุด 416 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 590 นิวตันเมตร ที่ 1,250-4,000 รอบต่อนาที ซึ่งสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ทั้งแบบน้ำมันล้วน, ไฟฟ้าล้วน และผสมผสานได้
ด้านสมรรถนะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 243 กม./ชม. (วิ่งด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวทำความเร็วได้สูงสุด 125 กม./ชม.) อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 30.3 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำมากเพียง 79 กรัมต่อกิโลเมตร ปอร์เช่ตั้งราคาจำหน่ายคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริดแพลทินั่ม อิดิชั่น ที่ 8.2 ล้าน สูงกว่ารุ่นคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด ที่จำหน่ายในราคา 7.99 ล้านบาทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีการรับประกันสูงสุดถึง 9 ปี (เฉพาะแบตเตอรี่ 6 ปี)
ใครที่สนใจอยากเปลี่ยนรถระดับพรีเมียมสามารถแวะชมได้ที่บูทปอร์เช่ ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคม นี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพค เมืองทองธานี
บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ “718 เคย์แมน (718 Cayman) , 718 เคย์แมน เอส” (718 Cayman S) และ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลทินั่ม อิดิชั่น” (Cayenne S E-Hybrid Platinum Edition)
สำหรับ 718 เคย์แมนและเคย์แมน เอส เป็นรถสปอร์ต2 ที่นั่งแบบคูเป้ เครื่องยนต์วางกลาง มีโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันกับรุ่น บอกเซอร์ (แบบโรดสเตอร์ หลังคาเปิดได้) ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า สำหรับ 718 เคย์แมนเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยเป็นครั้งแรกที่ปอร์เช่ ละทิ้งเครื่องยนต์แบบ 6 สูบนอน อันเป็นเอกลักษณ์มาอย่างยาวนาน และหันมาเลือกคบหากับเครื่องยนต์แบบ 4 สูบนอนแทนที่
โดย 718 เคย์แมน บรรจุเครื่องยนต์แบบ 4 สูบ นอน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,950-4,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.1 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 4.9 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ PDK (4.7 วินาที สำหรับ PDK sport chorno package) ความเร็วสูงสุด 275 กม./ชม. อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 168-158 กรัมต่อกิโลเมตร
ขณะที่ 718 เคย์แมน เอส มากับเครื่องยนต์ 4 สูบ นอนยัน ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 350 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่รอบกว้าง 1,900-4,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.6 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 4.4 วินาทีสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ PDK (4.2 วินาที สำหรับ PDK sport chorno) ความเร็วสูงสุด 277 กม./ชม. อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 184-167 กรัมต่อกิโลเมตร สำหรับในประเทศไทยจะทำตลาดเฉพาะรุ่นเกียร์ PDK เท่านั้น
จากการปรับเปลี่ยนขนาดของเครื่องยนต์ดังกล่าว ส่งผลทำให้ 718 เคย์แมน และ718 เคย์แมน เอส สามารถนำเข้ามาจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าเดิมได้ โดย 718 เคย์แมนมีราคาขายที่ 6.99 ล้านบาท เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ที่จำหน่ายในราคา 8.99 ล้านบาท (อ้างอิงจากราคาจำหน่ายของ โมเดลปี 2015 ซึ่งเป็นโมเดลสุดท้ายที่ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ) ถูกลงถึง 2 ล้านบาท อันเนื่องมาจากการเสียภาษีในพิกัดอัตราต่ำลง จากขนาดของเครื่องยนต์ที่ลดลงจาก 2.7 ลิตร เหลือเพียง 2.0 ลิตร
ส่วน เคย์แมน เอส โมเดลก่อนหน้าที่มีราคาถึง 12 ล้านบาท(อ้างอิงจากราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ โมเดลปี 2015) แต่รุ่นใหม่ 718 เคย์แมน เอส ประกาศราคาขายเพียง 8.3 ล้านบาท ลดลงถึง 3.7 ล้านบาท
ทั้งนี้นอกจาก 718 เคย์แมนแล้ว ทางปอร์เช่ ประเทศไทย ได้แนะนำ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลทินั่ม อิดิชั่น ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งตรวจการณ์แบบเอสยูวี ขนาดใหญ่ที่สุดของค่ายปอร์เช่ ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษในสไตล์สปอร์ตพันธ์แท้ และเหนือกว่ารุ่นทั่วไปด้วยระบบ Porsche Communication Management (PCM) รุ่นใหม่ ที่สามารถติดต่อสื่อสารคลอบคลุมทั้งระบบนำทางและการเชื่อมต่อกับศูนย์บริการได้โดยตรง
การตกแต่งภายในถือเป็นหัวใจของรุ่นพิเศษนี้ด้วยแนวคิดการออกแบบให้ผู้ขับรู้สึกเสมือนหนึ่งเป็นนักบิน เบาะนั่งทรงสปอร์ตทำจากหนังแท้อัลคันทาร่าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขณะที่เบาะหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบเครื่องเสียงจาก BOSE พร้อมป้ายแพลทินั่ม อิดิชั่นรอบคัน ล้อขนาด 20 นิ้วลายอาร์เอส สไปเดอร์
ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลทินั่ม อิดิชั่น มากับเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร V6 ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 70 กิโลวัตต์ ให้กำลังสูงสุด 416 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 590 นิวตันเมตร ที่ 1,250-4,000 รอบต่อนาที ซึ่งสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ทั้งแบบน้ำมันล้วน, ไฟฟ้าล้วน และผสมผสานได้
ด้านสมรรถนะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 243 กม./ชม. (วิ่งด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวทำความเร็วได้สูงสุด 125 กม./ชม.) อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 30.3 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำมากเพียง 79 กรัมต่อกิโลเมตร ปอร์เช่ตั้งราคาจำหน่ายคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริดแพลทินั่ม อิดิชั่น ที่ 8.2 ล้าน สูงกว่ารุ่นคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด ที่จำหน่ายในราคา 7.99 ล้านบาทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีการรับประกันสูงสุดถึง 9 ปี (เฉพาะแบตเตอรี่ 6 ปี)
ใครที่สนใจอยากเปลี่ยนรถระดับพรีเมียมสามารถแวะชมได้ที่บูทปอร์เช่ ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคม นี้ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 อิมแพค เมืองทองธานี