ข่าวต่างประเทศ - ไตรมาสที่ 3 หรือตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ปอร์เช่ เอจี สามารถเพิ่มตัวเลขของจำนวนการส่งมอบรถยนต์ปอร์เช่ได้มากขึ้นถึง 3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จากยอดรวมทั้งหมดซึ่งบริษัททำได้ที่ 178,314 คัน ทั่วโลก ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดการเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากยอดจำหน่ายของปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (718 Boxster) และ มาคันน์ (Macan) โดยเฉพาะความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในประเทศจีน ซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเพิ่มขึ้นถึง 11% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และนั่นทำให้ประเทศจีนยังคงดำรงฐานะของตลาดที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแนวหน้าของโลกแห่งนี้ต่อไป
“ถึงแม้สถานการณ์การดำเนินงานของเราจะเต็มไปด้วยไปด้วยสภาวะที่ไม่แน่นอน แต่เรายังคงก้าวไปบนความสำเร็จด้านยอดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ด้วยผลงานจากระยะเวลาที่ผ่านมา 9 เดือนแรก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเซียหรืออเมริกา ล้วนแล้วแต่มีตัวเลขที่ดีกว่าสถิติในปี 2015” Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหารส่วนงานขายและการตลาดของ Porsche AG กล่าวต่ออีกว่า “ปอร์เช่ 718 Boxster ใหม่ ได้ผลตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากลูกค้านับตั้งแต่ช่วงแรกของปีนี้ บริษัทสามารถสร้างยอดการจำหน่ายได้มากกว่า 10,000 คัน จากรถสปอร์ตโร้ดสเตอร์ของเรา ซึ่งแน่นอนว่า 718 เคย์แมน (718 Cayman) และ 911 จะได้รับการตอบสนองที่ดีเช่นเดียวกัน”
ด้วยตัวเลขจำนวนการส่งมอบทั่วโลกที่ 10,661 คัน (สำหรับ Boxster) และ 71,086 คัน (สำหรับ Macan) ส่งผลให้รถยนต์ปอร์เช่ ทั้ง 2 รุ่นสามารถทำสถิติอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักที่ 20% และ 13% ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทางด้านตัวเลขยอดจำหน่ายของรถสปอร์ตสุดคลาสสิกปอร์เช่ 911 นั้นยังคงเพิ่มขึ้นที่จำนวน 25,993 คัน (เพิ่มขึ้น5%) เช่นเดียวกับปอร์เช่ เคย์แมน (Cayman) ที่ 8,471 คัน (เพิ่มขึ้น 4%) สำหรับ พานาเมร่า (Panamera) มีตัวเลขที่ลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้วสืบเนื่องจากอยู่ระหว่างการเปลี่ยนเข้าสู่รุ่นใหม่ Von Platen ให้ ความเห็นว่า: “ด้วยผลตอบรับที่ดีทุกด้าน หลังจากการเปิดตัวปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ ในงานมหกรรมยานยนต์ที่กรุงปารีส ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น ทำให้เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เรามีความเชื่อมั่นในรถสปอร์ตซาลูนสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดคันนี้ จะเป็นแรงพลักดันให้เราเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก
จากยอดจำหน่ายรวมสูงถึง 49,229 คัน ส่งผลให้ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งที่สุดสำหรับปอร์เช่ตลอดระยะเวลา 9 เดือนของปีนี้ ด้วยศักยภาพการเติบโตที่สามารถแซงหน้าตลาดสหรัฐอเมริกาได้อีกครั้ง (ยอดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาที่ 40,246 คัน) ในส่วนของทวีปยุโรป ตัวเลขผลประกอบการยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่าปีที่แล้วที่ 1% ด้วยยอดการส่งมอบ 58,678 คัน สำหรับประเทศเยอรมนีมียอดจำหน่ายลดลงเล็กน้อยที่ 0.5% จากตัวเลขจำนวนการส่งมอบ 22,198 คัน
“ถึงแม้สถานการณ์การดำเนินงานของเราจะเต็มไปด้วยไปด้วยสภาวะที่ไม่แน่นอน แต่เรายังคงก้าวไปบนความสำเร็จด้านยอดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ด้วยผลงานจากระยะเวลาที่ผ่านมา 9 เดือนแรก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเซียหรืออเมริกา ล้วนแล้วแต่มีตัวเลขที่ดีกว่าสถิติในปี 2015” Detlev von Platen สมาชิกคณะกรรมการบริหารส่วนงานขายและการตลาดของ Porsche AG กล่าวต่ออีกว่า “ปอร์เช่ 718 Boxster ใหม่ ได้ผลตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากลูกค้านับตั้งแต่ช่วงแรกของปีนี้ บริษัทสามารถสร้างยอดการจำหน่ายได้มากกว่า 10,000 คัน จากรถสปอร์ตโร้ดสเตอร์ของเรา ซึ่งแน่นอนว่า 718 เคย์แมน (718 Cayman) และ 911 จะได้รับการตอบสนองที่ดีเช่นเดียวกัน”
ด้วยตัวเลขจำนวนการส่งมอบทั่วโลกที่ 10,661 คัน (สำหรับ Boxster) และ 71,086 คัน (สำหรับ Macan) ส่งผลให้รถยนต์ปอร์เช่ ทั้ง 2 รุ่นสามารถทำสถิติอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักที่ 20% และ 13% ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทางด้านตัวเลขยอดจำหน่ายของรถสปอร์ตสุดคลาสสิกปอร์เช่ 911 นั้นยังคงเพิ่มขึ้นที่จำนวน 25,993 คัน (เพิ่มขึ้น5%) เช่นเดียวกับปอร์เช่ เคย์แมน (Cayman) ที่ 8,471 คัน (เพิ่มขึ้น 4%) สำหรับ พานาเมร่า (Panamera) มีตัวเลขที่ลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้วสืบเนื่องจากอยู่ระหว่างการเปลี่ยนเข้าสู่รุ่นใหม่ Von Platen ให้ ความเห็นว่า: “ด้วยผลตอบรับที่ดีทุกด้าน หลังจากการเปิดตัวปอร์เช่ พานาเมร่า (Panamera) ใหม่ ในงานมหกรรมยานยนต์ที่กรุงปารีส ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น ทำให้เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เรามีความเชื่อมั่นในรถสปอร์ตซาลูนสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดคันนี้ จะเป็นแรงพลักดันให้เราเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก
จากยอดจำหน่ายรวมสูงถึง 49,229 คัน ส่งผลให้ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งที่สุดสำหรับปอร์เช่ตลอดระยะเวลา 9 เดือนของปีนี้ ด้วยศักยภาพการเติบโตที่สามารถแซงหน้าตลาดสหรัฐอเมริกาได้อีกครั้ง (ยอดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาที่ 40,246 คัน) ในส่วนของทวีปยุโรป ตัวเลขผลประกอบการยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่าปีที่แล้วที่ 1% ด้วยยอดการส่งมอบ 58,678 คัน สำหรับประเทศเยอรมนีมียอดจำหน่ายลดลงเล็กน้อยที่ 0.5% จากตัวเลขจำนวนการส่งมอบ 22,198 คัน
