xs
xsm
sm
md
lg

ณัฐพล ไตรณัฐี...“BMF 2016คือจุดนัดพบของคนรักสองล้อ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐพล ไตรณัฐ
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 สำหรับเทศกาลมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำในช่วงต้นปีอย่าง “แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2016” (BMF 2016) โดยผู้จัดงาน “ณัฐพล ไตรณัฐี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเคิล คัลเจอร์ โชว์ จำกัด เผยถึงความพร้อมในปีนี้ว่า มีแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำเข้าร่วมงาน 13 ค่าย พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งและชุดแต่งกายกว่า 40 ยี่ห้อ คาดมีผู้ชมงานกว่า 1.2 ล้านคน มั่นใจยอดขายพุ่ง 20% ดันเงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาท
ภาพบรรยากาศงานปีที่ผ่านมา
สองล้อแบรนด์ดังร่วมงาน

ปีนี้มีค่ายรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำเข้าร่วมงาน 13 ค่าย ประกอบด้วย BMW, Benelli, Honda, Indian, Kawasaki, KTM, Suzuki, Scomadi, Ural, Vespa, Victory, Yamaha และ Zero Engineering พร้อมทั้งร้านค้าอุปกรณ์ของตกแต่งและชุดแต่งกายกว่า 40 แบรนด์ชั้นนำจากกลุ่มผู้ประกอบการชาวไทยและจากต่างประเทศ โดยมีคอนเซ็ปต์การจัดงานในปีนี้ว่า “Ride With Respect” สะท้อนความตั้งใจในการให้ชาวไบค์เกอร์ร่วมกันสร้างสรรค์วัฒนธรรมการขับขี่อันดีงาม รวมถึงการแสดงน้ำใจที่มีให้กันบนท้องถนน

พื้นที่จัดแสดงและกิจกรรมต่างๆ

ยังคงยึดความโดดเด่นของพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินทางได้สะดวก สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) โดยใช้พื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ทั้งภายในและบริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้า พร้อมใช้งบประมาณกว่า 15 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนอยู่ที่ 12 ล้านบาท ในการบริหารจัดการและนำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจตลอด 5 วันของการจัดงาน ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 27-31 มกราคมนี้
ภาพบรรยากาศงานปีที่ผ่านมา
โดยพื้นที่การจัดงานภายในศูนย์การค้ายังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ โดยค่ายรถต่างๆ จะนำรถรุ่นไฮไลท์มาจัดแสดงและเปิดรับจองด้วยแคมเปญพิเศษที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างค่ายรถและสถาบันทางการเงินชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ของแถมส่วนลด ฟรีกันภัย และของตกแต่งรถอีกมากมาย บางค่ายรถมอเตอร์ไซค์จะใช้งานนี้ เป็นเวทีในการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีกด้วย

ขณะที่ลานด้านหน้าศูนย์การค้าฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับการจอดรถมอเตอร์ไซค์ได้มากกว่า 1,000 คัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการจัดงานให้มีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลเป็นจุดนัดพบของคนรักสองล้อ ภายใต้บรรยากาศเฉลิมฉลองสไตล์งานเฟสติวัล สมกับชื่องาน “Bangkok Motorbike Festival” มากกว่าการคำนึงถึงการขายพื้นที่บูธ ถือเป็นการตอบสนองกระแสความนิยมรถบิ๊กไบค์ที่มีทั้งปริมาณรถ และผู้รักการขับขี่ที่มาร่วมงานมากขึ้น

ขณะเดียวกันด้านกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศงานอย่างจุใจ ทั้งโซนแสดงรถคัสตอมไบค์, โซน Motorcycle Club, การประกวดตกแต่งมอเตอร์ไซค์จากค่ายรถและสำนักแต่งรถต่างๆ ซึ่งเนรมิตพื้นที่ลานหน้าเซ็นทรัล เวิลด์ เปิดเป็นลานกิจกรรม โดยเฉพาะช่วงเย็นมีลานเบียร์และดนตรีสด เพื่อให้เป็นมุมพบปะสังสรรค์ของชาวไบค์เกอร์ทุกคน
ภาพบรรยากาศงานปีที่ผ่านมา
มั่นใจยอดขายเติบโตต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมความสำเร็จการจัดงาน ในปีนี้เราจัดขึ้นเป็นปีที่ 8 ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นตัวชี้วัดการเติบโตของตลาดรถบิ๊กไบค์ และกระแสความนิยมของผู้ขับขี่ได้เช่นกัน สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้รถบิ๊กไบค์อย่างแท้จริง เป็นงานที่คนรักการขับขี่จะมาพบปะแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน เป็นที่รวบรวมอุปกรณ์ของแต่ง คอลเลคชั่นเครื่องแต่งกาย และรถมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมากที่สุด มีการจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษสุดจริงๆ

โดยปีที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายรถกว่า 1,000 คัน มีเงินสะพัด รวมมูลค่าอุปกรณ์ของตกแต่ง มากกว่า 500 ล้านบาท ส่วนปี 2559 คาดว่าจะมียอดจำหน่ายรถประมาณ 1,200 คัน มีเงินสะพัดราว 600 ล้านบาท มีผู้เข้าชมงานกว่า 1.2 ล้านคน
ภาพบรรยากาศงานปีที่ผ่านมา
ตลาดบิ๊กไบค์แรงไม่มีตก

จากข้อมูลการจดทะเบียนกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม พบว่า ปี 2558 ที่ผ่านมา รถบิ๊กไบค์ ขนาดความจุ 400 ซีซี. ขึ้นไป มีปริมาณการจดทะเบียนกว่า 19,000 คัน เติบโตมากกว่าปี 2557 ราว 20% ซึ่งเป็นไปตามที่ค่ายผู้ผลิตรถคาดการณ์ไว้ โดยได้รับปัจจัยหนุนหลายด้าน ไม่ว่าผู้ขับขี่เปลี่ยนรสนิยมหันมาใช้รถที่มีขนาดความจุซีซีที่ใหญ่ขึ้น, อัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถบิ๊กไบค์จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น หรือ JTEPA จะลดลงเรื่อยๆ รวมทั้งค่ายผู้ผลิตรถชั้นนำจากยุโรปได้เข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิต ส่งผลให้ราคาจำหน่ายถูกลง

ปีนี้รถที่นำเข้าจากญี่ปุ่นจะมีฐานภาษีจัดเก็บราว 5-6% ที่สำคัญคือ สถาบันการเงินหลายรายเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันในการเสนออัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ลดความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดรถบิ๊กไบค์ในปีนี้เติบโตในระดับ 20% เท่ากับปี 2558 คาดว่าน่าจะมียอดขายราว 23,000 คัน

ขณะที่กลุ่มรถมิดไซส์หรือรถขนาดกลางจะได้รับความนิยมสูงขึ้น เนื่องจากมีระดับราคาถูกลง ทั้งจากภาษีนำเข้าที่ลดลง และผู้ผลิตหลายรายเข้ามาทำตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น แน่นอนว่า ด้วยปัจจัยบวกหลายด้าน ทำให้มั่นใจว่าการจัดงานของเราในปีนี้จะประสบความสำเร็จแน่นอน ทั้งปริมาณจำหน่ายรถในงาน จำนวนผู้ชม และความสำเร็จของค่ายรถและบริษัทห้างร้านอุปกรณ์ของตกแต่ง ซึ่งสามารถจะไปต่อยอดธุรกิจของตัวเองได้หลังจากได้ร่วมงานกับเรา

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น