ตลาดรถหรูคึกคักทีเดียว ไม่เพียงจะมีเฉพาะเจ้าตลาด “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ที่เปิดตัวรถใหม่ และจัดกิจกรรมตลาด พร้อมส่งโปรแกรมเช่าซื้อล่อใจสุดๆ ผ่อนต่อเดือนเพียง 1% ของราคารถ เพราะหลายค่ายรถหรูต่างขยับเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น “จากัวร์-แลนด์โรเวอร์” และ “วอลโว่” ต่างเดินหน้าชนอัดโปรโมชั่นดันยอดขายโค้งสุดท้ายร้อนแรงไม่แพ้กัน...
ทั้งนี้เห็นได้จากซิตี้ ออโตโมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ “จากัวร์” และ “แลนด์โรเวอร์” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดโปรโมชั่นใหญ่ช่วงท้ายปีเอาใจแฟนสองแบรนด์ดังจากสหราชอาณาจักร นำเสนอยานยนต์ 5 รุ่นยอดนิยมที่โดดเด่นทั้งสมรรถนะ ฟังก์ชั่น และดีไซน์ ให้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ที่ใช่ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าที่เคย ตลอดเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2558 นี้
โดยรถทั้ง 5 รุ่นที่นำมาจัดโปรโมชั่น ประกอบด้วย Jaguar XF 2.2 ลิตร I4 Td Portfolio เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท, Range Rover Autobiography 5.0 ลิตร V8SC เริ่มต้น 12.99 ล้านบาท , Range Rover Vogue 5.0 ลิตร V8SC เริ่มต้น 11.49 ล้านบาท, Freelander 2.2 ลิตร SD4 190Ps HSE เริ่มต้น 3.89 ล้านบาท และ Range Rover Evoque SD4 Dynamic เริ่มต้น 4.39 ล้านบาท โดยรถยนต์แต่ละรุ่นมีจำนวนจำกัดตามสต็อคสินค้า บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การจำหน่ายตามลำดับการสั่งจอง
ทั้งนี้ตามรายงานข่าวการปรับราคาครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ตลาด และรถที่นำมาจัดโปรโมชั่นเป็นรุ่นปี 2013-2014 อย่างรุ่น Range Rover Evoque SD4 Dynamic เดิมราคาอยู่ที่ 4.79 ล้านบาท ปรับราคาพิเศษเป็น 4.39 ล้านบาท หรือรุ่น Jaguar XF 2.2 ลิตร เดิมมีราคาจำหน่าย 4.699 ล้านบาท ซึ่งซิตี้ ออโตโมบิล ต้องการระบายสต็อกบางรุ่น เพื่อเตรียมรับโฉมใหม่ที่มีทั้งไมเนอร์เชนจ์ และโมเดลเชนจ์ เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปลายปี และในช่วงปีหน้า 2559 เป็นต้นไป
เช่นเดียวกับบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด มอบข้อเสนอราคาพิเศษอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กับรถยนต์วอลโว่ 4 รุ่น ได้แก่ S60 T4F(S) V60 T4F XC60 D4 iArt (เครื่องยนต์ดีเซล) และ S80 D4 i-Art (เครื่องยนต์ดีเซล) ที่มากับระบบความปลอดภัยชั้นนำ ในจำนวนจำกัดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายน
โดยวอลโว่ S60T4F (S) เป็นรถซีดานสไตล์สปอร์ต ปราดเปรียว เปี่ยมด้วยพละกำลัง 180 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ แบบพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด โดดเด่นด้วยระบบความปลอดภัยที่รถยนต์ในระดับเดียวกันไม่มี อาทิ ระบบแจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับสายตาด้านข้างและหลังรถ (Blind Spot Information System - BLIS) ระบบตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ (City Safety, Pedestrian and Cyclist Detection with Full Auto Brake) เมื่อระบบตรวจพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ คนเดินถนน และจักรยานที่อยู่ในเส้นทางเดินรถ ซึ่งปกติราคา 2.199 ล้านบาท แต่สามารถซื้อได้ในราคาเดียวกับ V40 Cross Country 1.92 ล้านบาท
ส่วนวอลโว่ XC60D4 i-Art รถครอสโอเวอร์เครื่องยนต์ดีเซล ที่มีแรงบิดสูงถึง 400 นิวตันเมตร 181 แรงม้า เหมาะในการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยขึ้นด้วย i-Art เทคโนโลยี ที่หัวฉีดสามารถฉีดเชื้อเพลิงได้ละเอียดเป็นฝอยมากยิ่งขึ้น พร้อมคอมพิวเตอร์ที่คอยสอดส่องและปรับเปลี่ยนการฉีดน้ำมันในแต่ละกระบอกสูบให้ได้ประสิทธิภาพในการเผาไหม้และพละกำลังสูงสุด ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ปล่อยไอเสียต่ำลง และเครื่องยนต์เดินเงียบยิ่งขึ้น โดยมีอัตราการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยใน-นอกเมือง อยู่ที่ 21.3 กม./ลิตร โดยวอลโว่ XC60 D4 i-Art ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยระดับเวิลด์คลาส เช่นเดียวกับ วอลโว่ S60T4F มอบราคาพิเศษ 2.949 ล้านบาท เท่ากับในรุ่น XC60 T5 เครื่องยนต์เบนซิน จากราคาปกติ 3.179 ล้านบาท
หากผู้ชื่นชอบรถนั่งหรูระดับบริหาร เลือกเป็นเจ้าของ วอลโว่ S80D4 i-Art เครื่องยนต์ดีเซล 181 แรงม้า มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยใน-นอกเมืองต่ำถึง 22.2 กม./ลิตร โดยคงความเงียบนุ่มนวลทุกเส้นทาง ระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำพร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถข้ามาใกล้ในจุดอับสายตา และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ อีกมากมาย ปกติราคาจำหน่าย 2.895 ล้านบาท แต่เป็นเจ้าของได้ในราคาเดียวกับ S60T5 หรือเพียง 2.449 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถสปอร์ตเอสเตทอเนกประสงค์ อย่างวอลโว่ V60 T4F ซึ่งออกแบบสำหรับผู้ที่ต้องการประโยชน์ใช้สอยจากพื้นที่กว้างขวาง ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งมาดสปอร์ตและการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ ด้วยแรงม้าถึง 180 ตัว พกพาระบบความปลอดภัยอัดแน่นมาเช่นเดียวกับ วอลโว่ S60T4F เลือกซื้อได้ในราคาพิเศษจำนวนจำกัด 1.999 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้ซื้อรถยนต์วอลโว่คันใหม่ จะได้รับบริการเพื่อเพิ่มความอุ่นใจและสะดวกสบายในการเป็นเจ้าของฟรี อาทิ Volvo Maintenance บริการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Warranty บริการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม. และ Volvo Assistance บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 3 ปี
ด้านผู้นำตลาดรถหรู “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ใส่เกียร์เดินหน้าสร้างสถิติกวาดยอดขายต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถใหม่กว่า 10 รุ่นภายในปีนี้ โดยรุ่นล่าสุดนำเข้าโมเดลใหม่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี” (GLC) มาเปิดศึกตลาดคอมแพ็กเอสยูวีหรูในราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งเปิดตัว 2 โมเดลใหม่ที่ประกอบในไทย(CKD) “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ-คลาส” (GLA-Class) และ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ-คลาส” (CLA-Class) พร้อมกับเคาะราคาบางรุ่นต่ำกว่าตัวนำเข้าจากต่างประเทศ(CBU) เกือบ 4 แสนบาท
โดยรุ่น GLA200 Urban เปิดราคาออกมา 2.09 ล้านบาท หากเทียบกับรุ่นนำเข้าที่ขายไปก่อนหน้าต่ำกว่า 3.8 แสนบาท หรือเดิมราคา 2.47 ล้านบาท ขณะที่รุ่นซีเคดีอุปกรณ์ออปชั่นมากกว่าด้วย และยังมีอีกตัวเลือกกับรุ่น GLA250 AMG Dynamic ราคาอยู่ที่ 2.44 ล้านบาท ส่วนรุ่น CLA200 Urban ราคา 2.14 ล้านบาท ซึ่งเดิมรุ่นนำเข้าเป็น CLA180 Urban ราคา 2.39 ล้านบาท นอกจากได้ออปชั่นมากกว่าและกำลังแรงม้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 34 ตัว ราคารุ่นประกอบในไทยยังต่ำลง 2.5 แสนบาท เช่นเดียวกับอีกรุ่น CLA250 AMG Dynamic ราคา 2.49 ล้านบาท ต่ำกว่ารุ่นนำเข้า 2 แสนบาท
พร้อมกันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังเสนอโปรแกรมการเช่าซื้อ “mySTAR Special” เพื่อมอบให้กับลูกค้าที่ซื้อรถผ่านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลิสซิ่งทุกรุ่น สามารถผ่านชำระขั้นต่ำต่อเดือนเพียง 1% ของราคารถยนต์ทันที อาทิ รุ่น GLA200 Urban ราคา 2.09 ล้านบาท ดังนั้นจึงผ่อนเพียงเดือนล่ะ 2 หมื่นบาทเท่านั้น
นี่เป็นภาพความเคลื่อนไหวของตลาดรถหรู เรียกว่าแข่งขันดุเดือดไม่แพ้รถตลาดทั่วไป จึงนับเป็นโอกาสทองของเศรษฐีไทยกระเป๋าหนัก เพราะหากรอปีหน้า 2559 อาจจะมีการปรับราคาขึ้น ทั้งจากเรื่องโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ และเงินบาทที่อ่อนค่าลง...
ทั้งนี้เห็นได้จากซิตี้ ออโตโมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ “จากัวร์” และ “แลนด์โรเวอร์” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จัดโปรโมชั่นใหญ่ช่วงท้ายปีเอาใจแฟนสองแบรนด์ดังจากสหราชอาณาจักร นำเสนอยานยนต์ 5 รุ่นยอดนิยมที่โดดเด่นทั้งสมรรถนะ ฟังก์ชั่น และดีไซน์ ให้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ที่ใช่ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าที่เคย ตลอดเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2558 นี้
โดยรถทั้ง 5 รุ่นที่นำมาจัดโปรโมชั่น ประกอบด้วย Jaguar XF 2.2 ลิตร I4 Td Portfolio เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท, Range Rover Autobiography 5.0 ลิตร V8SC เริ่มต้น 12.99 ล้านบาท , Range Rover Vogue 5.0 ลิตร V8SC เริ่มต้น 11.49 ล้านบาท, Freelander 2.2 ลิตร SD4 190Ps HSE เริ่มต้น 3.89 ล้านบาท และ Range Rover Evoque SD4 Dynamic เริ่มต้น 4.39 ล้านบาท โดยรถยนต์แต่ละรุ่นมีจำนวนจำกัดตามสต็อคสินค้า บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การจำหน่ายตามลำดับการสั่งจอง
ทั้งนี้ตามรายงานข่าวการปรับราคาครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ตลาด และรถที่นำมาจัดโปรโมชั่นเป็นรุ่นปี 2013-2014 อย่างรุ่น Range Rover Evoque SD4 Dynamic เดิมราคาอยู่ที่ 4.79 ล้านบาท ปรับราคาพิเศษเป็น 4.39 ล้านบาท หรือรุ่น Jaguar XF 2.2 ลิตร เดิมมีราคาจำหน่าย 4.699 ล้านบาท ซึ่งซิตี้ ออโตโมบิล ต้องการระบายสต็อกบางรุ่น เพื่อเตรียมรับโฉมใหม่ที่มีทั้งไมเนอร์เชนจ์ และโมเดลเชนจ์ เข้ามาทำตลาดตั้งแต่ปลายปี และในช่วงปีหน้า 2559 เป็นต้นไป
เช่นเดียวกับบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด มอบข้อเสนอราคาพิเศษอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กับรถยนต์วอลโว่ 4 รุ่น ได้แก่ S60 T4F(S) V60 T4F XC60 D4 iArt (เครื่องยนต์ดีเซล) และ S80 D4 i-Art (เครื่องยนต์ดีเซล) ที่มากับระบบความปลอดภัยชั้นนำ ในจำนวนจำกัดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายน
โดยวอลโว่ S60T4F (S) เป็นรถซีดานสไตล์สปอร์ต ปราดเปรียว เปี่ยมด้วยพละกำลัง 180 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติ แบบพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด โดดเด่นด้วยระบบความปลอดภัยที่รถยนต์ในระดับเดียวกันไม่มี อาทิ ระบบแจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับสายตาด้านข้างและหลังรถ (Blind Spot Information System - BLIS) ระบบตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ (City Safety, Pedestrian and Cyclist Detection with Full Auto Brake) เมื่อระบบตรวจพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ คนเดินถนน และจักรยานที่อยู่ในเส้นทางเดินรถ ซึ่งปกติราคา 2.199 ล้านบาท แต่สามารถซื้อได้ในราคาเดียวกับ V40 Cross Country 1.92 ล้านบาท
ส่วนวอลโว่ XC60D4 i-Art รถครอสโอเวอร์เครื่องยนต์ดีเซล ที่มีแรงบิดสูงถึง 400 นิวตันเมตร 181 แรงม้า เหมาะในการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยขึ้นด้วย i-Art เทคโนโลยี ที่หัวฉีดสามารถฉีดเชื้อเพลิงได้ละเอียดเป็นฝอยมากยิ่งขึ้น พร้อมคอมพิวเตอร์ที่คอยสอดส่องและปรับเปลี่ยนการฉีดน้ำมันในแต่ละกระบอกสูบให้ได้ประสิทธิภาพในการเผาไหม้และพละกำลังสูงสุด ทำให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ปล่อยไอเสียต่ำลง และเครื่องยนต์เดินเงียบยิ่งขึ้น โดยมีอัตราการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยใน-นอกเมือง อยู่ที่ 21.3 กม./ลิตร โดยวอลโว่ XC60 D4 i-Art ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยระดับเวิลด์คลาส เช่นเดียวกับ วอลโว่ S60T4F มอบราคาพิเศษ 2.949 ล้านบาท เท่ากับในรุ่น XC60 T5 เครื่องยนต์เบนซิน จากราคาปกติ 3.179 ล้านบาท
หากผู้ชื่นชอบรถนั่งหรูระดับบริหาร เลือกเป็นเจ้าของ วอลโว่ S80D4 i-Art เครื่องยนต์ดีเซล 181 แรงม้า มีอัตราการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยใน-นอกเมืองต่ำถึง 22.2 กม./ลิตร โดยคงความเงียบนุ่มนวลทุกเส้นทาง ระบบความปลอดภัยมีทั้งระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำพร้อมฟังก์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถข้ามาใกล้ในจุดอับสายตา และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ อีกมากมาย ปกติราคาจำหน่าย 2.895 ล้านบาท แต่เป็นเจ้าของได้ในราคาเดียวกับ S60T5 หรือเพียง 2.449 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถสปอร์ตเอสเตทอเนกประสงค์ อย่างวอลโว่ V60 T4F ซึ่งออกแบบสำหรับผู้ที่ต้องการประโยชน์ใช้สอยจากพื้นที่กว้างขวาง ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งมาดสปอร์ตและการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ ด้วยแรงม้าถึง 180 ตัว พกพาระบบความปลอดภัยอัดแน่นมาเช่นเดียวกับ วอลโว่ S60T4F เลือกซื้อได้ในราคาพิเศษจำนวนจำกัด 1.999 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้ซื้อรถยนต์วอลโว่คันใหม่ จะได้รับบริการเพื่อเพิ่มความอุ่นใจและสะดวกสบายในการเป็นเจ้าของฟรี อาทิ Volvo Maintenance บริการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กม. Volvo Warranty บริการรับประกันคุณภาพ 3 ปี หรือ 100,000 กม. และ Volvo Assistance บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 3 ปี
ด้านผู้นำตลาดรถหรู “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ใส่เกียร์เดินหน้าสร้างสถิติกวาดยอดขายต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถใหม่กว่า 10 รุ่นภายในปีนี้ โดยรุ่นล่าสุดนำเข้าโมเดลใหม่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี” (GLC) มาเปิดศึกตลาดคอมแพ็กเอสยูวีหรูในราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งเปิดตัว 2 โมเดลใหม่ที่ประกอบในไทย(CKD) “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ-คลาส” (GLA-Class) และ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอลเอ-คลาส” (CLA-Class) พร้อมกับเคาะราคาบางรุ่นต่ำกว่าตัวนำเข้าจากต่างประเทศ(CBU) เกือบ 4 แสนบาท
โดยรุ่น GLA200 Urban เปิดราคาออกมา 2.09 ล้านบาท หากเทียบกับรุ่นนำเข้าที่ขายไปก่อนหน้าต่ำกว่า 3.8 แสนบาท หรือเดิมราคา 2.47 ล้านบาท ขณะที่รุ่นซีเคดีอุปกรณ์ออปชั่นมากกว่าด้วย และยังมีอีกตัวเลือกกับรุ่น GLA250 AMG Dynamic ราคาอยู่ที่ 2.44 ล้านบาท ส่วนรุ่น CLA200 Urban ราคา 2.14 ล้านบาท ซึ่งเดิมรุ่นนำเข้าเป็น CLA180 Urban ราคา 2.39 ล้านบาท นอกจากได้ออปชั่นมากกว่าและกำลังแรงม้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 34 ตัว ราคารุ่นประกอบในไทยยังต่ำลง 2.5 แสนบาท เช่นเดียวกับอีกรุ่น CLA250 AMG Dynamic ราคา 2.49 ล้านบาท ต่ำกว่ารุ่นนำเข้า 2 แสนบาท
พร้อมกันนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังเสนอโปรแกรมการเช่าซื้อ “mySTAR Special” เพื่อมอบให้กับลูกค้าที่ซื้อรถผ่านเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลิสซิ่งทุกรุ่น สามารถผ่านชำระขั้นต่ำต่อเดือนเพียง 1% ของราคารถยนต์ทันที อาทิ รุ่น GLA200 Urban ราคา 2.09 ล้านบาท ดังนั้นจึงผ่อนเพียงเดือนล่ะ 2 หมื่นบาทเท่านั้น
นี่เป็นภาพความเคลื่อนไหวของตลาดรถหรู เรียกว่าแข่งขันดุเดือดไม่แพ้รถตลาดทั่วไป จึงนับเป็นโอกาสทองของเศรษฐีไทยกระเป๋าหนัก เพราะหากรอปีหน้า 2559 อาจจะมีการปรับราคาขึ้น ทั้งจากเรื่องโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ และเงินบาทที่อ่อนค่าลง...