xs
xsm
sm
md
lg

BMWยกระดับฐานผลิตไทย รุกเปิดรถใหม่-บิ๊กไบค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลุ่มรถหรูนอกจากไม่ได้รับผลกระทบ จากการชะลอตัวของตลาดรถยนต์ไทยแล้วแต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังเป็นช่วงเวลาทองของตลาดรถหรู ทำให้ค่ายรายใหญ่ต่างเดินหน้ารุกตลาดไทยอย่างหนัก อย่าง“บีเอ็มดับเบิลยู” ที่ถึงกับดันไทยเป็นฐานผลิตแห่งแรกผลิตรถ 3 แบรนด์ในเครือที่โรงงานแห่งเดียวกัน ล่าสุดได้ยกระดับขยายสู่สากล พร้อมกับเปิดเกมรุกตลาดครึ่งปีหลัง ทั้งเปิดตัวรถยนต์และบิ๊กไบค์รุ่นใหม่ รวมถึงจัดงานปั่นยอดขายประจำปีครั้งใหญ่...

"โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู จังหวัดระยอง และตลาดประเทศไทย มีบทบาทที่สำคัญมากต่อกลยุทธ์การขายของเรา รวมถึงการมีส่วนร่วมในตลาดภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย ซึ่งในปี 2558 นี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ได้เริ่มต้นขยายการส่งออกรถจักรยานยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สู่ประเทศจีน นอกเหนือจากประเทศมาเลเซีย และจะขยายการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ภายในภูมิภาคอาเซียนต่อไป”

นั่นเป็นคำกล่าวของ “เยอร์เกน ไมดัล” รองประธานบริหารอาวุโส ฝ่ายโลจิสติกส์การผลิต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปจากสำนักงานใหญ่ที่มิวนิค ประเทศเยอรมนี กล่าวในงานเฉลิมฉลองความสำเร็จด้านการผลิตครบรอบ 15 ปี ของโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ในจ.ระยอง พร้อมกับประกาศลงทุน 1.1 พันล้านบาทในการขยายโรงงานแห่งนี้ เพิ่มเติมจากยอดเงินลงทุนที่ผ่านมาทั้งสิ้นกว่า 2.6 พันล้านบาท ซึ่งการขยายในครั้งนี้หมายถึงการเพิ่มพื้นที่สำหรับการฝึกอบรมด้านอาชีวศึกษา พื้นที่สำหรับการทดสอบเครื่องยนต์ต่างๆ รวมถึงศูนย์วิเคราะห์ด้วย ส่งผลให้โรงงานที่จังหวัดระยองนี้จะสามารถขยายกำลังการผลิตได้สูงถึง 20,000 คันต่อปี สำหรับรถยนต์ และ 10,000 คันต่อปีสำหรับมอเตอร์ไซค์

ในโอกาสเดียวกันนี้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์แบบโรดสเตอร์ “บีเอ็มดับเบิลยู R nineTLimited Edition” เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง 15 ปีแห่งความสำเร็จพิเศษเพียง 15 คันในโลกด้วยชุดแต่งพิเศษจาก Roland Sands ได้แก่ Roland Sands Breast Plate และ Roland Sands Valve cover อีกทั้งถังน้ำมันตกแต่งพิเศษแบบอะลูมิเนียม (Aluminium Fuel tank) รวมถึง Aluminium Tail-hump, Custom Seat, Knee pad และตราสัญลักษณ์พิเศษสำหรับรุ่น Limited Edition โดยติดตั้งเครื่องยนต์ Boxer 2 สูบ แบบ Flat twin ขนาด 1,170 ซีซี 110แรงม้า

พร้อมกันนี้ยังได้เสริมทัพบิ๊กไบค์ประกอบในประเทศอีก 2 รุ่น มอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ตบีเอ็มดับเบิลยู S1000 RR เครื่องยนต์ 4สูบ 999ซีซี 160แรงม้า และเนเก็ดไบค์บีเอ็มดับเบิลยู S1000 R เครื่องยนต์ 4สูบ 999ซีซี 199แรงม้า ซึ่งเป็นมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต 2 รุ่นแรก ที่จะถูกประกอบขึ้นในประเทศไทย ส่งผลให้มีมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั้งหมด 8 รุ่นที่ประกอบขึ้นในประเทศไทย

ส่วนการรุกตลาดรถยนต์หรูหรา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดงานแสดงรถประจำปีครั้งใหญ่ “BMW EXPO 2015” ด้วยการนำรถยนต์รุ่นต่างๆ มาจัดแสดงครบ รวมบิ๊กไบค์ของบีเอ็มดับเบิลยู โดยการจัดงานปีนี้ไฮไลต์จะเน้นไป “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์2” ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รับรู้ หรือตอบรับของผู้บริโภคชาวไทยมากนัก ไม่ว่าจะเป็นรุ่นคูเป้ และรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู Active Tourer ที่สำคัญในงานนี้ยังได้มีการแนะนำรถรุ่นใหม่ “ซีรีส์2 Gran Tourer” มาเสริมทัพเพิ่มทางเลือกอีกรุ่นด้วย

บีเอ็มดับเบิลยู 2 Gran Tourer เป็นการต่อยอดจากรุ่น Active Tourerเปิดตัวสู่ตลาดโลกเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และทำให้รถของบีเอ็มดับเบิลยูที่มีคำว่า Gran Tourerหรือ GT ไม่จำเป็นจะต้องเป็นรถแฮทช์แบ็กท้ายลาด 5 ประตู เหมือนกับในรุ่นซีรี่ส์ 3 และซีรี่ส์ 5 อีกต่อไป เพราะนี่เป็นการพลิกโฉมสู่ความเป็นรถอเนกประสงค์แบบเอ็มพีวีไปโน้น โดยตัวถังมาในแบบ 5 ประตูพร้อมกับความยาวในระดับ 4,556 มิลลิเมตร กว้าง 1,800 มิลลิเมตร สูง 1,608 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,780 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับซีรีส์ 2 Active Tourerหรือ 2AT ถือว่าใหญ่กว่าในทุกสัดส่วน

อย่างไรก็ตาม ในต่างประเทศจะมีให้เลือกทั้งแบบเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง และรุ่น 3 แถวแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นออปชั่นที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่เมืองไทยนำรุ่น 7 ที่นั่งมาทำตลาดเป็นรุ่นมาตรฐานเลย โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถแยกพับในอัตราส่วน 40-20-40 พร้อมพื้นที่เก็บ สัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 645-805 ลิตร ขึ้นอยู่กับรูปแบบการพับของเบาะหลัง แต่เมื่อพับลงทั้งหมดจะเพิ่มได้ถึง 1,905 ลิตร

สำหรับขุมกำลังซีรีส์ 2 GT ในต่างประเทศ จะมีทั้งเบนซินและดีเซล รวมถึงตัวเลือกหลากหลายรุ่นย่อย แต่เมืองไทยจะมีเพียงเครื่องยนต์เดียวเหมือนกับรุ่นคูเป้ และ 2AT นั่นคือรุ่น 218i เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1500 ซีซี ทวิน เทอร์โบ 136 แรงม้า ที่ 4,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250 รอบต่อนาที โดยวางจำหน่ายในราคา 2.699 ล้านบาท ขณะที่รุ่น 2AT และคูเป้ จำหน่ายในราคา 2.499 และ 2.599 ล้านบาทตามลำดับ

นอกจากนี้ภายในงาน BMW EXPO 2015 ยังมีข้อเสนอพิเศษหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นไฟแนนซ์ หรือของแถม ซึ่งไฮไลต์จะมีการแจกบีเอ็มดับเบิลยู Cruise Bike ที่มีโครงสร้าง Hydro-Formed น้ำหนักเบา และระบบเกียร์ Shimano Deore 30 ระดับ มูลค่า 56,779 บาท(ยังไม่รวม VAT- เงื่อนไขตามกำหนดของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย) พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายในงาน อย่างลูกค้าได้พบกับประสบการณ์การทดลองขับ BMW xDrive Experience และชมนักขับในลานxDrive Adventure Zone

ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวของค่ายใบพัดสีฟ้า ซึ่งไทยได้กลายเป็นฐานผลิตและตลาดสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยูอีกแห่งในโลก ส่วนใครที่อยากจะเป็นเจ้าของ หรือมาชมรถใหม่และรุ่นอื่นๆ แบบครบครัน พร้อมกับแคมเปญพิเศษเร้าใจ เชิญไปชมและเลือกถอยได้ในงาน “BMW EXPO 2015” ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายนนี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์...

กำลังโหลดความคิดเห็น