ค่ายรถยนต์เกาหลี “ฮุนได” ที่บริหารงานในเมืองไทย โดยบริษัทเทรดดิ้งญี่ปุ่น “โซจิทซึ” ยังลุยตลาดด้วยรถยนต์อเนกประสงค์เน้นฟูลไซส์เอ็มพีวี “เอช1” และ “แกรนด์ สตาร์เร็กซ์” ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ ส่วนกลุ่มเก๋งเร่งเคลียร์สต็อกเปิดทางโมเดลใหม่ คาดปีหน้าส่ง “ทูซอน โฉมใหม่” ลุยตลาดเอสยูวี
“ปีนี้ฮุนไดคาดว่าจะขายได้ถึง 4,000 คัน โดย 85% เป็นสัดส่วนของ เอช1 และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ที่ได้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเก๋งอย่างเอลันตร้า เอสยูวีทูซอน เหลือล็อตสุดท้ายจำนวนไม่มาก ขณะที่สปอร์ตคาร์ เวโลสเตอร์ ขายไปหมดแล้ว” เซจิ ซากากิบาระ รองผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวและว่า
“ฮุนได เอช1 ยังขายดีมากด้วยความอเนกประสงค์ รองรับการใช้งานแบบครอบครัวและผู้ประกอบธุรกิจ ด้วยราคาเริ่มต้น 1.289 ล้านบาท จึงยังเป็นรถยนต์รุ่นหลักในการทำยอดขายของเรา”
สำหรับตลาดรถยนต์เมืองไทยปีนี้ ค่อนข้างทรงตัวหรือไม่ตกต่ำอย่างที่คาดการณ์กันไว้ ส่วนปีหน้าเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น ด้วยปัจจัยบวกจากการลงทุนภาครัฐ พร้อมความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยเริ่มดีขึ้น ขณะที่กฎการถือครองรถยนต์ 5 ปี ห้ามเปลี่ยนมือในโครงการรถยนต์คันแรกกำลังหมดลง น่าจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อในตลาดได้พอสมควร
ส่วนฮุนไดจะได้อานิสงค์จากความคึกคักของตลาด ซึ่งบริษัทมีแผนออกอีเวนต์สนับสนุนการขายอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนทุกดีลเลอร์ของฮุนไดอย่างเต็มที่ ในส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ บริษัทเตรียมเปิดตัวอย่างน้อยสองรุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเอสยูวีที่จะนำเข้ามาขายในช่วงไตรมาสสองของปีหน้า
“แน่นอนว่าเราอยากจะโต 100 % แต่ต้องดูความพร้อมของตัวโปรดักต์ด้วย ซึ่งเอสยูวีเป็นเซกเมนต์ที่น่าสนใจเพราะมีอัตราเติบโตสูงล่าสุดทูซอนออกแคมเปญสนับสนุนการขายคือ ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน และฟรีประกันภัยชั้น 1 เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น”
“ส่วนรถยนต์ไฮบริดที่เป็นกระแสและได้การสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ ก็สนใจเช่นกัน เพียงแต่ติดเรื่องกำลังการผลิตของบริษัทแม่ประเทศเกาหลีมีจำนวนจำกัด จึงเป็นเรื่องยากที่จะส่งออกรถยนต์ไฮบริดมาไทย”
สำหรับทูซอน โฉมใหม่ เจเนอเรชันที่สาม เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2015 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขายในยุโรปด้วยชื่อ iX35 ท้าชนเต็มๆ กับเอสยูวีคอมแพ็กต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี และมาสด้า ซีเอ็กซ์-5
ทูซอน โฉมใหม่ มีมิติความยาวและความกว้างเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 65 และ 30 มิลลิเมตร โดยอยู่ที่ 4,475 และ 1,850 มิลลิเมตร ตามลำดับ ส่วนความสูงจะอยู่ที่ 1,645 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 30 มิลลิเมตร อยู่ที่ 2,670 มิลลิเมตร ซึ่งจากมิติที่เพิ่มขึ้นทำให้ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุขยายเป็น 591 ลิตร
ด้านเครื่องยนต์ที่ทำตลาดโลกมีหลากหลาย ทั้งเบนซิน 1.6 ลิตร GDI 135 แรงม้า และ 1.6 ลิตร เทอร์โบ T-GDI 176 แรงม้า รวมถึง เทอร์โบดีเซลอีก 3 รุ่น คือ 1.7 ลิตร 115 แรงม้า 2.0 ลิตร ที่มีให้เลือกทั้ง 136 แรงม้า และ 184 แรงม้า ระบบส่งกำลังมีเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ DCT แบบคลัตช์คู่ 7 สปีด ส่วนเมืองไทยน่าจะมากับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2.0 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
….นั่นเป็นทิศทางของค่ายรถยนต์เกาหลี ที่มาแบบเงียบๆ แต่กินเรียบเรื่องความอเนกประสงค์ ส่วนฮุนได “ทูซอน โฉมใหม่” ยังต้องรอกันอีกสักระยะ ซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้นอาจจะโดน ฮอนด้า ซีอาร์-วี โฉมใหม่ โฉบยอดขายไปก่อนแล้ว
มูลค่าแบรนด์ฮุนไดพุ่ง
ฮุนได มอเตอร์ ได้รับการจัดอันดับที่ 35 แบรนด์รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด จากการจัดอันดับโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์ระดับโลก โดยมูลค่าของแบรนด์ฮุนไดเพิ่มขึ้น 11.1% เทียบเท่ามูลค่าอยู่ที่ 12.55 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมรักษายอดขายทั่วโลกที่ 5 ล้านคัน ซึ่งการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อย่าง โซนาต้าและทูซอน มีส่วนช่วยในการผลักดันไปสู่ความสำเร็จในครั้งนี้
ขณะเดียวกันฮุนไดยังเดินหน้าเสริมแบรนด์ให้มีความเป็นโมเดิร์นพรีเมี่ยม ด้วยการเพิ่มความแตกต่างระหว่างแบรนด์ฮุนไดและเจเนซิสอย่างชัดเจน ทั้งยังประสบความสำเร็จด้วยรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นไอโอนิค และรถยนต์สมรรถนะสูง “Hyundai N” ซึ่งในอนาคตฮุนไดยังมุ่งเน้นพัฒนารุ่น “ไอโอนิค” ให้เป็นแบรนด์ใหม่ในวงการยานยนต์อีกด้วย
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
“ปีนี้ฮุนไดคาดว่าจะขายได้ถึง 4,000 คัน โดย 85% เป็นสัดส่วนของ เอช1 และแกรนด์ สตาร์เร็กซ์ ที่ได้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเก๋งอย่างเอลันตร้า เอสยูวีทูซอน เหลือล็อตสุดท้ายจำนวนไม่มาก ขณะที่สปอร์ตคาร์ เวโลสเตอร์ ขายไปหมดแล้ว” เซจิ ซากากิบาระ รองผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวและว่า
“ฮุนได เอช1 ยังขายดีมากด้วยความอเนกประสงค์ รองรับการใช้งานแบบครอบครัวและผู้ประกอบธุรกิจ ด้วยราคาเริ่มต้น 1.289 ล้านบาท จึงยังเป็นรถยนต์รุ่นหลักในการทำยอดขายของเรา”
สำหรับตลาดรถยนต์เมืองไทยปีนี้ ค่อนข้างทรงตัวหรือไม่ตกต่ำอย่างที่คาดการณ์กันไว้ ส่วนปีหน้าเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น ด้วยปัจจัยบวกจากการลงทุนภาครัฐ พร้อมความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยเริ่มดีขึ้น ขณะที่กฎการถือครองรถยนต์ 5 ปี ห้ามเปลี่ยนมือในโครงการรถยนต์คันแรกกำลังหมดลง น่าจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อในตลาดได้พอสมควร
ส่วนฮุนไดจะได้อานิสงค์จากความคึกคักของตลาด ซึ่งบริษัทมีแผนออกอีเวนต์สนับสนุนการขายอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนทุกดีลเลอร์ของฮุนไดอย่างเต็มที่ ในส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ บริษัทเตรียมเปิดตัวอย่างน้อยสองรุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเอสยูวีที่จะนำเข้ามาขายในช่วงไตรมาสสองของปีหน้า
“แน่นอนว่าเราอยากจะโต 100 % แต่ต้องดูความพร้อมของตัวโปรดักต์ด้วย ซึ่งเอสยูวีเป็นเซกเมนต์ที่น่าสนใจเพราะมีอัตราเติบโตสูงล่าสุดทูซอนออกแคมเปญสนับสนุนการขายคือ ดอกเบี้ย 0% ผ่อนนาน 48 เดือน และฟรีประกันภัยชั้น 1 เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น”
“ส่วนรถยนต์ไฮบริดที่เป็นกระแสและได้การสนับสนุนจากรัฐบาลไทย ฮุนได มอเตอร์ ไทยแลนด์ ก็สนใจเช่นกัน เพียงแต่ติดเรื่องกำลังการผลิตของบริษัทแม่ประเทศเกาหลีมีจำนวนจำกัด จึงเป็นเรื่องยากที่จะส่งออกรถยนต์ไฮบริดมาไทย”
สำหรับทูซอน โฉมใหม่ เจเนอเรชันที่สาม เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2015 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขายในยุโรปด้วยชื่อ iX35 ท้าชนเต็มๆ กับเอสยูวีคอมแพ็กต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี และมาสด้า ซีเอ็กซ์-5
ทูซอน โฉมใหม่ มีมิติความยาวและความกว้างเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 65 และ 30 มิลลิเมตร โดยอยู่ที่ 4,475 และ 1,850 มิลลิเมตร ตามลำดับ ส่วนความสูงจะอยู่ที่ 1,645 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 30 มิลลิเมตร อยู่ที่ 2,670 มิลลิเมตร ซึ่งจากมิติที่เพิ่มขึ้นทำให้ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุขยายเป็น 591 ลิตร
ด้านเครื่องยนต์ที่ทำตลาดโลกมีหลากหลาย ทั้งเบนซิน 1.6 ลิตร GDI 135 แรงม้า และ 1.6 ลิตร เทอร์โบ T-GDI 176 แรงม้า รวมถึง เทอร์โบดีเซลอีก 3 รุ่น คือ 1.7 ลิตร 115 แรงม้า 2.0 ลิตร ที่มีให้เลือกทั้ง 136 แรงม้า และ 184 แรงม้า ระบบส่งกำลังมีเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ DCT แบบคลัตช์คู่ 7 สปีด ส่วนเมืองไทยน่าจะมากับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2.0 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
….นั่นเป็นทิศทางของค่ายรถยนต์เกาหลี ที่มาแบบเงียบๆ แต่กินเรียบเรื่องความอเนกประสงค์ ส่วนฮุนได “ทูซอน โฉมใหม่” ยังต้องรอกันอีกสักระยะ ซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้นอาจจะโดน ฮอนด้า ซีอาร์-วี โฉมใหม่ โฉบยอดขายไปก่อนแล้ว
มูลค่าแบรนด์ฮุนไดพุ่ง
ฮุนได มอเตอร์ ได้รับการจัดอันดับที่ 35 แบรนด์รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด จากการจัดอันดับโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์ระดับโลก โดยมูลค่าของแบรนด์ฮุนไดเพิ่มขึ้น 11.1% เทียบเท่ามูลค่าอยู่ที่ 12.55 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมรักษายอดขายทั่วโลกที่ 5 ล้านคัน ซึ่งการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อย่าง โซนาต้าและทูซอน มีส่วนช่วยในการผลักดันไปสู่ความสำเร็จในครั้งนี้
ขณะเดียวกันฮุนไดยังเดินหน้าเสริมแบรนด์ให้มีความเป็นโมเดิร์นพรีเมี่ยม ด้วยการเพิ่มความแตกต่างระหว่างแบรนด์ฮุนไดและเจเนซิสอย่างชัดเจน ทั้งยังประสบความสำเร็จด้วยรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นไอโอนิค และรถยนต์สมรรถนะสูง “Hyundai N” ซึ่งในอนาคตฮุนไดยังมุ่งเน้นพัฒนารุ่น “ไอโอนิค” ให้เป็นแบรนด์ใหม่ในวงการยานยนต์อีกด้วย
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring