“จีเอส” (GS) เป็นเอสยูวีรุ่นแรกของค่าย “เอ็มจี” (MG) เปิดตัวในเมืองไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ารวดเร็วและเป็นประเทศแรกๆของโลกที่ได้ทำตลาด อย่างที่ผู้เขียนเห็นข่าวล่าสุด จีเอสเพิ่งจะขายในประเทศอังกฤษซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแบรนด์เอ็มจี ไปสดๆร้อนๆเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยสโลแกน FAMILY,AFFORDABLE,FUN หรือแปลตรงตัวก็คือ รถสำหรับครอบครัวที่ราคาเข้าถึงได้ง่าย (เริ่มต้น 14,995 ปอนด์ หรือประมาณ 780,000 บาท) แถมยังให้ความสนุกสนานในการขับขี่
…3 คำนี้สะท้อนตัวตนของรถชัดเจนมาถึงประเทศไทย ยิ่งได้ลองขับยาวๆเส้นทางกรุงเทพ-กุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รู้สึกว่าจีเอสมีบุคลิกดังกล่าวจริงๆ โดยเฉพาะคำหลัง FUN
จะว่าไปก็ FUN มันทุกตัวละครับ ตั้งแต่ MG6 MG3 MG5 และล่าสุดกับเอสยูวี “จีเอส” ที่จริงๆควรเป็นรถครอบครัว ขับสบาย รองรับหลากหลายไลฟ์สไตล์ แต่ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่เอ็มจีมี ที่เอ็มจีใช้ ยังทำให้รถยนต์ทุกรุ่นกระเดียดอารมณ์ไปแนวสปอร์ตขับสนุก
สำหรับ “จีเอส” ผู้เขียนได้ลองทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ 2WD และขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่ราคาต่างกันหนึ่งแสนบาท ถ้ามองรูปลักษณ์ภายนอกต่างกันชัดเจน เพราะลายล้ออัลลอย18 นิ้วไม่เหมือนกัน ขณะที่รุ่น AWD จะมีราวหลังคา หรือเข้าไปนั่งภายในจะเห็นซันรูฟอยู่บนหัว
ส่วนออปชันที่ต่างกันนั้น ในรุ่นAWD จะเพิ่มระบบฉีดล้างไฟหน้า ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบแพดเดิลชิฟท์ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า (รุ่น 2WD ปรับไฟฟ้าเฉพาะฝั่งคนขับ) ซึ่งนอกเหนือจากนั้นมาพิมพ์เดียวกันหมด ทั้งออปชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย และการตกแต่ง
การตกแต่งภายในเน้นโทนสีดำออกแนวสปอร์ต วัสดุที่ใช้ดูดี คอนโซนกลางมีหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เพื่อควบคุมระบบอินคาเน็ต ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เครื่องเสียง โทรศัพท์ และการตั้งค่าฟังก์ชันต่างๆเป็นต้น
สำหรับระบบอินคาเน็ต ถือเป็นระบบช่วยอำนวยความสะดวกให้คนขับที่รองรับการทำงานหลากหลาย(ดูในตารางด้านล่าง) ซึ่งการเป็นเจ้าของ “เอ็มจี จีเอส” หนึ่งคัน ก็เหมือนคุณจะได้มือถือใหม่หนึ่งเครื่อง พร้อมเบอร์ใหม่(ของทรู) เอาไว้ใช้สื่อสารกับโอเปอเรเตอร์ของอินคาเน็ตและโทรออกหาบุคคลอื่นๆได้ปกติ รวมถึงมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตในรถ(รถเหมือนเป็นฮอตสปอต) เชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้ตลอด ซึ่งเอ็มจีให้ใช้ระบบนี้ฟรี 5 ปี โดยแต่ละเดือนโทรออกได้ 100 นาที SMS 50 ครั้ง และใช้ดาต้า(อินเตอร์เน็ต)ได้ 500 MB (ความเร็วระดับ 3G)
…นอกเหนือจากระบบอินคาเน็ตที่ถือเป็นต้นทุนแล้ว ออปชันต่างๆถือว่า เอ็มจีใส่มาให้ไม่น้อยหน้าเอสยูวีคู่แข่งในตลาด เรียกว่ามีระบบหรือฟังก์ชันอะไรที่เราพอนึกออก มีอยู่ในรถยนต์คันนี้ทั้งหมดละครับ
ทั้งนี้การขับเอสยูวีที่ยกสูงขึ้นมานิด ด้วยระยะต่ำสุดจากพื้น 218 มม.ผู้เขียนชอบนะครับ เพราะให้ทัศนวิสัยมองไกลเห็นชัด จะมีแค่มุมมองผ่านกระจกหลังแคบไปสักนิด ขณะที่ตำแหน่งนั่งด้านหลังเห็นคนไปนั่งบอกว่าสบายดี แถมมีช่องแอร์แยกเย็นช่ำมาให้อีกต่างหาก
ในส่วนช่วงล่างการรองรับ ถ้าวิ่งบนถนนเรียบๆก็นุ่มสบาย แต่จะสะเทือนเด้งมากขึ้นเมื่อผ่านเนินหรือถนนไม่สมประกอบ ยิ่งในรุ่น AWD ช่วงล่างออกแนวหนึบแน่นแต่รับรู้ถึงอาการสะท้านจากพื้นถนนมากกว่ารุ่น 2WD อยู่นิดๆ
โดยช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ประกบล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยาง 235/50 R18 ของมิชิลิน ไพรมาซี 3เอสที (ใช้ยางดีด้วย) ซึ่งผู้เขียนไปสอบถามจนได้ความว่า รุ่น AWD จะเซ็ทโช้คอัพและค่าสปริงให้แข็งกว่ารุ่น 2WD เพื่อรับกับสมรรถนะสมบุกสมบันที่ต่างการใช้งานกันไป
อย่างไรก็ตาม การทรงตัวเมื่อขับขี่ความเร็วสูง “เอ็มจี จีเอส” ยังให้ความมั่นใจ ทั้งความนิ่งและแน่น อาการโยกโยนน้อยเมื่อเปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือลองสาดใส่ในโค้งแรงๆ
ส่วนจุดด้อยอาจจะมีบ้างตรงการสัมผัสใช้พวงมาลัยแบบแรคแอนพิเนียน อาจจะไม่เฉียบคม การสั่งงานต้องคอยเลี้ยงคอยประคองให้แม่นไปในทิศทางที่มุ่งไป
ด้านความแรงของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ไดเรกอินเจกชัน เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,500 - 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัทช์คู่ 6 สปีด ไม่มีปัญหาครับ เร่งแรงแซงฉลุย แต่ลักษณะของการตอบสนองออกแนวดุดัน กระทั้นกระแทก ทุกจังหวะของการกดคันเร่งถ้าไม่ประมาณการดีหรือไม่คุ้นชินนึกว่ากำลังขับรถแข่งครับ
ขณะที่อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.2 วินาที ในรุ่น 2WD และ 8.9 วินาที ในรุ่น 4WD (เพราะน้ำหนักตัวมากกว่า) ซึ่งเมื่อขับแบบลอยลมไปแล้ว ความเร็วเกิน 80 กม./ชม. ผู้เขียนว่าจีเอสเป็นเอสยูวีที่ขับสนุก ให้เปรียบเทียบอารมณ์ก็คล้ายๆ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” ทำนองนั้น (แต่ไม่ใช่ซีอาร์-วี แน่ๆ) ส่วนความเร็วสูงสุดล็อกไว้ 208 กม./ชม.
อัตราบริโภคน้ำมันในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเอ็มจีเคลมไว้ 12 กม./ลิตร แต่ผู้เขียนทำได้จากการลองขับทริปนี้ 8 กม./ลิตร ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ 9 กม./ลิตร ดูตัวเลขอาจจะน่าตกใจ แต่เอ็มจีบอกว่าการทดสอบครั้งนี้ใช้น้ำมันแก็สโซฮอล์ E85 (ที่เติมน้ำมันราคาถูกกว่า แต่เผาผลาญมากกว่า)
รวบรัดตัดความ...FAMILY,AFFORDABLE,FUN สามคำนี้สะท้อนความเป็นจีเอสได้เป็นอย่างดี ขณะที่ประเทศไทยยกระดับการสื่อสารด้วยคำว่า Follow no others “ไม่ตามใคร” หรือ “ตามใครไม่เป็น” ซึ่งหลังจากลองขับสัมผัสนั่งอยู่สองวัน ผู้เขียนก็เห็นจริงตามนั้นกับบุคลิกที่แตกต่างจากเอสยูวีทั่วไป โดยจีเอสออกแนวสปอร์ตขับสนุก แม้ความเนียนนุ่มอาจจะน้อยไปนิดในภาพรวม แต่จุดเด่นประเด็นขายต้องยกให้ออปชัน-ฟังก์ชันต่างๆที่ติดตั้งมาให้มากที่สุดในคลาส
ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน
รู้จักอินคาเนต...ทำอะไรได้บ้าง?
…3 คำนี้สะท้อนตัวตนของรถชัดเจนมาถึงประเทศไทย ยิ่งได้ลองขับยาวๆเส้นทางกรุงเทพ-กุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รู้สึกว่าจีเอสมีบุคลิกดังกล่าวจริงๆ โดยเฉพาะคำหลัง FUN
จะว่าไปก็ FUN มันทุกตัวละครับ ตั้งแต่ MG6 MG3 MG5 และล่าสุดกับเอสยูวี “จีเอส” ที่จริงๆควรเป็นรถครอบครัว ขับสบาย รองรับหลากหลายไลฟ์สไตล์ แต่ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่เอ็มจีมี ที่เอ็มจีใช้ ยังทำให้รถยนต์ทุกรุ่นกระเดียดอารมณ์ไปแนวสปอร์ตขับสนุก
สำหรับ “จีเอส” ผู้เขียนได้ลองทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ 2WD และขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่ราคาต่างกันหนึ่งแสนบาท ถ้ามองรูปลักษณ์ภายนอกต่างกันชัดเจน เพราะลายล้ออัลลอย18 นิ้วไม่เหมือนกัน ขณะที่รุ่น AWD จะมีราวหลังคา หรือเข้าไปนั่งภายในจะเห็นซันรูฟอยู่บนหัว
ส่วนออปชันที่ต่างกันนั้น ในรุ่นAWD จะเพิ่มระบบฉีดล้างไฟหน้า ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบแพดเดิลชิฟท์ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า (รุ่น 2WD ปรับไฟฟ้าเฉพาะฝั่งคนขับ) ซึ่งนอกเหนือจากนั้นมาพิมพ์เดียวกันหมด ทั้งออปชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย และการตกแต่ง
การตกแต่งภายในเน้นโทนสีดำออกแนวสปอร์ต วัสดุที่ใช้ดูดี คอนโซนกลางมีหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เพื่อควบคุมระบบอินคาเน็ต ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ เครื่องเสียง โทรศัพท์ และการตั้งค่าฟังก์ชันต่างๆเป็นต้น
สำหรับระบบอินคาเน็ต ถือเป็นระบบช่วยอำนวยความสะดวกให้คนขับที่รองรับการทำงานหลากหลาย(ดูในตารางด้านล่าง) ซึ่งการเป็นเจ้าของ “เอ็มจี จีเอส” หนึ่งคัน ก็เหมือนคุณจะได้มือถือใหม่หนึ่งเครื่อง พร้อมเบอร์ใหม่(ของทรู) เอาไว้ใช้สื่อสารกับโอเปอเรเตอร์ของอินคาเน็ตและโทรออกหาบุคคลอื่นๆได้ปกติ รวมถึงมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตในรถ(รถเหมือนเป็นฮอตสปอต) เชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้ตลอด ซึ่งเอ็มจีให้ใช้ระบบนี้ฟรี 5 ปี โดยแต่ละเดือนโทรออกได้ 100 นาที SMS 50 ครั้ง และใช้ดาต้า(อินเตอร์เน็ต)ได้ 500 MB (ความเร็วระดับ 3G)
…นอกเหนือจากระบบอินคาเน็ตที่ถือเป็นต้นทุนแล้ว ออปชันต่างๆถือว่า เอ็มจีใส่มาให้ไม่น้อยหน้าเอสยูวีคู่แข่งในตลาด เรียกว่ามีระบบหรือฟังก์ชันอะไรที่เราพอนึกออก มีอยู่ในรถยนต์คันนี้ทั้งหมดละครับ
ทั้งนี้การขับเอสยูวีที่ยกสูงขึ้นมานิด ด้วยระยะต่ำสุดจากพื้น 218 มม.ผู้เขียนชอบนะครับ เพราะให้ทัศนวิสัยมองไกลเห็นชัด จะมีแค่มุมมองผ่านกระจกหลังแคบไปสักนิด ขณะที่ตำแหน่งนั่งด้านหลังเห็นคนไปนั่งบอกว่าสบายดี แถมมีช่องแอร์แยกเย็นช่ำมาให้อีกต่างหาก
ในส่วนช่วงล่างการรองรับ ถ้าวิ่งบนถนนเรียบๆก็นุ่มสบาย แต่จะสะเทือนเด้งมากขึ้นเมื่อผ่านเนินหรือถนนไม่สมประกอบ ยิ่งในรุ่น AWD ช่วงล่างออกแนวหนึบแน่นแต่รับรู้ถึงอาการสะท้านจากพื้นถนนมากกว่ารุ่น 2WD อยู่นิดๆ
โดยช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ประกบล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยาง 235/50 R18 ของมิชิลิน ไพรมาซี 3เอสที (ใช้ยางดีด้วย) ซึ่งผู้เขียนไปสอบถามจนได้ความว่า รุ่น AWD จะเซ็ทโช้คอัพและค่าสปริงให้แข็งกว่ารุ่น 2WD เพื่อรับกับสมรรถนะสมบุกสมบันที่ต่างการใช้งานกันไป
อย่างไรก็ตาม การทรงตัวเมื่อขับขี่ความเร็วสูง “เอ็มจี จีเอส” ยังให้ความมั่นใจ ทั้งความนิ่งและแน่น อาการโยกโยนน้อยเมื่อเปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือลองสาดใส่ในโค้งแรงๆ
ส่วนจุดด้อยอาจจะมีบ้างตรงการสัมผัสใช้พวงมาลัยแบบแรคแอนพิเนียน อาจจะไม่เฉียบคม การสั่งงานต้องคอยเลี้ยงคอยประคองให้แม่นไปในทิศทางที่มุ่งไป
ด้านความแรงของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ไดเรกอินเจกชัน เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้าที่ 5,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 2,500 - 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัทช์คู่ 6 สปีด ไม่มีปัญหาครับ เร่งแรงแซงฉลุย แต่ลักษณะของการตอบสนองออกแนวดุดัน กระทั้นกระแทก ทุกจังหวะของการกดคันเร่งถ้าไม่ประมาณการดีหรือไม่คุ้นชินนึกว่ากำลังขับรถแข่งครับ
ขณะที่อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.2 วินาที ในรุ่น 2WD และ 8.9 วินาที ในรุ่น 4WD (เพราะน้ำหนักตัวมากกว่า) ซึ่งเมื่อขับแบบลอยลมไปแล้ว ความเร็วเกิน 80 กม./ชม. ผู้เขียนว่าจีเอสเป็นเอสยูวีที่ขับสนุก ให้เปรียบเทียบอารมณ์ก็คล้ายๆ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” ทำนองนั้น (แต่ไม่ใช่ซีอาร์-วี แน่ๆ) ส่วนความเร็วสูงสุดล็อกไว้ 208 กม./ชม.
อัตราบริโภคน้ำมันในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเอ็มจีเคลมไว้ 12 กม./ลิตร แต่ผู้เขียนทำได้จากการลองขับทริปนี้ 8 กม./ลิตร ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ 9 กม./ลิตร ดูตัวเลขอาจจะน่าตกใจ แต่เอ็มจีบอกว่าการทดสอบครั้งนี้ใช้น้ำมันแก็สโซฮอล์ E85 (ที่เติมน้ำมันราคาถูกกว่า แต่เผาผลาญมากกว่า)
รวบรัดตัดความ...FAMILY,AFFORDABLE,FUN สามคำนี้สะท้อนความเป็นจีเอสได้เป็นอย่างดี ขณะที่ประเทศไทยยกระดับการสื่อสารด้วยคำว่า Follow no others “ไม่ตามใคร” หรือ “ตามใครไม่เป็น” ซึ่งหลังจากลองขับสัมผัสนั่งอยู่สองวัน ผู้เขียนก็เห็นจริงตามนั้นกับบุคลิกที่แตกต่างจากเอสยูวีทั่วไป โดยจีเอสออกแนวสปอร์ตขับสนุก แม้ความเนียนนุ่มอาจจะน้อยไปนิดในภาพรวม แต่จุดเด่นประเด็นขายต้องยกให้ออปชัน-ฟังก์ชันต่างๆที่ติดตั้งมาให้มากที่สุดในคลาส
ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน
ถุงลมนิรภัย 4 จุด คู่หน้าและด้านข้าง |
ABS – Anti-lock Braking System ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน |
EBD – Electronic Brake Foce Distribution System ระบบช่วยกระจายแรงเบรก |
TCS – Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล |
CBC – Curve Brake Control ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง |
SCS – Stability Control System ระบบควบคุมการทรงตัว |
AVH – Auto Vehicle Hold ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง |
BDC - Intelligent Brake Disc Cleaning ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ |
OHBV – Optimized Hydraulic Brake Servo ระบบเพิ่มแรงดันไฮดรอลิคเบรกให้เหมาะสม |
MSR – Motor Control Slide Retainer ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน |
EBA – Electronic Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ |
HAS – Hill-Start Assist System ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน |
TPMS – Tire Pressure Monitor System ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง |
EPB – Electronic Parking Brake ระบบเบรกมือไฟฟ้า |
รู้จักอินคาเนต...ทำอะไรได้บ้าง?
ระบบนำทางรถยนต์ | ให้ข้อมูลระบบนำทางผ่าน Google Maps และผู้ใช้สามารถเช็คตำแหน่งรถยนต์ได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถติดตามตำแหน่งรถยนต์ผ่าน Call Centre ได้แบบ Real time |
แจ้งอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถ | - แจ้งพฤติกรรมการขับขี่ พร้อมแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถ โดยเปรียบเทียบเป็นค่าเฉลี่ย ทั้งแบบราย สัปดาห์และรายเดือน - เปรียบเทียบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถเอ็มจีของคุณกับรถเอ็มจีของคนอื่น เพื่อช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถและประหยัดน้ำมันมากขึ้น |
ระบบเลขาฯ ส่วนตัว | ติดต่อ MG Call Centre เพียงปลายนิ้วสัมผัส เพื่อสอบถามข้อมูลและขอรับคำแนะนำการช่วยเหลือเบื้องต้นต่างๆ รวมไปถึงการอำนวยความสะดวก โดยการส่งเส้นทางการเดินทาง (Point of Interest) มายังหน้าจอวิทยุรถยนต์โดยไม่ต้องค้นหาเองให้เสียเวลา |
ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ | ช่วยกำหนดขอบเขตรัศมีการขับรถยนต์ สามารถกำหนดไว้ตั้งแต่ 500 เมตร ไปถึง 10 กิโลเมตร จากศูนย์กลาง ในกรณีรถออกนอกรัศมีขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนด ระบบจะแจ้งเตือนผ่าน Push notification และส่งเอส เอ็ม เอส อีกด้วย |
วางแผนการเดินทาง | สามารถส่งแผนการเดินทางจากคอมพิวเตอร์ไปยังหน้าจอวิทยุรถยนต์ |
การตรวจวิเคราะห์รถยนต์ | - เช็คสถานะการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบเบรก ระบบถุงลมเบื้องต้นได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่น - ติดต่อ MG Call Centre เพื่อให้ช่วยตรวจสอบความผิดปกติของรถยนต์ และขอรับคำแนะนำการช่วยเหลือเบื้องต้นได้ทันที |
การตรวจสอบสถานะรถยนต์ | แจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบสถานะปัจจุบันของรถยนต์ว่าปิดอยู่หรือไม่ แจ้งระดับแบตเตอรี่ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและอุณหภูมิอากาศภายนอก |
การควบคุมการทำงานของรถยนต์ | เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ ด้วยการสั่งล็อค/ปลดล็อครถระยะไกลผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน หรือ MG Call Centre หรือจะเป็นการค้นหารถยนต์ด้วยฟังชั่น Find My Car ระบบจะสั่งให้รถเปิดไฟหน้า ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหารถในที่มืดได้ง่ายขึ้น |
การเตือนความผิดปกติของรถยนต์ | ระบบจะแจ้งเตือนความผิดปกติผ่านทาง Push notification บนแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน เมื่อรถมีการเคลื่อนที่ผิดปกติ หรือรถมีการสตาร์ทเครื่องยนต์ |
การโทรออกและรับสายผ่านหน้าจอวิทยุรถยนต์ | สามารถรับสายและโทรออก จากหน้าจอวิทยุรถยนต์ไปยังโทรศัพท์เครื่องอื่นได้ แม้มีไม่โทรศัพท์มือถืออยู่บนรถ หรือลืมพกโทรศัพท์มือถือ |
การรับและส่งข้อความผ่านหน้าจอวิทยุรถยนต์ | แม้ไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่บนรถ |
แชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านหน้าจอวิทยุรถยนต์ | สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านสัญญาณ WI-FI จากหน้าจอวิทยุรถยนต์ โดยวิทยุรถยนต์จะทำหน้าที่เสมือน WI-FI Router ให้เชื่อมต่อกับโลกได้ทุกที่ทุกเวลา |