xs
xsm
sm
md
lg

BMW 730Ld M Sport อลังการ ขับดี อุดมเทคโนโลยีอยู่สบาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มาแล้วครับ สำหรับรุ่นประกอบในประเทศของบีเอ็มดับเบิลยู “ซีรีย์7” ซึ่งบ้านเราทำตลาดในรุ่น 730Ld ตัวถังฐานล้อยาวรหัส G12 (ถ้าฐานล้อปกติรหัสตัวถัง G11)วางเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ


โดยสัปดาห์ก่อน บีเอ็มดับเบิลยูจัดทริปให้ลองขับที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร สลับผู้ขับผลัดกันนั่ง 3 คนต่อหนึ่งคัน ดังนั้นจึงสัมผัสครบทั้งสมรรถนะการขับขี่และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกใหม่ๆที่ติดตั้งมาในรถคันนี้

เจเนอเรชันที่ 6 ของ “ซีรีส์7” พัฒนาวิศวกรรมโครงสร้างที่น่าสนใจ ไล่ตั้งแต่การขึ้นรูปตัวถัง แน่นนอนว่าใช้วัสดุอย่างเหล็กและอะลูมิเนียม แต่เพิ่มชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์มาในหลายๆจุด เช่น บริเวณเสาบี ฝากระโปรงหน้า-หลัง คานขวานหลังคา เป็นต้น ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยูเรียกว่าโครงสร้างตัวถังแบบ Carbon Core ประโยชน์เพื่อความยืดหยุ่นของตัวถังแต่ยังคงความแข็งแรง และลดน้ำหนักลงไปได้ 130 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับโมเดลเดิม

ด้านมิติตัวถังยาวขึ้น 19 มม.เป็น 5,238 มม.เมื่อเทียบกับรหัส F02 ฐานล้อยาว ส่วนความกว้าง 1,902 มม. สูง 1,485 เท่าเดิม และมีผลพลอยได้จากระยะฐานล้อ 3,210 มม.ที่บีเอ็มดับเบิลยูเคลมว่ายาวที่สุดในเซกเมนท์นี้ เช่นเดียวกับพื้นที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหลังความจุระดับ 515 ลิตร




ส่วนลูกเล่นเด่นๆของเล่นใหม่ๆไล่ตั้งแต่ กุญแจรีโมทแบบมีจอ LCD ขนาด 2.2 นิ้ว สามารถแสดงข้อมูลต่างๆของรถ และตั้งการทำงานของระบบแอร์ล่วงหน้าได้ ขณะที่หลังคากระจก Sky Lounge Panorama ยาวใหญ่โดดเด่นยามค่ำคืนเมื่อเล่นกับหลอดไฟ LED พร้อมจุดแสงประมาณ 15,000 จุด (BMW บอกว่าเปรียบเสมือนดวงดาวสกาวฟ้า) สอดคล้องกับระบบไฟ Ambient Light ตามแผงประตู-คอนโซลหน้า พื้นพรม ที่เลือกเปลี่ยนได้ 6 สีหลัก คือ ขาว น้ำเงิน ส้ม บรอนซ์ ม่วง เขียว

การนั่งเป็นเจ้านายด้านหลัง ยังควบคุมระบบต่างๆได้ด้วยแทบเล็ตของซัมซุงขนาด 7 นิ้วฝังอยู่ตรงที่เท้าแขนกลาง แต่สามารถดึงออกมาถือเล่น/ควบคุมการปรับที่นั่ง รูปแบบการนวด แสงไฟภายในตัวรถ การปรับอุณหภูมิ รวมถึงระบบความบันเทิงต่างๆ และระบบนำทาง (จริงๆเมื่อใส่ซิมการ์ด หรือเชื่อมต่อ Wifi ก็สามารถโหลดแอพพลิเคชันได้เหมือนแทบเล็ตแอนดรอยด์ทั่วไป) สุนทรีย์ด้วยจอภาพสําหรับผู้โดยสารตอนหลังฝังอยู่เบาะคู่หน้า (ดูทีวี DVD) และเพลินกับระบบเสียงรอบทิศทางของ Harman Kardon

ด้านระบบ iDrive เพิ่มฟังก์ชันใหม่ สามารถควบคุมได้ด้วยสัญญาณมือ (BMW Gesture Control) หรือไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ-ปุ่มควบคุมในหลายลักษณะการใช้งาน โดยรถจะมีเซ็นเซอร์ 3 มิติจับการเคลื่อนไหวของมือ/นิ้วมือ ในการสั่งงานและควบคุมระบบความบันเทิงและการสื่อสาร เช่น การปรับระดับเสียง การรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าโทรศัพท์ เป็นต้น (ต้องทำสัญญาณมือสั่งงานผ่านหน้าจอ10 นิ้วตรงคอนโซลกลาง)
…เมื่อก่อนมี iDrive ให้ใช้ก็เท่ดีแล้ว(ติดมาครั้งแรกในซีรีย์7 E66) ปัจจุบันเทคโนโลยียิ่งเหนือไปกว่านั้น เพื่อใช้งานง่ายและช่วยให้มุ่งสมาธิไปที่การขับขี่มากที่สุด





ภายในห้องโดยสารอารมณ์หรูหรา นั่งด้านหลังกว้างขวางยืดขาสบาย เบาะปรับเอนได้มาก พร้อมระบบนวดหลายรูปแบบ ขณะที่การเก็บเสียงรบกวนจากการจราจรภายนอกทำได้เงียบกริบ มิดชิดให้ความเป็นส่วนตัวสูง

ในส่วนของผู้ขับนั้น แทบไม่ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เพียงแต่รู้ว่ามีเครื่องยนต์อยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าแน่ๆ เมื่อกดคันเร่งแล้วสัมผัสถึงพลังการตอบสนองที่รวดเร็วและนุ่มนวล ซึ่งกลมกลืนกันดีระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์ 8 สปีด ทำงานรวดเร็วฉับไวไม่ต้องลากรอบนานๆ ปลดปล่อยพลังได้แบบนวลสุภาพ (ไม่กระชากหน้าหงายหรือหัวทิ่ม) พร้อมเซ็ทพวงมาลัยไฟฟ้าเซอร์โวทรอนิกส์มาให้ขับง่าย สอดคล้องกับช่วงล่างนุ่มสบาย

ความน่าสนใจของ 730Ld ยังอยู่ที่ช่วงล่างแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับได้อัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ หรือถ้าเลือกโหมด Adaptive ไว้ รถจะคำนวณสภาพถนนล่วงหน้า(จากระบบนำทาง) แล้วเตรียมปรับช่วงล่างรอไว้เลย เมื่อผ่านสภาพถนนดังกล่าวไปแล้ว ก็จะทำระดับกลับมาอยู่ในค่าเริ่มต้น
อย่างไรก็ตาม หากเลือกโหมด Sport ช่วงล่างจะลดระดับลงมาให้ 10 มม. ทันที เพื่อการทรงตัวที่มีเสถียรภาพในการใช้ความเร็วสูง แต่กระนั้นถ้าเลือกใช้โหมด Comfort แต่เมื่อความเร็วเกิน 120 กม./ชม.ช่วงล่างจะลดระดับลงมาให้เอง 10 มม.เช่นกัน

ตามข้อมูลของบีเอ็มดับเบิลยูแจ้งว่า ระบบช่วงล่างแบบถุงลมซึ่งทำงานด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อัดลมเข้าไปเก็บในถังลม ทำให้สามารถรักษาระดับของรถไว้ได้ แม้ในเวลาที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน ระดับความสูงของรถจะถูกปรับให้คงที่อยู่เสมอไม่ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกเท่าไหร่ก็ตาม และเนื่องจากในแต่ละล้อมีตัวจ่ายลมที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ จึงสามารถปรับระดับของรถให้เสถียรได้ แม้ว่าน้ำหนักในการบรรทุกของล้อแต่ละข้างจะไม่เท่ากันก็ตาม

ขณะเดียวกันเรื่องหลักอากาศพลศาสตร์เล็กๆน้อยๆ บีเอ็มดับเบิลยูก็ไม่ละเลยครับ เช่นการเปิด-ปิดครีบที่กระจังหน้า ซึ่งครีบนี้จะเปิดเป็นปกติเพื่อระบายความร้อนในห้องเครื่องยนต์ แต่จะปิดอัตโนมัติ(ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการขับ)เพื่อให้อากาศไหลผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้สมรรถนะของขุมพลังดีเซลใหม่ที่ปลดปล่อยออกมาได้เนียนต่อเนื่อง ยิ่งไปเทียบกับ 730Ld ตัวเก่าจะเห็นว่า รุ่นใหม่ให้ตัวเลขประสิทธิผลดีกว่ากันจริงๆ ทั้งแรงม้าที่เพิ่มขึ้นเป็น 265 แรงม้า(เดิม 218 แรงม้า) แรงบิด 620 นิวตัน-เมตร (เดิม 560 นิวตัน-เมตร) ส่งผลถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.2 วินาที เร็วกว่าเดิมที่ทำได้ 7.2 วินาที เมื่อมาประจำการกับโครงสร้างที่เบาลง พร้อมพัฒนาหลักอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้น ตลอดจนเทคโนโลยีทวินพาวเวอร์เทอร์โบอันเลื่องชื่อ ยังให้อัตราการกินน้ำมันที่ 18.2 กม./ลิตร หรือกินน้อยกว่ารุ่นเดิมที่เคลมไว้ 17 กม./ลิตร


ส่วนการขับจริงในทริปทดสอบนี้ที่ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นลงเขา บางช่วงถนนโล่งก็พอจะอัดความเร็วกันได้บ้าง สุดท้ายหน้าจอแสดงผลยังมีเลขแถวๆ 11-12 กม./ลิตร

รวบรัดตัดความ...หรูหรา อลังการกว่าเดิม โดยเฉพาะฟังก์ชันการทำงานต่างๆภายในห้องโดยสาร ทั้งเพื่ออำนวยความสะดวก-ความสบายที่รื่นรมย์ พร้อมสุดยอดระบบขับเคลื่อนของบีเอ็มดับเบิลยู เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ตอบสนองแน่นเนียน โดยมีทางเลือกเดียวตอนนี้สำหรับ “ซีรีย์ 7 รุ่นประกอบในประเทศ” ซึ่งราคาถูกลงจาก 740Li ตัวนำเข้าที่เปิดตัวปลายปีที่แล้วถึง 6 แสนบาท ส่วนใครนิยมปลั๊ก-อิน ไฮบริดคงต้องรออีกสักระยะ(ไม่เกินปีหน้า) หรือหันไปมอง “เอส-คลาส ปลั๊ก-อินไฮบริด” S500e ที่ขายทางเลือกเดียวเหมือนกัน สนนราคา 5.99-6.99 ล้านบาท....เลือกไปเลยครับว่าจะไปทางไฟฟ้านั่งชิลชิล หรือขับดีบุคลิกสุขุมแบบดีเซล

ชมคลิปทดสอบ BMW 730Ld ที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา












กำลังโหลดความคิดเห็น