ข่าวในประเทศ - นิสสัน เดินแคมเปญปั้นยอด มาร์ช และ อัลเมร่า เพิ่มไฟส่องสว่างเวลากลางวันไดมอนด์ แอลอีดี พร้อมชูคอนเซ็ปต์ ‘ฉลาดเลือกก็ได้มากกว่า…เลือกนิสสันอีโคคาร์’ รับข้อเสนอดอกเบี้ย 0% หรือเลือกดาวน์ต่ำ 19,999 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 NPP
คะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้ปรับโฉม เพิ่มความสวยหรู ทันสมัย ให้กับรถยนต์อีโคคาร์ นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า ด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไดมอนด์ แอลอีดี (Diamond LED Daytime Running Lights) ส่วนนิสสัน อัลเมร่า ยังได้เพิ่มคิ้วโครเมียมขอบประตู ทำให้มุมมองรอบคันสวยเฉียบหรู ขณะที่ภายในห้องโดยสารมีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน ให้ความสะดวกสบาย ทั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย พร้อม MP3 อุปกรณ์เชื่อมต่อ Aux-in/USB กุญแจ Intelligent Key ที่สามารถเปิดกระโปรงท้ายรถได้ ปุ่ม Push Start กล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด พร้อมสัญญาณเตือนกะระยะ
ด้านเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC-CVT ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล เต็มสมรรถนะ อัตราเร่งดี มีอัตราประหยัดน้ำมันถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร และด้วยเทคโนโลยี นิสสัน เพียว ไดร์ฟ (PURE DRIVE) ทำให้ปล่อยมลพิษต่ำคือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร เทียบเท่าระดับมาตรฐาน EURO 4 ระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลม SRS คู่หน้าในทุกรุ่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA ภายใต้โครงสร้าง ZONE BODY CONCEPT ที่เน้นความแข็งแกร่งปกป้องสูงสุดเพื่อลดความเสียหายขณะเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า เป็นรถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงและครองใจลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศไทยตั้งแต่เปิดตัวในปี 2553 และปี 2554 ตามลำดับ มียอดจำหน่ายสะสมรวมกว่า 240,000 คัน โดยรถยนต์นิสสัน มาร์ช ซึ่งเป็นรถอีโคคาร์ รุ่นแรกของเมืองไทย ยังคงครองตลาดด้วยความโดดเด่น ขับสนุก ล้ำสมัย ขณะที่นิสสัน อัลเมร่า ซึ่งเป็นรถยนต์อีโคคาร์ซีดาน 4 ประตู รุ่นแรกของประเทศไทยครองยอดจำหน่ายสะสมในตลาดสูงสุด ด้วยความโดดเด่นจากห้องโดยสารที่กว้าง ล้ำสมัย มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมแต่ประหยัดน้ำมัน โดยทั้งสองรุ่นผลิตในประเทศไทยและส่งออกไปสู่ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและความสำเร็จของทั้งสองรุ่นจากตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
ประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย กล่าวเสริมถึงแผนการทำตลาดรถยนต์อีโคคาร์ ทั้งสองรุ่นว่า จะเน้นการสื่อสารการตลาดที่เข้าถึงลูกค้า ผ่านภาพยนต์โฆษณาชุดใหม่ และสื่อต่างๆ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดอีโคคาร์ และชูคอนเซ็ปต์ ‘ฉลาดเลือกก็ได้มากกว่า…เลือกนิสสันอีโคคาร์’ รวมถึงเพิ่มการรับรู้จุดเด่นของทั้งสองรุ่นผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ขณะที่ด้านการส่งเสริมการจำหน่าย ได้จัดทำข้อเสนอพิเศษที่เรียกว่าคุ้มค่ามากๆไว้ให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของนิสสันอีโคคาร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถเลือกข้อเสนอดอกเบี้ย 0% หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 19,999 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 NPP* โดยข้อเสนอพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่จอง และรับรถภายใน30 กันยายน
นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า มีให้เลือกใน 3 รุ่นคือ EL, V, และ VL โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 518,500 บาท สำหรับมาร์ช รุ่น EL และเริ่มต้นที่ 543,000 บาท สำหรับอัลเมร่า รุ่น EL
คะซุทากะ นัมบุ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้ปรับโฉม เพิ่มความสวยหรู ทันสมัย ให้กับรถยนต์อีโคคาร์ นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า ด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไดมอนด์ แอลอีดี (Diamond LED Daytime Running Lights) ส่วนนิสสัน อัลเมร่า ยังได้เพิ่มคิ้วโครเมียมขอบประตู ทำให้มุมมองรอบคันสวยเฉียบหรู ขณะที่ภายในห้องโดยสารมีฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน ให้ความสะดวกสบาย ทั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย พร้อม MP3 อุปกรณ์เชื่อมต่อ Aux-in/USB กุญแจ Intelligent Key ที่สามารถเปิดกระโปรงท้ายรถได้ ปุ่ม Push Start กล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง 4 จุด พร้อมสัญญาณเตือนกะระยะ
ด้านเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC-CVT ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล เต็มสมรรถนะ อัตราเร่งดี มีอัตราประหยัดน้ำมันถึง 20 กิโลเมตร/ลิตร และด้วยเทคโนโลยี นิสสัน เพียว ไดร์ฟ (PURE DRIVE) ทำให้ปล่อยมลพิษต่ำคือปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร เทียบเท่าระดับมาตรฐาน EURO 4 ระบบความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลม SRS คู่หน้าในทุกรุ่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA ภายใต้โครงสร้าง ZONE BODY CONCEPT ที่เน้นความแข็งแกร่งปกป้องสูงสุดเพื่อลดความเสียหายขณะเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งนี้นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า เป็นรถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงและครองใจลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศไทยตั้งแต่เปิดตัวในปี 2553 และปี 2554 ตามลำดับ มียอดจำหน่ายสะสมรวมกว่า 240,000 คัน โดยรถยนต์นิสสัน มาร์ช ซึ่งเป็นรถอีโคคาร์ รุ่นแรกของเมืองไทย ยังคงครองตลาดด้วยความโดดเด่น ขับสนุก ล้ำสมัย ขณะที่นิสสัน อัลเมร่า ซึ่งเป็นรถยนต์อีโคคาร์ซีดาน 4 ประตู รุ่นแรกของประเทศไทยครองยอดจำหน่ายสะสมในตลาดสูงสุด ด้วยความโดดเด่นจากห้องโดยสารที่กว้าง ล้ำสมัย มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมแต่ประหยัดน้ำมัน โดยทั้งสองรุ่นผลิตในประเทศไทยและส่งออกไปสู่ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและความสำเร็จของทั้งสองรุ่นจากตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
ประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย กล่าวเสริมถึงแผนการทำตลาดรถยนต์อีโคคาร์ ทั้งสองรุ่นว่า จะเน้นการสื่อสารการตลาดที่เข้าถึงลูกค้า ผ่านภาพยนต์โฆษณาชุดใหม่ และสื่อต่างๆ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดอีโคคาร์ และชูคอนเซ็ปต์ ‘ฉลาดเลือกก็ได้มากกว่า…เลือกนิสสันอีโคคาร์’ รวมถึงเพิ่มการรับรู้จุดเด่นของทั้งสองรุ่นผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ขณะที่ด้านการส่งเสริมการจำหน่าย ได้จัดทำข้อเสนอพิเศษที่เรียกว่าคุ้มค่ามากๆไว้ให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของนิสสันอีโคคาร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถเลือกข้อเสนอดอกเบี้ย 0% หรือเลือกดาวน์ต่ำเพียง 19,999 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 NPP* โดยข้อเสนอพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่จอง และรับรถภายใน30 กันยายน
นิสสัน มาร์ช และ นิสสัน อัลเมร่า มีให้เลือกใน 3 รุ่นคือ EL, V, และ VL โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 518,500 บาท สำหรับมาร์ช รุ่น EL และเริ่มต้นที่ 543,000 บาท สำหรับอัลเมร่า รุ่น EL