ข่าวในประเทศ-ค่ายสองล้อคาวาซากิเปิดตัว Ninja ZX-10R 2016 ชูสมรรถนะสายพันธุ์แชมป์จากสนามแข่งระดับโลกในรายการ World Superbike สู่สปอร์ตไบค์ตัวแรงบนท้องถนน เคาะราคาจำหน่าย 679,000 บาท พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
มิทสึฮิโกะ โอคาดะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เผยโฉมโมเดลรถสนามแข่งขันระดับโลกสู่โมเดลรถบนท้องถนนระดับไฮคลาส นั่นคือ Ninja ZX-10R โดยให้ผู้ชื่นชอบสามารถเป็นเจ้าของได้ ซึ่งยังคงพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไว้ในจักรยานยนต์เพื่อความสมบูรณ์แบบ สร้างความมั่นใจกับผู้ขับขี่ว่าจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างแท้จริง และรถรุ่นนี้ได้ทำผลงานสุดอลังการในรายการ World Superbike Championship 2015 โดยคว้า Double Champion ทั้งในฐานะนักแข่งจาก Jonathan Rea และในฐานะผู้ผลิตชั้นนำ ถือเป็นรถจักรยานยนต์สปอร์ตระดับ World Championship ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
Ninja ZX-10R 2016 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 998 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ออกแบบให้พละกำลังที่มีประสิทธิภาพสูง ช่องไอดีใหม่ที่ตรงและกว้างมากขึ้น ช่วยให้การไหลผ่านเป็นไปด้วยความรวดเร็ว จึงทำให้เกิดการผสมน้ำมันและอากาศมีปริมาณมากขึ้น รูปทรงของห้องเผาไหม้ที่ถูกปรับปรุงใหม่เพื่อรองรับเครื่องยนต์ ที่มีพละกำลังสูงขึ้น ลูกสูบผลิตจากวัสดุใหม่ที่ทนความร้อนสูงช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งอีกทั้งกระโปรงลูกสูบเคลือบฟิล์มหล่อลื่นแบบแห้ง เพื่อลดแรงเสียดทานในช่วงรอบต่ำ กระบวนการขัดแต่งเพลาข้อเหวี่ยงที่ปรับสมรรถนะให้เพิ่มขึ้น 20% ซึ่งเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญส่งผลต่อสมรรถนะโดยรวมของตัวรถไม่ว่าจะการเร่งความเร็ว การลดความเร็ว และการเข้าโค้งได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับเฟรมคู่อลูมิเนียมที่แข็งแกร่งผสานกับเทคโนโลยีโช้กอัพจาก Showa ซึ่ง Ninja ZX-10R มีจุดเด่นที่โช้กหน้าซึ่งพัฒนาร่วมกับ Showa ในการแข่งขัน Superbike World championship เทคโนโลยีนี้ส่งตรงมาจากรถแข่งของทีมโรงงานคาวาซากิ และได้ผลิตออกสู่ท้องตลาดครั้งแรกคือ ตัวซับแทงค์ภายนอกบรรจุแก๊สไนโตรเจนเพื่อช่วยจัดการกับความดันที่เพิ่มขึ้นภายในโช้ก และให้ความดันคงที่มากขึ้น ให้ความสบายเมื่อขับขี่ทั้งในความเร็วต่ำและความเร็วสูง
ในส่วนของระบบกันสะเทือนหลังทำองศาใหม่เพื่อสร้างสมดุลย์ในการขับขี่ทั้งทางตรงและทางโค้งด้วยระบบ BFRC-Lite (Balance Free Rear Cushion) พร้อมทั้งปรับโหมดของระบบป้องกันการลื่นไหลหรือ Traction Control ให้สมดุลย์ยิ่งขึ้น สามารถปรับได้ 5 ระดับพร้อมกับเข้าถึงเรซซิ่งสไตล์มากยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้ง Kawasaki Quick Shifter และมั่นใจในการเบรกด้วยระบบเบรก Brembo อันเลื่องชื่อโดยในระหว่างที่ KIBS ทำงาน จะผสานการทำงานของ ABS เพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของรถได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงจากล้อด้านหลังที่ยกขึ้นได้ พร้อมกับการป้องกันการพยศด้วยกันสะบัดจาก Öhlins ในส่วนของสวิงอาร์มที่ยาวขึ้น (+15.8 มม) เพิ่มน้ำหนักในช่วงหน้า ทำให้เกิดผลดีต่อการเบรก, การเลี้ยว และเมื่อพลิกรถจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง จะเห็นได้ถึงแรงบิดที่กระทำกับสวิงอาร์มลดลง ส่งผลให้มีความคล่องตัวและรวดเร็วในการเข้าโค้ง
ด้านหน้าปัดจอดิจิตอลปรับปรุงใหม่ โดยใส่ KLCM (Kawasaki Engine Brake Control) และ KQS เข้าไว้ด้วย เช่นเดียวกันกับไฟเตือนของ IMU เซ็นเซอร์ไฟที่ฝังในเรือนไมล์จะปรับความสว่างของจอ LED และ LCD อัตโนมัติ และเบาะหลังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ซึ่งเข้ากันดีกับช่วงท้าย LED ดีไซน์ใหม่ให้ความเฉียบคม ฝาครอบเบาะหลังอุปกรณ์แต่งเสริมภาพความเป็นรถแข่งให้กับตัวรถ
Ninja ZX-10R 2016 มาพร้อมกับสีเขียว Lime Green เอกลักษณ์ทีมแข่ง KRT (Kawasaki Racing Team) ราคาจำหน่ายเปิดตัวอยู่ที่ 679,000 บาท โดยคาวาซากิพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
มิทสึฮิโกะ โอคาดะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เผยโฉมโมเดลรถสนามแข่งขันระดับโลกสู่โมเดลรถบนท้องถนนระดับไฮคลาส นั่นคือ Ninja ZX-10R โดยให้ผู้ชื่นชอบสามารถเป็นเจ้าของได้ ซึ่งยังคงพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไว้ในจักรยานยนต์เพื่อความสมบูรณ์แบบ สร้างความมั่นใจกับผู้ขับขี่ว่าจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างแท้จริง และรถรุ่นนี้ได้ทำผลงานสุดอลังการในรายการ World Superbike Championship 2015 โดยคว้า Double Champion ทั้งในฐานะนักแข่งจาก Jonathan Rea และในฐานะผู้ผลิตชั้นนำ ถือเป็นรถจักรยานยนต์สปอร์ตระดับ World Championship ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
Ninja ZX-10R 2016 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 998 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ออกแบบให้พละกำลังที่มีประสิทธิภาพสูง ช่องไอดีใหม่ที่ตรงและกว้างมากขึ้น ช่วยให้การไหลผ่านเป็นไปด้วยความรวดเร็ว จึงทำให้เกิดการผสมน้ำมันและอากาศมีปริมาณมากขึ้น รูปทรงของห้องเผาไหม้ที่ถูกปรับปรุงใหม่เพื่อรองรับเครื่องยนต์ ที่มีพละกำลังสูงขึ้น ลูกสูบผลิตจากวัสดุใหม่ที่ทนความร้อนสูงช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งอีกทั้งกระโปรงลูกสูบเคลือบฟิล์มหล่อลื่นแบบแห้ง เพื่อลดแรงเสียดทานในช่วงรอบต่ำ กระบวนการขัดแต่งเพลาข้อเหวี่ยงที่ปรับสมรรถนะให้เพิ่มขึ้น 20% ซึ่งเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญส่งผลต่อสมรรถนะโดยรวมของตัวรถไม่ว่าจะการเร่งความเร็ว การลดความเร็ว และการเข้าโค้งได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับเฟรมคู่อลูมิเนียมที่แข็งแกร่งผสานกับเทคโนโลยีโช้กอัพจาก Showa ซึ่ง Ninja ZX-10R มีจุดเด่นที่โช้กหน้าซึ่งพัฒนาร่วมกับ Showa ในการแข่งขัน Superbike World championship เทคโนโลยีนี้ส่งตรงมาจากรถแข่งของทีมโรงงานคาวาซากิ และได้ผลิตออกสู่ท้องตลาดครั้งแรกคือ ตัวซับแทงค์ภายนอกบรรจุแก๊สไนโตรเจนเพื่อช่วยจัดการกับความดันที่เพิ่มขึ้นภายในโช้ก และให้ความดันคงที่มากขึ้น ให้ความสบายเมื่อขับขี่ทั้งในความเร็วต่ำและความเร็วสูง
ในส่วนของระบบกันสะเทือนหลังทำองศาใหม่เพื่อสร้างสมดุลย์ในการขับขี่ทั้งทางตรงและทางโค้งด้วยระบบ BFRC-Lite (Balance Free Rear Cushion) พร้อมทั้งปรับโหมดของระบบป้องกันการลื่นไหลหรือ Traction Control ให้สมดุลย์ยิ่งขึ้น สามารถปรับได้ 5 ระดับพร้อมกับเข้าถึงเรซซิ่งสไตล์มากยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้ง Kawasaki Quick Shifter และมั่นใจในการเบรกด้วยระบบเบรก Brembo อันเลื่องชื่อโดยในระหว่างที่ KIBS ทำงาน จะผสานการทำงานของ ABS เพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของรถได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงจากล้อด้านหลังที่ยกขึ้นได้ พร้อมกับการป้องกันการพยศด้วยกันสะบัดจาก Öhlins ในส่วนของสวิงอาร์มที่ยาวขึ้น (+15.8 มม) เพิ่มน้ำหนักในช่วงหน้า ทำให้เกิดผลดีต่อการเบรก, การเลี้ยว และเมื่อพลิกรถจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง จะเห็นได้ถึงแรงบิดที่กระทำกับสวิงอาร์มลดลง ส่งผลให้มีความคล่องตัวและรวดเร็วในการเข้าโค้ง
ด้านหน้าปัดจอดิจิตอลปรับปรุงใหม่ โดยใส่ KLCM (Kawasaki Engine Brake Control) และ KQS เข้าไว้ด้วย เช่นเดียวกันกับไฟเตือนของ IMU เซ็นเซอร์ไฟที่ฝังในเรือนไมล์จะปรับความสว่างของจอ LED และ LCD อัตโนมัติ และเบาะหลังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ซึ่งเข้ากันดีกับช่วงท้าย LED ดีไซน์ใหม่ให้ความเฉียบคม ฝาครอบเบาะหลังอุปกรณ์แต่งเสริมภาพความเป็นรถแข่งให้กับตัวรถ
Ninja ZX-10R 2016 มาพร้อมกับสีเขียว Lime Green เอกลักษณ์ทีมแข่ง KRT (Kawasaki Racing Team) ราคาจำหน่ายเปิดตัวอยู่ที่ 679,000 บาท โดยคาวาซากิพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring