ปิดฉากการแข่งขัน Volvo Trucks Asia Pacific Fuelwatch Challenge 2015 ที่ปีนี้ยกงานมาจัดกันที่สนามแก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการมีนักขับผู้หญิงเข้าร่วมแข่งขันและสามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายถึง 4 คน ที่สำคัญหนึ่งในนั้นยังสามารถคว้าแชมป์ได้อีกด้วย
สำหรับ“วอลโว่ ทรัคส์” ถือเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งครบวงจรระดับโลก ปัจจุบันขยายธุรกิจในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการผลิต การขาย การบริการหลังการขาย ด้วยศูนย์บริการรวม 16 แห่งทั่วประเทศ
ในส่วนการแข่งขันประจำปี FuelWatch Competition มีจุดมุ่งหมายที่การขับขี่ประหยัดพลังงานและขับขี่มีวินัย โดยก่อนการแข่งขัน ผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคนจะต้องผ่านการอบรม 1 วันเต็มเพื่อเสริมทักษะและเทคนิคการขับขี่ จากนั้นจึงเข้าสู่สนามแข่งขันในวันต่อมา
การแข่งขันรอบคัดเลือกในทุกประเทศ เริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งการคัดเลือกผู้เข้าร่วมแข่งขันในรอบ เอเชีย แปซิฟิค จำนวนทั้งสิ้น 17 คน ทั้งประเภททางราบและทางวิบาก ในจำนวนนี้มีนักแข่งขันหญิง 4 คนเข้าร่วมการคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นจำนวนนักแข่งหญิงที่มากที่สุดเท่าที่เคยจัดมา
หนึ่งในนักแข่งหญิงชาวจีนชื่อจีลี่ ได้กล่าวถึงความประทับใจครั้งนี้ว่า “คนส่วนใหญ่มักจะมองและคิดเสมอว่าอาชีพขับรถบรรทุกหนักจะต้องเป็นอาชีพสำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่ว่าฉันเองก็เริ่มเห็นผู้หญิงก้าวเข้าสู่อาชีพนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นเวทีที่ดีสำหรับพวกเราที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าอาชีพนี้ไม่มีสิ่งขวางกั้นระหว่างเพศ อีกทั้งยังสามารถขับแข่งขันเพื่อชิงชัยในตำแหน่งสูงสุดในด้านการประหยัดพลังงาน” จีลี่ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากขับเคี่ยวกันมาทั้งวันสุดท้าย แชมป์ประเภททางราบตกเป็นของ “หลุยส์ แมริออทท์” สาวจากประเทศนิวซีแลนด์ ส่วนการแข่งขันประเภททางวิบากแชมป์เป็นของ “ระวิ โพเลโบอินา” หนุ่มจากประเทศอินเดีย โดยผู้ชนะทั้งสองรายนี้ จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการใหญ่ Volvo Trucks World Driving Challenge 2016 ที่ประเทศสวีเดนในปีหน้า
ตามข้อมูลยังระบุว่าผู้ชนะของการแข่งขัน Asia Pacific Fuelwatch Challenge ประเภททางราบ เป็นผู้ที่ได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่า 17.5% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เข้าร่วมแข่งขันที่ได้อันดับสุดท้าย ในขณะที่ประเภททางวิบากนั้นเป็นผู้ครองแชมป์อันดับ 1 ในปีนี้ด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่น้อยกว่า 12.5% เมื่อเปรียบเทียบกับอันดับสุดท้าย
ทั้งนี้ในธุรกิจขนส่งของ ประมาณ 50% ของต้นทุนทั้งหมดมาจากค่าเชื้อเพลิง ดังนั้น หากใช้อัตราของผู้ชนะทั้งประเภททางราบและประเภททางวิบาก น่าจะแปลความหมายด้านศักยภาพของการประหยัดพลังงานในโลกขนส่งที่แท้จริงได้เป็นอย่างดี
คริสต็อฟ มาร์ติน ประธานกรรมการวอลโว่ ทรัคส์ เอเชีย โอเชียเนีย กล่าวว่า เราชาวครอบครัววอลโว่ ทรัคส์ มีพันธสัญญาที่มั่นคงในด้านการประหยัดพลังงานเพื่อสร้างประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ต้นทุนของธุรกิจ แต่ยังรวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถูกสะท้อนผ่านสนามแข่งขัน Asia Pacific Fuelwatch Challenge 2015
นักขับมือทองผู้ชนะทั้งสองคนนี้ นอกจากรางวัลต่าง ๆ ที่จะได้รับแล้ว สิ่งที่นักขับทุกคนจะมีโอกาสได้สัมผัสคือประสบการณ์วอลโว่ ซึ่งพวกเขาจะได้รับประโยชน์มหาศาลจากโอกาสที่จะได้เรียนรู้ผ่านสนามแข่งขัน Volvo Trucks Fuelwatch Challenge
“นับจากการแข่งขันนี้เปิดฉากครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 นักขับมากกว่า 15,000 คนเข้าร่วมการแข่งขัน และทุกคนได้กลายเป็นทูตของสังคม FuelWatch โดยแบ่งปันทักษะและเทคนิคต่าง ๆ ให้กับคนรุ่นต่อไปเพื่อให้พวกเขาได้มีส่วนกระตุ้นการขับขี่ที่ประหยัดพลังงานให้เห็นเป็นผลสัมฤทธิ์ เรามาหลอมรวมกันกับพวกเขา เราจะมองไปสำหรับภารกิจข้างหน้าในการสร้างแชม เปี้ยนการขับขี่ประหยัดพลังงานเพื่ออุตสาหกรรมของเราและสังคมของเรา” นายมาร์ติน กล่าวสรุป
สำหรับ“วอลโว่ ทรัคส์” ถือเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งครบวงจรระดับโลก ปัจจุบันขยายธุรกิจในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการผลิต การขาย การบริการหลังการขาย ด้วยศูนย์บริการรวม 16 แห่งทั่วประเทศ
ในส่วนการแข่งขันประจำปี FuelWatch Competition มีจุดมุ่งหมายที่การขับขี่ประหยัดพลังงานและขับขี่มีวินัย โดยก่อนการแข่งขัน ผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคนจะต้องผ่านการอบรม 1 วันเต็มเพื่อเสริมทักษะและเทคนิคการขับขี่ จากนั้นจึงเข้าสู่สนามแข่งขันในวันต่อมา
การแข่งขันรอบคัดเลือกในทุกประเทศ เริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั่งการคัดเลือกผู้เข้าร่วมแข่งขันในรอบ เอเชีย แปซิฟิค จำนวนทั้งสิ้น 17 คน ทั้งประเภททางราบและทางวิบาก ในจำนวนนี้มีนักแข่งขันหญิง 4 คนเข้าร่วมการคัดเลือกรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นจำนวนนักแข่งหญิงที่มากที่สุดเท่าที่เคยจัดมา
หนึ่งในนักแข่งหญิงชาวจีนชื่อจีลี่ ได้กล่าวถึงความประทับใจครั้งนี้ว่า “คนส่วนใหญ่มักจะมองและคิดเสมอว่าอาชีพขับรถบรรทุกหนักจะต้องเป็นอาชีพสำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่ว่าฉันเองก็เริ่มเห็นผู้หญิงก้าวเข้าสู่อาชีพนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นเวทีที่ดีสำหรับพวกเราที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าอาชีพนี้ไม่มีสิ่งขวางกั้นระหว่างเพศ อีกทั้งยังสามารถขับแข่งขันเพื่อชิงชัยในตำแหน่งสูงสุดในด้านการประหยัดพลังงาน” จีลี่ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากขับเคี่ยวกันมาทั้งวันสุดท้าย แชมป์ประเภททางราบตกเป็นของ “หลุยส์ แมริออทท์” สาวจากประเทศนิวซีแลนด์ ส่วนการแข่งขันประเภททางวิบากแชมป์เป็นของ “ระวิ โพเลโบอินา” หนุ่มจากประเทศอินเดีย โดยผู้ชนะทั้งสองรายนี้ จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการใหญ่ Volvo Trucks World Driving Challenge 2016 ที่ประเทศสวีเดนในปีหน้า
ตามข้อมูลยังระบุว่าผู้ชนะของการแข่งขัน Asia Pacific Fuelwatch Challenge ประเภททางราบ เป็นผู้ที่ได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่า 17.5% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้เข้าร่วมแข่งขันที่ได้อันดับสุดท้าย ในขณะที่ประเภททางวิบากนั้นเป็นผู้ครองแชมป์อันดับ 1 ในปีนี้ด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่น้อยกว่า 12.5% เมื่อเปรียบเทียบกับอันดับสุดท้าย
ทั้งนี้ในธุรกิจขนส่งของ ประมาณ 50% ของต้นทุนทั้งหมดมาจากค่าเชื้อเพลิง ดังนั้น หากใช้อัตราของผู้ชนะทั้งประเภททางราบและประเภททางวิบาก น่าจะแปลความหมายด้านศักยภาพของการประหยัดพลังงานในโลกขนส่งที่แท้จริงได้เป็นอย่างดี
คริสต็อฟ มาร์ติน ประธานกรรมการวอลโว่ ทรัคส์ เอเชีย โอเชียเนีย กล่าวว่า เราชาวครอบครัววอลโว่ ทรัคส์ มีพันธสัญญาที่มั่นคงในด้านการประหยัดพลังงานเพื่อสร้างประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ต้นทุนของธุรกิจ แต่ยังรวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถูกสะท้อนผ่านสนามแข่งขัน Asia Pacific Fuelwatch Challenge 2015
นักขับมือทองผู้ชนะทั้งสองคนนี้ นอกจากรางวัลต่าง ๆ ที่จะได้รับแล้ว สิ่งที่นักขับทุกคนจะมีโอกาสได้สัมผัสคือประสบการณ์วอลโว่ ซึ่งพวกเขาจะได้รับประโยชน์มหาศาลจากโอกาสที่จะได้เรียนรู้ผ่านสนามแข่งขัน Volvo Trucks Fuelwatch Challenge
“นับจากการแข่งขันนี้เปิดฉากครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 นักขับมากกว่า 15,000 คนเข้าร่วมการแข่งขัน และทุกคนได้กลายเป็นทูตของสังคม FuelWatch โดยแบ่งปันทักษะและเทคนิคต่าง ๆ ให้กับคนรุ่นต่อไปเพื่อให้พวกเขาได้มีส่วนกระตุ้นการขับขี่ที่ประหยัดพลังงานให้เห็นเป็นผลสัมฤทธิ์ เรามาหลอมรวมกันกับพวกเขา เราจะมองไปสำหรับภารกิจข้างหน้าในการสร้างแชม เปี้ยนการขับขี่ประหยัดพลังงานเพื่ออุตสาหกรรมของเราและสังคมของเรา” นายมาร์ติน กล่าวสรุป