ซีตรองส่งโฉมใหม่ของ C3 รถยนต์ซับคอมแพ็กต์ในกลุ่ม B-Segment รุ่นดังของตัวเองลงลุยตลาดในยุโรปแล้ว พร้อมภาพลักษณ์ และหน้าตาที่โดดเด่นสามารถเรียกความสนใจจากสายตาทุกคู่บนท้องถนนได้เป็นอย่างดี
C3 เป็นรถยนต์โมเดลใหม่ที่ถูกส่งเข้ามาแทนที่รุ่น Saxo ตั้งแต่ปี 2002 และถ้านับจนถึงรุ่นใหม่ที่เห็นอยู่นี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว โดยทาง Citroen ส่งความสดใหม่นี้เข้ามาแทนที่รุ่นที่ 2 ซึ่งขายกันมาตั้งแต่ปี 2009
โดยในรุ่นใหม่อ้างอิงสไตล์การออกแบบและไอเดียในการสร้างสีสันบนท้องถนนมาจากแนวคิดของรถยนต์รุ่น C4 Cactus ซึ่งนั่นทำให้ตัวรถดูแล้วไม่น่าเบื่อทั้งในแง่ของการออกแบบ และการมีลูกเล่นจากโรงงาน ด้วยการมีโทนสีให้เลือกผสมผสานและใช้พ่นตัวถังและหลังคารวมแล้ว 36 โทนสีด้วยกัน
ส่วนในห้องโดยสารก็อัดแน่นด้วยความทันสมัยและระบบความบันเทิงที่เตรียมรองรับกับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ทั้งระบบ GPS การเชื่อมต่อ Online สำหรับรับส่งเมล และ Social Media ที่ให้ความสะดวกเพียงแค่การกดครั้งเดียว รวมถึงยังมีระบบ ConnectedCam ซึ่งเป็นกล้องมุมกว้างสำหรับช่วยในเรื่องของการมองเห็นรอบด้าน เพื่อความปลอดภัยในขณะขับขี่
ทางเลือกของเครื่องยนต์มีหลากหลาย ตั้งแต่เบนซิน 3 สูบ ไปจนถึงเทอร์โบดีเซล ซึ่งเท่าที่มีการเปิดเผยออกมาตอนนี้ ในรุ่นเบนซิน PureTech จะมี 3 ระดับกำลังขับเคลื่อน คือ 68 แรงม้า 82 แรงม้า และ 110 แรงม้า ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซลในรหัส BlueHDi ก็มี 2 ระดับกำลัง คือ 75 และ 100 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ
เปิดตัวออกมาให้เห็นแล้วก็จริง แต่การทำตลาดจะเริ่มขึ้นในยุโรปช่วงปลายปีนี้
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
C3 เป็นรถยนต์โมเดลใหม่ที่ถูกส่งเข้ามาแทนที่รุ่น Saxo ตั้งแต่ปี 2002 และถ้านับจนถึงรุ่นใหม่ที่เห็นอยู่นี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 แล้ว โดยทาง Citroen ส่งความสดใหม่นี้เข้ามาแทนที่รุ่นที่ 2 ซึ่งขายกันมาตั้งแต่ปี 2009
โดยในรุ่นใหม่อ้างอิงสไตล์การออกแบบและไอเดียในการสร้างสีสันบนท้องถนนมาจากแนวคิดของรถยนต์รุ่น C4 Cactus ซึ่งนั่นทำให้ตัวรถดูแล้วไม่น่าเบื่อทั้งในแง่ของการออกแบบ และการมีลูกเล่นจากโรงงาน ด้วยการมีโทนสีให้เลือกผสมผสานและใช้พ่นตัวถังและหลังคารวมแล้ว 36 โทนสีด้วยกัน
ส่วนในห้องโดยสารก็อัดแน่นด้วยความทันสมัยและระบบความบันเทิงที่เตรียมรองรับกับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ทั้งระบบ GPS การเชื่อมต่อ Online สำหรับรับส่งเมล และ Social Media ที่ให้ความสะดวกเพียงแค่การกดครั้งเดียว รวมถึงยังมีระบบ ConnectedCam ซึ่งเป็นกล้องมุมกว้างสำหรับช่วยในเรื่องของการมองเห็นรอบด้าน เพื่อความปลอดภัยในขณะขับขี่
ทางเลือกของเครื่องยนต์มีหลากหลาย ตั้งแต่เบนซิน 3 สูบ ไปจนถึงเทอร์โบดีเซล ซึ่งเท่าที่มีการเปิดเผยออกมาตอนนี้ ในรุ่นเบนซิน PureTech จะมี 3 ระดับกำลังขับเคลื่อน คือ 68 แรงม้า 82 แรงม้า และ 110 แรงม้า ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซลในรหัส BlueHDi ก็มี 2 ระดับกำลัง คือ 75 และ 100 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ
เปิดตัวออกมาให้เห็นแล้วก็จริง แต่การทำตลาดจะเริ่มขึ้นในยุโรปช่วงปลายปีนี้
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring