เราทุกคนต่างเคยเจอกับสถานการณ์เหล่านี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถติด เจอกับคนขับรถที่ไม่ระมัดระวัง หรือแม้กระทั่งการขับขี่ในสภาพอากาศย่ำแย่ รวมทั้งการเดินทางบนสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ และสภาพการจราจรที่แออัด สถานการณ์ต่างๆ เช่นนี้ล้วนก่อให้เกิดความตึงเครียดได้ ดังนั้นการเรียนรู้เพื่อรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้มีความสำคัญกับผู้ขับขี่ เพื่อให้คุณสามารถบริหารความตึงเครียดและช่วยคุณเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย
เพราะการใส่อารมณ์ไม่ได้ช่วยให้ใครต่อใครรู้สึกดีขึ้นได้ แต่จะเป็นการสร้างและส่งต่อความหงุดหงิดรำคาญใจไปสู่ผู้ขับขี่คนอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นการแพร่กระจายความเดือดดาลบนท้องถนนอีกด้วย ดังนั้นผู้ขับขี่ควรวางแผนต่างๆ ล่วงหน้าก่อนขึ้นรถ และลองดูว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความหงุดหงิดรำคาญใจเมื่อต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ
ก่อนออกเดินทาง
1.เผื่อเวลาสำหรับการล่าช้า
สิ่งนี้อาจจะฟังดูสิ้นคิด แต่การไม่เผื่อเวลาในการเดินทาง ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปร่วมงานสังสรรค์ ล้วนก่อให้เกิดความตึงเครียดได้โดยไม่จำเป็น ดังนั้น คุณควรเผื่อเวลาสำหรับสิ่งไม่คาดคิดที่อาจทำให้เกิดความล่าช้า เช่น หากคุณต้องเผชิญรถติด ระบบนำทางในรถบางคันสามารถสั่งงานด้วยเสียง คุณจึงมีผู้ช่วยส่วนตัวที่จะช่วยหลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด และช่วยค้นหาตัวเลือกอื่นๆ และเมื่อถนนแออัดน้อยลง รถติดน้อยลง สภาพการขับขี่ก็ตึงเครียดน้อยลงไปด้วย
2.พักผ่อนบ้าง
การขับรถขณะร่างกายเหนื่อยล้าทำให้เกิดความตึงเครียดและก่อให้เกิดอันตรายได้ การนอนหลับอย่างเต็มอิ่มก่อนออกเดินทางช่วยให้เราสงบและมีสมาธิในการขับรถมากขึ้น นอกจากนี้ การพักผ่อนเป็นระยะๆ ระหว่างเดินทางก็จำเป็นเช่นเดียวกัน รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีระบบแจ้งเตือน จะสามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่และส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาควรหยุดพัก หากตรวจจับได้ว่าคุณเริ่มขับรถส่ายไปมาซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการเหนื่อยล้า
3.เมื่ออารมณ์รื่นเริง การขับขี่ก็รื่นรมย์
ลองให้รถยนต์เป็นตัวช่วยตอกย้ำความสนุกสนานในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลงที่คุณชื่นชอบ เพลย์ลิสต์หรือคลื่นวิทยุที่ถูกใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยขจัดความตึงเครียดและความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นขณะรถติดได้ คุณรู้หรือไม่ว่า การเปิดเพลงด้วยระดับเสียงที่เหมาะสมจะทำให้การขับขี่เพลิดเพลินและช่วยให้จิตใจสงบอีกด้วย
ขณะขับรถ
4.ขับรถด้วยความนุ่มนวล
หากการเผาผลาญน้ำมัน (รวมถึงเงินของคุณด้วย) ขณะรอรถติดอยู่เฉยๆ ก่อให้เกิดความตึงเครียด ขอให้คุณระลึกไว้ด้วยเช่นกันว่า การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่นี้จะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเหยียบคันเร่งเพื่อขยับรถไปอีก 5 เมตร และเพื่อที่จะต้องเบรครถอีกครั้ง การเหยียบคันเร่งและเบรคอย่างนุ่มนวลในสภาพการจราจรที่เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวขยับ จะช่วยให้น้ำมันคงอยู่ในถังได้ยาวนานยิ่งขึ้น
5.เผื่อพื้นที่ให้กับตัวเองบ้าง
การขับจี้ท้ายรถนั้นอันตรายสำหรับทุกคนและอาจก่อให้เกิดของอุบัติเหตุได้ง่าย คุณควรทิ้งระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและรถคันข้างหน้า ระบบควบคุมความเร็วที่ใช้เรดาร์ในการวัดระยะนั้นมีประโยชน์ เพราะช่วยในการรักษาระยะห่างระหว่างรถ ตัวอย่างเช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าของฟอร์ดที่มาพร้อมเทคโนโลยีเตือนการชนด้านหน้า จะช่วยแจ้งเตือนเมื่อตรวจจับได้ถึงความเสี่ยงสูงที่จะชนรถคันข้างหน้า และหากคุณพบว่ากำลังถูกจี้ท้าย คุณอาจต้องหาพื้นที่ปลอดภัยโดยหลบเข้าข้างทาง และปล่อยให้รถคันนั้นขับไปก่อน ไม่คุ้มเสียเลยที่ต้องเสียพลังงานอันมีค่าให้กับคนขับนิสัยเสียเหล่านี้
6.ขับรถไปและปล่อยมันไป
เมื่อคุณตั้งใจว่าจะขับรถอย่างปลอดภัย อย่าบีบแตร อย่าจ้องตาเขม็ง หรือใช้ภาษามือหยาบคาย แต่ลองหันมาหายใจเข้าลึกๆ ถึงแม้ว่าคุณจะควบคุมการจราจรและคนขับรถคนอื่นๆ ไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมตัวเองได้ การนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ทะเลาะเบาะแว้งถือเป็นการทำร้ายตัวเองอย่างหนึ่ง และมันก็ไม่ได้ช่วยให้คุณออกไปจากพื้นที่รถติดเร็วขึ้นเลย
*** MGR MOTORING ...แจกบัตร Big Motor Sale ท่านละ 2 ใบ มารับได้ที่บ้านพระอาทิตย์ เวลา 8.30-18.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ โทร 02-629-4488 งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-28 สิงหาคม ที่ไบเทค บางนา
เพราะการใส่อารมณ์ไม่ได้ช่วยให้ใครต่อใครรู้สึกดีขึ้นได้ แต่จะเป็นการสร้างและส่งต่อความหงุดหงิดรำคาญใจไปสู่ผู้ขับขี่คนอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นการแพร่กระจายความเดือดดาลบนท้องถนนอีกด้วย ดังนั้นผู้ขับขี่ควรวางแผนต่างๆ ล่วงหน้าก่อนขึ้นรถ และลองดูว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความหงุดหงิดรำคาญใจเมื่อต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ
ก่อนออกเดินทาง
1.เผื่อเวลาสำหรับการล่าช้า
สิ่งนี้อาจจะฟังดูสิ้นคิด แต่การไม่เผื่อเวลาในการเดินทาง ไม่ว่าจะไปทำงานหรือไปร่วมงานสังสรรค์ ล้วนก่อให้เกิดความตึงเครียดได้โดยไม่จำเป็น ดังนั้น คุณควรเผื่อเวลาสำหรับสิ่งไม่คาดคิดที่อาจทำให้เกิดความล่าช้า เช่น หากคุณต้องเผชิญรถติด ระบบนำทางในรถบางคันสามารถสั่งงานด้วยเสียง คุณจึงมีผู้ช่วยส่วนตัวที่จะช่วยหลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด และช่วยค้นหาตัวเลือกอื่นๆ และเมื่อถนนแออัดน้อยลง รถติดน้อยลง สภาพการขับขี่ก็ตึงเครียดน้อยลงไปด้วย
2.พักผ่อนบ้าง
การขับรถขณะร่างกายเหนื่อยล้าทำให้เกิดความตึงเครียดและก่อให้เกิดอันตรายได้ การนอนหลับอย่างเต็มอิ่มก่อนออกเดินทางช่วยให้เราสงบและมีสมาธิในการขับรถมากขึ้น นอกจากนี้ การพักผ่อนเป็นระยะๆ ระหว่างเดินทางก็จำเป็นเช่นเดียวกัน รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีระบบแจ้งเตือน จะสามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่และส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาควรหยุดพัก หากตรวจจับได้ว่าคุณเริ่มขับรถส่ายไปมาซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการเหนื่อยล้า
3.เมื่ออารมณ์รื่นเริง การขับขี่ก็รื่นรมย์
ลองให้รถยนต์เป็นตัวช่วยตอกย้ำความสนุกสนานในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลงที่คุณชื่นชอบ เพลย์ลิสต์หรือคลื่นวิทยุที่ถูกใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยขจัดความตึงเครียดและความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นขณะรถติดได้ คุณรู้หรือไม่ว่า การเปิดเพลงด้วยระดับเสียงที่เหมาะสมจะทำให้การขับขี่เพลิดเพลินและช่วยให้จิตใจสงบอีกด้วย
ขณะขับรถ
4.ขับรถด้วยความนุ่มนวล
หากการเผาผลาญน้ำมัน (รวมถึงเงินของคุณด้วย) ขณะรอรถติดอยู่เฉยๆ ก่อให้เกิดความตึงเครียด ขอให้คุณระลึกไว้ด้วยเช่นกันว่า การขับขี่ด้วยความเร็วคงที่นี้จะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเหยียบคันเร่งเพื่อขยับรถไปอีก 5 เมตร และเพื่อที่จะต้องเบรครถอีกครั้ง การเหยียบคันเร่งและเบรคอย่างนุ่มนวลในสภาพการจราจรที่เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวขยับ จะช่วยให้น้ำมันคงอยู่ในถังได้ยาวนานยิ่งขึ้น
5.เผื่อพื้นที่ให้กับตัวเองบ้าง
การขับจี้ท้ายรถนั้นอันตรายสำหรับทุกคนและอาจก่อให้เกิดของอุบัติเหตุได้ง่าย คุณควรทิ้งระยะห่างที่ปลอดภัยระหว่างรถของคุณและรถคันข้างหน้า ระบบควบคุมความเร็วที่ใช้เรดาร์ในการวัดระยะนั้นมีประโยชน์ เพราะช่วยในการรักษาระยะห่างระหว่างรถ ตัวอย่างเช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าของฟอร์ดที่มาพร้อมเทคโนโลยีเตือนการชนด้านหน้า จะช่วยแจ้งเตือนเมื่อตรวจจับได้ถึงความเสี่ยงสูงที่จะชนรถคันข้างหน้า และหากคุณพบว่ากำลังถูกจี้ท้าย คุณอาจต้องหาพื้นที่ปลอดภัยโดยหลบเข้าข้างทาง และปล่อยให้รถคันนั้นขับไปก่อน ไม่คุ้มเสียเลยที่ต้องเสียพลังงานอันมีค่าให้กับคนขับนิสัยเสียเหล่านี้
6.ขับรถไปและปล่อยมันไป
เมื่อคุณตั้งใจว่าจะขับรถอย่างปลอดภัย อย่าบีบแตร อย่าจ้องตาเขม็ง หรือใช้ภาษามือหยาบคาย แต่ลองหันมาหายใจเข้าลึกๆ ถึงแม้ว่าคุณจะควบคุมการจราจรและคนขับรถคนอื่นๆ ไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมตัวเองได้ การนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ทะเลาะเบาะแว้งถือเป็นการทำร้ายตัวเองอย่างหนึ่ง และมันก็ไม่ได้ช่วยให้คุณออกไปจากพื้นที่รถติดเร็วขึ้นเลย
*** MGR MOTORING ...แจกบัตร Big Motor Sale ท่านละ 2 ใบ มารับได้ที่บ้านพระอาทิตย์ เวลา 8.30-18.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ โทร 02-629-4488 งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-28 สิงหาคม ที่ไบเทค บางนา