“ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์” หั่นเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือ 10-15% กำไรใกล้เคียงปีก่อน หลังจากโครงการภาครัฐและเอกชนเลื่อน จ่อรุกตลาด OEM รับจ้างผลิตหลอดไฟ LED หลังจากโรงงานใหม่เดินเครื่องเต็มที่ในไตรมาส 4 นี้ และบุกส่งออกอาเซียนเพิ่มมากขึ้น มั่นใจปีหน้ารายได้โต 15-20%
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (L&E) ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างครบวงจรของไทย เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ในปีนี้ลงโตเพียง 10-15% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,610 ล้านบาท เนื่องจากการเลื่อนโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะโครงการปรับเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟ้า LED ของภาครัฐที่ล่าช้าออกไป ขณะที่กำไรสุทธิในปีนี้น่าจะใกล้เคียงปีก่อนอยู่ที่ 147 ล้านบาท
ส่วนผลดำเนินงานไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรสุทธิไม่สูงมากนัก เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายด้านค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่าย หลังจากโรงงานผลิตหลอดไฟ LED แห่งใหม่เริ่มดำเนินการผลิต คาดว่าจะผลิตเต็มที่ได้ในไตรมาส 4/2558 ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตหลอด LED เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 แสนหลอด เป็น 3 ล้านหลอด และมีพื้นที่เพียงพอที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวได้ถ้าความต้องการใช้ LED เพิ่มสูงขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้และกำไรเติบโต 15-20% เนื่องจากมีกำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมีการรุกตลาดโครงการในประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นด้วย โดยตั้งเป้าหมายที่จะส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจากปีนี้ที่มีการส่งออก 5% ของยอดขายรวม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการเปิดบริษัทย่อยที่พม่า และมีสำนักงานตัวแทนจำหน่ายที่เวียดนาม
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ารับจ้างผลิต (OEM) โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทต่างชาติรายใหญ่เพื่อรับจ้างผลิต LED หากต้นทุนราคาแข่งขันกับจีนได้ ซึ่งหากบริษัทฯ ได้รับสัญญาว่าจ้างดังกล่าวจะทำให้ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ LED เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ โตกว่าเป้าหมายที่วางไว้
นายปกรณ์กล่าวต่อไปว่า การทำตลาดส่งออกในอาเซียน ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการหาตัวแทนจำหน่ายที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในอาเซียน โดยจะเน้นทำตลาดโครงการมากกว่าการเจาะตลาดผู้บริโภคในเบื้องต้น ส่วนในประเทศนั้น บริษัทจะหันมาทำตลาดคอนซูเมอร์อย่างจริงจังในปีหน้า หลังจากเริ่มเปิดตัวในปี 2557 มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 6-7% โดยยอมรับว่าการเจาะตลาดคอนซูเมอร์ทำได้ยาก เนื่องจากผู้บริโภคยึดติดแบรนด์ที่โฆษณามานาน ตั้งเป้าหมายใน 1-2 ปีข้างหน้าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด 10% ของมูลค่าตลาดรวม 1.3 หมื่นล้านบาท
ปัจจุบันตลาดเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าส่องสว่าง LED เป็นที่ยอมรับของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประหยัดพลังงาน อายุการใช้งานที่สูงกว่า และมีราคาที่ปรับลดลงมามาก จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่ดีในอนาคตเมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบเดิมๆ ทำให้ขณะนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อในมือ (Backlog) อยู่ 900 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มงานโครงการจากภาครัฐและเอกชน เนื่องจากบริษัทมีทีมงานพร้อมให้คำแนะนำและบริการ
โดยโครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ มาจากกลุ่มงานโครงการถึง 70% ที่เหลือเป็นกลุ่มงานขายส่งและขายปลีก 25% และที่เหลือเป็นกลุ่มงานส่งออก โดยรายได้ดังกล่าวนี้มาจากผลิตภัณฑ์ LED ที่เพิ่มขึ้นเป็น 40% ของรายได้รวมในปีที่แล้ว เพิ่มเป็น 50% ในปีนี้ และคาดว่าปี 2560 จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของรายได้รวม