ข่าวในประเทศ-ผู้ประกอบการนำเข้าบิ๊กไบค์ญี่ปุ่นในไทยตายเรียบ เหตุสู้ผลกระทบส่วนต่างภาษีกับค่ายผู้ผลิตไม่ไหว โดยเฉพาะปีหน้าจากข้อตกลงการค้า เจเทปปา ภาษีนำเข้าเหลือ 0% ด้านเกรย์มาร์เก็ตเจ้าใหญ่ “เรดบารอน” ชี้ถึงเวลาปรับรูปแบบธุรกิจ หันหน้าลุยตลาดรถมือสอง ชูบริการหลังการขายเด่นพร้อมการรับประกัน เชื่อผลตอบรับดีและมีแนวโน้วเติบโตสวนทางกลุ่มรถใหม่ที่เริ่มชะลอตัว
วิกรม มนตรีโชค ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ออโต้เซ็นเตอร์ การประมูล จำกัด ผู้นำเข้ารถจักรยานยนต์อิสระในชื่อ “เรดบารอน” เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประกอบการนำเข้ารถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ในไทย ต่างทยอยเลิกกิจการไปเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่น เนื่องจากไม่สามารถทำราคาแข่งขันกับบริษัทผู้ผลิตได้ โดยที่เหลืออยู่ขณะนี้มีเพียงแบรนด์จากยุโรปหรืออเมริกาเท่านั้น
“สมัยก่อนทั้งค่ายรถและผู้นำเข้าอิสระต้องเสียภาษีนำเข้าเหมือนกัน แต่ปัจจุบันจากข้อตกลงการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นหรือเจเทปปา (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement : JTEPA) ที่มีผลต่อการลดภาษีนำเข้าในทุกๆ ปีเรื่อยมา ปีนี้อยู่ที่ 6% และในปีหน้าจะเหลือ 0% เมื่อเทียบกับผู้นำเข้าอิสระที่ต้องเสีย 60% จากราคานำเข้าหรือในอินวอย ซึ่งส่วนต่างดังกล่าวส่งผลกระทบให้ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้แน่นอน”
ดังนั้นผู้ประกอบการทั้งหลายจึงต้องปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป สำหรับเรดบารอนที่ดำเนินธุรกิจนำเข้าบิ๊กไบค์จากประเทศญี่ปุ่นมาทำตลาดในไทยร่วม 20 ปี ตอนนี้ได้เวลาเปลี่ยนรูปแบบมุ่งทำตลาดรถมือสอง ขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 300 ซีซี. ขึ้นไป โดยยังคงเน้นการจำหน่ายรถแบรนด์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม พร้อมขยายส่วนงานบริการหลังการขายให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น
“การปรับรูปแบบครั้งนี้กลับไปเหมือนเรดบารอนที่ญี่ปุ่นจริงๆ คือ ทำตลาดรถมือสองในประเทศเป็นหลัก และไม่ได้ขายอย่างเดียวแล้วจบ เพราะเรามีจุดแข็งอยู่ที่งานบริการหลังการขาย มีศูนย์เซอร์วิสและรองรับอะไหล่ รวมถึงการรับประกัน ซึ่งตอนนี้เรากำลังปรับปรุงสถานที่ใหม่ อบรมบุคลากร ตลอดจนใช้เครื่องมือใหม่ มั่นใจว่าพร้อมดูแลลูกค้าทุกขั้นตอน”
วิกรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ในไทย แม้กลุ่มรถใหม่ยังมีอัตราการเติบโตที่ชัดเจน แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ส่งผลกระทบถึงทุกภาคส่วน ไม่เว้นกระทั่งตลาดบิ๊กไบค์ที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ขณะที่ทางเลือกกลุ่มรถมือสองจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการเริ่มทดลองปรับรูปแบบธุรกิจตั้งแต่ 2 ปีก่อน ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดีเกินคาด
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
วิกรม มนตรีโชค ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ออโต้เซ็นเตอร์ การประมูล จำกัด ผู้นำเข้ารถจักรยานยนต์อิสระในชื่อ “เรดบารอน” เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประกอบการนำเข้ารถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ในไทย ต่างทยอยเลิกกิจการไปเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่น เนื่องจากไม่สามารถทำราคาแข่งขันกับบริษัทผู้ผลิตได้ โดยที่เหลืออยู่ขณะนี้มีเพียงแบรนด์จากยุโรปหรืออเมริกาเท่านั้น
“สมัยก่อนทั้งค่ายรถและผู้นำเข้าอิสระต้องเสียภาษีนำเข้าเหมือนกัน แต่ปัจจุบันจากข้อตกลงการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นหรือเจเทปปา (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement : JTEPA) ที่มีผลต่อการลดภาษีนำเข้าในทุกๆ ปีเรื่อยมา ปีนี้อยู่ที่ 6% และในปีหน้าจะเหลือ 0% เมื่อเทียบกับผู้นำเข้าอิสระที่ต้องเสีย 60% จากราคานำเข้าหรือในอินวอย ซึ่งส่วนต่างดังกล่าวส่งผลกระทบให้ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้แน่นอน”
ดังนั้นผู้ประกอบการทั้งหลายจึงต้องปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป สำหรับเรดบารอนที่ดำเนินธุรกิจนำเข้าบิ๊กไบค์จากประเทศญี่ปุ่นมาทำตลาดในไทยร่วม 20 ปี ตอนนี้ได้เวลาเปลี่ยนรูปแบบมุ่งทำตลาดรถมือสอง ขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 300 ซีซี. ขึ้นไป โดยยังคงเน้นการจำหน่ายรถแบรนด์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม พร้อมขยายส่วนงานบริการหลังการขายให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น
“การปรับรูปแบบครั้งนี้กลับไปเหมือนเรดบารอนที่ญี่ปุ่นจริงๆ คือ ทำตลาดรถมือสองในประเทศเป็นหลัก และไม่ได้ขายอย่างเดียวแล้วจบ เพราะเรามีจุดแข็งอยู่ที่งานบริการหลังการขาย มีศูนย์เซอร์วิสและรองรับอะไหล่ รวมถึงการรับประกัน ซึ่งตอนนี้เรากำลังปรับปรุงสถานที่ใหม่ อบรมบุคลากร ตลอดจนใช้เครื่องมือใหม่ มั่นใจว่าพร้อมดูแลลูกค้าทุกขั้นตอน”
วิกรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ในไทย แม้กลุ่มรถใหม่ยังมีอัตราการเติบโตที่ชัดเจน แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ส่งผลกระทบถึงทุกภาคส่วน ไม่เว้นกระทั่งตลาดบิ๊กไบค์ที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว ขณะที่ทางเลือกกลุ่มรถมือสองจะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการเริ่มทดลองปรับรูปแบบธุรกิจตั้งแต่ 2 ปีก่อน ซึ่งได้ผลตอบรับค่อนข้างดีเกินคาด
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring