จำได้ไหมว่า เครื่องยนต์ทรงพลังจากผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ เคยได้รางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ International Engine of the Year Award หรือไม่
ถ้าคุณติดตามรายงานของเวทีแจกรางวัลรายการนี้มาตั้งปี 1999 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้น คำตอบก็คือ ไม่มี
แต่เป็นไปแล้วในปี 2016 เมื่อ Ferrari กลายเป็นแบรนด์ซูเปอร์คาร์รายแรกที่คว้ารางวัลนี้ โดยขุมพลังวี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของรุ่น 488GTB ได้รับเลือกให้คว้ารางวัลสูงสุดของปี คือ International Engine of the Year Award 2016 หลังจากที่คว้ารางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมในกลุ่มเครื่องยนต์ 3,000-4,000 ซีซี
นอกจากนั้นยังได้รับโหวตให้คว้ารางวัลอีก 2 รางวัล นอกเหนือกจาก 2 รางวัลข้างต้น คือ The Best New Engine, The Best Performance Engine และเมื่อรวมกับอีกรางวัลในกลุ่ม Above 4,000 ซีซี หรือเครื่องยนต์ที่มีความจุเกิน 4,000 ซีซีซึ่งตกเป็นของขุมพลังวี12 6,300 ซีซี ของรุ่น F12 TDF แล้ว ในปีนี้ Ferrari คว้ารางวัลไปทั้งหมด 5 สาขาด้วยกัน
สำหรับเครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari ถูกวางอยู่ในรถสปอร์ต 488GTB ซึ่งเป็นตัวแทนของ 480 Italia สามารถรีดกำลังออกมาได้ 669 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 77.4 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ/นาที ใช้เทอร์โบคู่แบบ Twin-Scroll อ่างน้ำมันเครื่องแบบ Dry Sump แยกส่วนออกต่างหากเหมือนกับรถแข่ง มีแรงม้า/ลิตรอยู่ในระดับ 171.7/1 ลิตร ซึ่งเมื่ออยู่ในร่างของ 488GTB แล้ว ตัวรถมาพร้อมกับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 3 วินาที และ 8.3 วินาทีสำหรับ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง
รางวัลนี้จัดขึ้นโดยสำนักพิมพ์ Media & Events ในอังกฤษ ซึ่งที่นี่พิมพ์นิตยสารเกี่ยวกับวิศวกรรมยานยนต์ เช่น Automotive Testing Technology International, Tire Technology International, Electric & Hybrid Vehicle Technology International, Vehicle Dynamics International, Professional Motorsport World และ European Automotive Components News โดยรางวัลใหญ่คือ International Engine of the Year Award จะเป็นการนำผู้ชนะในแต่ละกลุ่มมาให้คณะรรมการ ซึ่งประกอบไปด้วยนักข่าว และผู้ทรงคุณวุฒิด้านข้าง คัดเลือกอีกครั้ง
การประกาศรางวัลในปี 2016 ประกอบไปด้วย
International Engine of the Year Award : เครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari
Best New Engine : เครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari
Best Fuel Economy/Green Engine : ระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งในรถยนต์ของ Tesla
Best Performance Engine : เครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari
กลุ่มที่มีความจุต่ำกว่า 1,000 ซีซี : เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,000 ซีซี เทอร์โบของ Ford
กลุ่ม 1,000-1,400 ซีซี : เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,200 ซีซี เทอร์โบ ของกลุ่ม PSA (Peugeot+Citroen)
กลุ่ม 1,400-1,800 ซีซี : เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบ ไฮบริดของ BMW
กลุ่ม 1,800-2,000 ซีซี : เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบของ Mercedes-AMG
กลุ่ม 2,000-2,500 ซีซี : เครื่องยนต์ 5 สูบ 2,500 ซีซี เทอร์โบของ Audi
กลุ่ม 2,500-3,000 ซีซี : เครื่องยนต์ 6 สูบนอน 3,000 ซีซี ทวินเทอร์ของ Porsche
กลุ่ม 3,000-4,000 ซีซี : เครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari
เกิน 4,000 ซีซี : เครื่องยนต์วี12 6,300 ซีซีของ Ferrari
ถ้าคุณติดตามรายงานของเวทีแจกรางวัลรายการนี้มาตั้งปี 1999 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้น คำตอบก็คือ ไม่มี
แต่เป็นไปแล้วในปี 2016 เมื่อ Ferrari กลายเป็นแบรนด์ซูเปอร์คาร์รายแรกที่คว้ารางวัลนี้ โดยขุมพลังวี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของรุ่น 488GTB ได้รับเลือกให้คว้ารางวัลสูงสุดของปี คือ International Engine of the Year Award 2016 หลังจากที่คว้ารางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมในกลุ่มเครื่องยนต์ 3,000-4,000 ซีซี
นอกจากนั้นยังได้รับโหวตให้คว้ารางวัลอีก 2 รางวัล นอกเหนือกจาก 2 รางวัลข้างต้น คือ The Best New Engine, The Best Performance Engine และเมื่อรวมกับอีกรางวัลในกลุ่ม Above 4,000 ซีซี หรือเครื่องยนต์ที่มีความจุเกิน 4,000 ซีซีซึ่งตกเป็นของขุมพลังวี12 6,300 ซีซี ของรุ่น F12 TDF แล้ว ในปีนี้ Ferrari คว้ารางวัลไปทั้งหมด 5 สาขาด้วยกัน
สำหรับเครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari ถูกวางอยู่ในรถสปอร์ต 488GTB ซึ่งเป็นตัวแทนของ 480 Italia สามารถรีดกำลังออกมาได้ 669 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 77.4 กก.-ม. ที่ 3,000 รอบ/นาที ใช้เทอร์โบคู่แบบ Twin-Scroll อ่างน้ำมันเครื่องแบบ Dry Sump แยกส่วนออกต่างหากเหมือนกับรถแข่ง มีแรงม้า/ลิตรอยู่ในระดับ 171.7/1 ลิตร ซึ่งเมื่ออยู่ในร่างของ 488GTB แล้ว ตัวรถมาพร้อมกับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 3 วินาที และ 8.3 วินาทีสำหรับ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง
รางวัลนี้จัดขึ้นโดยสำนักพิมพ์ Media & Events ในอังกฤษ ซึ่งที่นี่พิมพ์นิตยสารเกี่ยวกับวิศวกรรมยานยนต์ เช่น Automotive Testing Technology International, Tire Technology International, Electric & Hybrid Vehicle Technology International, Vehicle Dynamics International, Professional Motorsport World และ European Automotive Components News โดยรางวัลใหญ่คือ International Engine of the Year Award จะเป็นการนำผู้ชนะในแต่ละกลุ่มมาให้คณะรรมการ ซึ่งประกอบไปด้วยนักข่าว และผู้ทรงคุณวุฒิด้านข้าง คัดเลือกอีกครั้ง
การประกาศรางวัลในปี 2016 ประกอบไปด้วย
International Engine of the Year Award : เครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari
Best New Engine : เครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari
Best Fuel Economy/Green Engine : ระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งในรถยนต์ของ Tesla
Best Performance Engine : เครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari
กลุ่มที่มีความจุต่ำกว่า 1,000 ซีซี : เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,000 ซีซี เทอร์โบของ Ford
กลุ่ม 1,000-1,400 ซีซี : เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,200 ซีซี เทอร์โบ ของกลุ่ม PSA (Peugeot+Citroen)
กลุ่ม 1,400-1,800 ซีซี : เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบ ไฮบริดของ BMW
กลุ่ม 1,800-2,000 ซีซี : เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบของ Mercedes-AMG
กลุ่ม 2,000-2,500 ซีซี : เครื่องยนต์ 5 สูบ 2,500 ซีซี เทอร์โบของ Audi
กลุ่ม 2,500-3,000 ซีซี : เครื่องยนต์ 6 สูบนอน 3,000 ซีซี ทวินเทอร์ของ Porsche
กลุ่ม 3,000-4,000 ซีซี : เครื่องยนต์วี8 3,900 ซีซี เทอร์โบคู่ของ Ferrari
เกิน 4,000 ซีซี : เครื่องยนต์วี12 6,300 ซีซีของ Ferrari