“ออโต้ซคิน” ฟิล์มกันรอยสะเก็ดหินและปกป้องสี เปิดตัวฟิล์มกันรอยรุ่นใหม่ PPF-ACT เคลือบฟิล์มพิเศษทนทาน หยืดหยุ่นสูง คืนรูปง่าย และลดรอยอัตโนมัติ นอกจากเจาะกลุ่มรถหรูและซุปเปอร์คาร์ในไทย ประกาศศักยภาพส่งออกประเทศในอาเซียน, จีน และอินเดีย ดันยอดส่งออกเพิ่ม 30%
พสุพงษ์ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโต้ซคิน จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายฟิล์มปกป้องสีรถ (PPF : Paint Protection Film) ระดับพรีเมียม และฟิล์มกันสะเก็ดหินกระจกหน้ารถยนต์ ภายใต้ยี่ห้อ “ออโต้ซคิน” (AUTOZKIN) ในไทยมากว่า 5 ปี เปิดเผยว่า ปัจจุบันฟิล์มปกป้องสีรถกลายเป็นสิ่งที่ต้องการของผู้ใช้รถ ไม่ได้เป็นทางเลือกเหมือนในอดีต นี่เป็นเครื่องยืนยันได้ว่านวัตกรรมฟิล์มกันรอยปกป้องสีรถตอบโจทย์และแก้ปัญหาได้ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ทำให้ตลาดฟิล์มกันรอย PPF โตขึ้นอย่างรวดเร็วในแต่ละปี
โดยเฉพาะ 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556-2557) ตลาดฟิล์มกันรอย หรือ PPF มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสูงถึง 30 % จากในช่วงระยะแรกที่เริ่มเปิดตลาด PPF ซึ่งมีอัตรการเติบโตเพียงแค่ 5-10 % เท่านั้น สำหรับตลาดรวมฟิล์มปกป้องสีรถ PPF ในประเทศไทยโดยเฉลี่ยปีละ 2,500 - 3,000 คัน เนื่องจากยังจับกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างนิช เฉพาะกลุ่มรถหรูที่มียอดจำหน่ายเฉลี่ยนปีละ 20,000 คัน และรถ Supercars ซึ่งมียอดจำหน่ายเพียงแค่ 500 คันต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องราคาค่าติดตั้งที่ค่อนข้างสูง ทำให้ยอดการใช้บริการยังค่อนข้างน้อยกว่านวัตกรรมอื่นๆ
ทั้งนี้ออโต้ซคินเป็นผู้บุกเบิกตลาดฟิล์มกันสะเก็ดหินและปกป้องสีรถในประเทศไทย จนได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามากมาย โดยเฉพาะกลุ่มรถหรูและซุปเปอร์คาร์ ด้วยวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมการพัฒนาเนื้อฟิล์มและการให้บริการติดตั้งระดับมืออาชีพ ทำให้ออโต้ซคินก้าวสู่ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจฟิล์มปกป้องสีรถในเมืองไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นรถระดับพรีเมียม 50 % และซุปเปอร์คาร์ 40 % ที่นำรถเข้ามารับบริการติดตั้ง โดยออโต้ซคินมียอดขายโดยเฉลี่ยในแต่ละปี 800-1,000 คัน สำหรับการติดตั้งฟิล์มปกป้องสีรถแบบเต็มคัน (Completed Car) ราคาติดตั้งต่อคัน 120,000- 150,000 บาท สำหรับรถขนาดใหญ่ (L) และยังมีรถที่เข้ารับบริการติดตั้งฟิล์มกันสะเก็ดหินกระจกหน้ารถโดยเฉลี่ยอีก 600 คัน ต่อปี ในราคา 12,000 บาท / คัน
พสุพงษ์เปิดเผยว่า นอกจากนี้ยังมียอดขายส่งฟิล์มม้วนไปยังดีลเลอร์ ทั้งในและต่างประเทศโดยเฉลี่ยปีละ 1,000 ม้วน ทำให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 15% ต่อปี โดยเฉพาะในปี 2556-2557 ฟิล์มปกป้องสีรถออโต้ซคินมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 30 % มียอดขายติดตั้งฟิล์มแบบเต็มคันถึง 1,200 คันต่อปี เนื่องจากตลาดรถยนต์ภายในประเทศเติบโตค่อนข้างสูง มีรายได้เฉลี่ย 80 -100 ล้านบาท โดยสัดส่วนตลาดหลักของออโต้ซคินในประเทศ 40 % ต่างประเทศ 60 % โดยรายได้หลักมาจากการส่งออกฟิล์มม้วน
“สำหรับเป้าการขายในปี 2015 นี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายการติดฟิล์มไว้ที่ 650 คัน ด้วยผลกระทบทางเศรษกิจ และยอดขายตลาดรถยนต์ภายในประเทศที่ตกต่ำมาก โดยขณะนี้เรามีจำนวนรถที่เข้ามาติดตั้ง 6 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ 300 คัน ซึ่งคาดว่าระยะเวลาครึ่งปีหลังน่าจะทำยอดเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ แต่ปีนี้จะเพิ่มยอดส่งออกฟิล์มม้วนไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น 30 % หรือเป็น 1,500 ม้วน/ ปี หรือคิดเป็นเป้าหมายการจำหน่ายรวม 150 ล้านบาท”
สำหรับฟิล์มกันรอยออโต้ซคินให้ประสิทธิภาพสูง เนื้อฟิล์มผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ชนิดพิเศษ “ Clear Urethane “ ยูริเทนใสทีมีคุณสมบัติโดดเด่นเอกสิทธิ์เฉพาะฟิล์มกันรอยที่พัฒนาโดยออโต้ซคินเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติให้ความทนทานสูง ต้านแรงกระทบได้ดี (Super Tough and Durable), เนื้อฟิล์มเหนียว หนา ทนทาน และยืดหยุ่นสูง ติดตั้งง่ายทุกจุดของตัวรถ (Flexibility), เนื้อฟิล์มใส สีรถไม่เปลี่ยน ให้ความเงางามกับสีรถทันทีหลังติดตั้ง, พร้อมปรับสภาพสีรถเก่าให้ดูใหม่สวยใสทันที (Superior Clarity), เนื้อฟิล์มคืนรูปง่าย ลบรอยอัตโนมัต ที่สำคัญขจัดปัญหารอยขนแมวให้หมดไป (Self Healing), เนื้อฟิล์มต่อต้านและยับยั้งการฝังลึกของคราบสกปรกจากน้ำและสารเคมี (Liquid-Repelling), เนื้อฟิล์มเพิ่มการ Coating เคลือบสารกันรังสียูวีในแสงแดด (Anti-Glare UV Protection) และฟิล์มกันรอย Autozkin เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Enviroment Friendly)
พสุพงษ์เปิดเผยว่า ปัจจุบันออโต้ซคินมีสินค้ากลุ่มหลัก ได้แก่ ฟิล์มปกป้องสีรถ และฟิล์มกันสะเก็ดหินกระจกรถยนต์ , ฟิล์มกันรอยหน้าจอมือถือและแทบเลท , ฟิล์มปกป้องสีรถมอเตอร์ไซด์ และ Big Bike , และฟิล์มกันรอยภายในเรือยอร์ชและปกป้องพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพ
โดยในปี 2558 นี้ Autozkin ตั้งเป้าในการส่งออกฟิล์มม้วนเพิ่มขึ้น 30 % เนื่องจากบริษัทฯได้ร่วมมือกับพันมิตรจากประเทศญี่ปุ่นพัฒนาฟิล์มกันรอยคุณภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุด “ PPF-ACT (Paint Protection Film with Coating Technology) หวังเจาะกลุ่มตลาดส่งออกต่างประเทศ โดยกระบวนการผลิตยังคงนำเข้าจากอเมริกา แต่จะนำมาพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อฟิล์มโดยผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ในการทำ Coating ซึ่งขั้นตอนการผลิตทั้งหมดบริษัทญี่ปุ่จะเป็นผู้ดูแล ออโต้ซคินทำหน้าบริหารจัดการด้านการจัดจำหน่าย
“กลุ่มเป้าหมายในการส่งออกฟิล์มรุ่นใหม่นี้ ตลาดหลักจะเป็นประเทศจีน, เมียนมาร์, อินโดนีเซีย, สิงค์โปร์, มาเลเซีย, สเปน และกำลังขยายไปยังอินเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างการแต่งตั้งดีลเลอร์ ในเบื้องต้นยังใช้ชื่อแบรนด์ AUTOZKIN ในการเจาะตลาด โดยรูปแบบการทำตลาดต่างประเทศสำหรับฟิล์มตัวใหม่ จะให้ดีลเลอร์ที่ได้รับการแต่งตั้งอยู่แล้วเป็นผู้ดำเนินงาน ในลักษณะ Exclusive Shop และจัดหา Outlet ในการจำหน่ายฟิล์ม โดยบริษัทฯจะจัดฝึกอบรมการติดตั้งให้กับทีมช่าง พร้อมส่งช่างระดับมืออาชีพไปช่วยในระยะแรก”
ส่วนงบประมาณทางการตลาดในปีนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มงบเป็น 20 ล้านบาท จากที่เคยใช้เดิม 4-5 ล้านบาท เนื่องจากมีการเข้าไปเจาะตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ น่าจะสร้างแบรนด์ออโต้ซคินให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ เบื้องต้นออโต้ซคินได้ลงทุนจัดทำซอฟแวร์และโปรแกรมการสร้าง Pattern film สำหรับการติดตั้งตัวถังรถยนต์ไปกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้ทดแทนซอฟแวร์ที่มีการซื้อลิขสิทธิ์จากบริษัทผู้ผลิตฟิล์มอเมริกา รวมทั้งเพิ่มงบโปรโมทการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของออโต้ซคินไปสู่ตลาดโลกมากขึ้น
ทั้งนี้ปัจจุบันออโต้ซคินมีเครือข่ายดีลเลอร์ในประเทศ 3 สาขาหลัก ได้แก่ รามอินทรา ชลบุรี และหาดใหญ่ ซึ่งยังไม่มีแผนการขยายตลาดในประเทศ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องราคาค่าติดตั้งที่ค่อนข้างสูง และแรงงานช่างติดตั้งที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ส่วนดีลเลอร์ในต่างประเทศที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการคือ สิงค์โปร์ และมาเลเซีย รวมทั้งจีน เมียนมาร์ อินโดนีเซีย และสเปน ซึ่งคาดว่าการแต่งตั้งเสร็จสิ้นภายในปี 2558 นี้ นอกจากนี้ออโต้ซคินตั้งเป้าในการขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน AEC ให้ครบทุกประเทศด้วย รวมทั้งการเปิดศูนย์อบรมจัดเทรนนิ่งช่างติดตั้งให้กับผู้ที่สนใจ เพื่อป้อนช่างแรงงานให้กับดีลเลอร์และผู้แทนจำหน่ายให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยขยายตลาดฟิล์มปกป้องสีรถให้เติบโตมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
พสุพงษ์ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโต้ซคิน จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายฟิล์มปกป้องสีรถ (PPF : Paint Protection Film) ระดับพรีเมียม และฟิล์มกันสะเก็ดหินกระจกหน้ารถยนต์ ภายใต้ยี่ห้อ “ออโต้ซคิน” (AUTOZKIN) ในไทยมากว่า 5 ปี เปิดเผยว่า ปัจจุบันฟิล์มปกป้องสีรถกลายเป็นสิ่งที่ต้องการของผู้ใช้รถ ไม่ได้เป็นทางเลือกเหมือนในอดีต นี่เป็นเครื่องยืนยันได้ว่านวัตกรรมฟิล์มกันรอยปกป้องสีรถตอบโจทย์และแก้ปัญหาได้ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ทำให้ตลาดฟิล์มกันรอย PPF โตขึ้นอย่างรวดเร็วในแต่ละปี
โดยเฉพาะ 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556-2557) ตลาดฟิล์มกันรอย หรือ PPF มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องสูงถึง 30 % จากในช่วงระยะแรกที่เริ่มเปิดตลาด PPF ซึ่งมีอัตรการเติบโตเพียงแค่ 5-10 % เท่านั้น สำหรับตลาดรวมฟิล์มปกป้องสีรถ PPF ในประเทศไทยโดยเฉลี่ยปีละ 2,500 - 3,000 คัน เนื่องจากยังจับกลุ่มลูกค้าที่ค่อนข้างนิช เฉพาะกลุ่มรถหรูที่มียอดจำหน่ายเฉลี่ยนปีละ 20,000 คัน และรถ Supercars ซึ่งมียอดจำหน่ายเพียงแค่ 500 คันต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องราคาค่าติดตั้งที่ค่อนข้างสูง ทำให้ยอดการใช้บริการยังค่อนข้างน้อยกว่านวัตกรรมอื่นๆ
ทั้งนี้ออโต้ซคินเป็นผู้บุกเบิกตลาดฟิล์มกันสะเก็ดหินและปกป้องสีรถในประเทศไทย จนได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้ามากมาย โดยเฉพาะกลุ่มรถหรูและซุปเปอร์คาร์ ด้วยวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมการพัฒนาเนื้อฟิล์มและการให้บริการติดตั้งระดับมืออาชีพ ทำให้ออโต้ซคินก้าวสู่ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจฟิล์มปกป้องสีรถในเมืองไทย โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นรถระดับพรีเมียม 50 % และซุปเปอร์คาร์ 40 % ที่นำรถเข้ามารับบริการติดตั้ง โดยออโต้ซคินมียอดขายโดยเฉลี่ยในแต่ละปี 800-1,000 คัน สำหรับการติดตั้งฟิล์มปกป้องสีรถแบบเต็มคัน (Completed Car) ราคาติดตั้งต่อคัน 120,000- 150,000 บาท สำหรับรถขนาดใหญ่ (L) และยังมีรถที่เข้ารับบริการติดตั้งฟิล์มกันสะเก็ดหินกระจกหน้ารถโดยเฉลี่ยอีก 600 คัน ต่อปี ในราคา 12,000 บาท / คัน
พสุพงษ์เปิดเผยว่า นอกจากนี้ยังมียอดขายส่งฟิล์มม้วนไปยังดีลเลอร์ ทั้งในและต่างประเทศโดยเฉลี่ยปีละ 1,000 ม้วน ทำให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 15% ต่อปี โดยเฉพาะในปี 2556-2557 ฟิล์มปกป้องสีรถออโต้ซคินมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 30 % มียอดขายติดตั้งฟิล์มแบบเต็มคันถึง 1,200 คันต่อปี เนื่องจากตลาดรถยนต์ภายในประเทศเติบโตค่อนข้างสูง มีรายได้เฉลี่ย 80 -100 ล้านบาท โดยสัดส่วนตลาดหลักของออโต้ซคินในประเทศ 40 % ต่างประเทศ 60 % โดยรายได้หลักมาจากการส่งออกฟิล์มม้วน
“สำหรับเป้าการขายในปี 2015 นี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายการติดฟิล์มไว้ที่ 650 คัน ด้วยผลกระทบทางเศรษกิจ และยอดขายตลาดรถยนต์ภายในประเทศที่ตกต่ำมาก โดยขณะนี้เรามีจำนวนรถที่เข้ามาติดตั้ง 6 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ 300 คัน ซึ่งคาดว่าระยะเวลาครึ่งปีหลังน่าจะทำยอดเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ แต่ปีนี้จะเพิ่มยอดส่งออกฟิล์มม้วนไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น 30 % หรือเป็น 1,500 ม้วน/ ปี หรือคิดเป็นเป้าหมายการจำหน่ายรวม 150 ล้านบาท”
สำหรับฟิล์มกันรอยออโต้ซคินให้ประสิทธิภาพสูง เนื้อฟิล์มผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ชนิดพิเศษ “ Clear Urethane “ ยูริเทนใสทีมีคุณสมบัติโดดเด่นเอกสิทธิ์เฉพาะฟิล์มกันรอยที่พัฒนาโดยออโต้ซคินเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติให้ความทนทานสูง ต้านแรงกระทบได้ดี (Super Tough and Durable), เนื้อฟิล์มเหนียว หนา ทนทาน และยืดหยุ่นสูง ติดตั้งง่ายทุกจุดของตัวรถ (Flexibility), เนื้อฟิล์มใส สีรถไม่เปลี่ยน ให้ความเงางามกับสีรถทันทีหลังติดตั้ง, พร้อมปรับสภาพสีรถเก่าให้ดูใหม่สวยใสทันที (Superior Clarity), เนื้อฟิล์มคืนรูปง่าย ลบรอยอัตโนมัต ที่สำคัญขจัดปัญหารอยขนแมวให้หมดไป (Self Healing), เนื้อฟิล์มต่อต้านและยับยั้งการฝังลึกของคราบสกปรกจากน้ำและสารเคมี (Liquid-Repelling), เนื้อฟิล์มเพิ่มการ Coating เคลือบสารกันรังสียูวีในแสงแดด (Anti-Glare UV Protection) และฟิล์มกันรอย Autozkin เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Enviroment Friendly)
พสุพงษ์เปิดเผยว่า ปัจจุบันออโต้ซคินมีสินค้ากลุ่มหลัก ได้แก่ ฟิล์มปกป้องสีรถ และฟิล์มกันสะเก็ดหินกระจกรถยนต์ , ฟิล์มกันรอยหน้าจอมือถือและแทบเลท , ฟิล์มปกป้องสีรถมอเตอร์ไซด์ และ Big Bike , และฟิล์มกันรอยภายในเรือยอร์ชและปกป้องพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพ
โดยในปี 2558 นี้ Autozkin ตั้งเป้าในการส่งออกฟิล์มม้วนเพิ่มขึ้น 30 % เนื่องจากบริษัทฯได้ร่วมมือกับพันมิตรจากประเทศญี่ปุ่นพัฒนาฟิล์มกันรอยคุณภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุด “ PPF-ACT (Paint Protection Film with Coating Technology) หวังเจาะกลุ่มตลาดส่งออกต่างประเทศ โดยกระบวนการผลิตยังคงนำเข้าจากอเมริกา แต่จะนำมาพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อฟิล์มโดยผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ในการทำ Coating ซึ่งขั้นตอนการผลิตทั้งหมดบริษัทญี่ปุ่จะเป็นผู้ดูแล ออโต้ซคินทำหน้าบริหารจัดการด้านการจัดจำหน่าย
“กลุ่มเป้าหมายในการส่งออกฟิล์มรุ่นใหม่นี้ ตลาดหลักจะเป็นประเทศจีน, เมียนมาร์, อินโดนีเซีย, สิงค์โปร์, มาเลเซีย, สเปน และกำลังขยายไปยังอินเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างการแต่งตั้งดีลเลอร์ ในเบื้องต้นยังใช้ชื่อแบรนด์ AUTOZKIN ในการเจาะตลาด โดยรูปแบบการทำตลาดต่างประเทศสำหรับฟิล์มตัวใหม่ จะให้ดีลเลอร์ที่ได้รับการแต่งตั้งอยู่แล้วเป็นผู้ดำเนินงาน ในลักษณะ Exclusive Shop และจัดหา Outlet ในการจำหน่ายฟิล์ม โดยบริษัทฯจะจัดฝึกอบรมการติดตั้งให้กับทีมช่าง พร้อมส่งช่างระดับมืออาชีพไปช่วยในระยะแรก”
ส่วนงบประมาณทางการตลาดในปีนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มงบเป็น 20 ล้านบาท จากที่เคยใช้เดิม 4-5 ล้านบาท เนื่องจากมีการเข้าไปเจาะตลาดต่างประเทศ โดยคาดว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ น่าจะสร้างแบรนด์ออโต้ซคินให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ เบื้องต้นออโต้ซคินได้ลงทุนจัดทำซอฟแวร์และโปรแกรมการสร้าง Pattern film สำหรับการติดตั้งตัวถังรถยนต์ไปกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้ทดแทนซอฟแวร์ที่มีการซื้อลิขสิทธิ์จากบริษัทผู้ผลิตฟิล์มอเมริกา รวมทั้งเพิ่มงบโปรโมทการปรับภาพลักษณ์ใหม่ของออโต้ซคินไปสู่ตลาดโลกมากขึ้น
ทั้งนี้ปัจจุบันออโต้ซคินมีเครือข่ายดีลเลอร์ในประเทศ 3 สาขาหลัก ได้แก่ รามอินทรา ชลบุรี และหาดใหญ่ ซึ่งยังไม่มีแผนการขยายตลาดในประเทศ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องราคาค่าติดตั้งที่ค่อนข้างสูง และแรงงานช่างติดตั้งที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ส่วนดีลเลอร์ในต่างประเทศที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการคือ สิงค์โปร์ และมาเลเซีย รวมทั้งจีน เมียนมาร์ อินโดนีเซีย และสเปน ซึ่งคาดว่าการแต่งตั้งเสร็จสิ้นภายในปี 2558 นี้ นอกจากนี้ออโต้ซคินตั้งเป้าในการขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน AEC ให้ครบทุกประเทศด้วย รวมทั้งการเปิดศูนย์อบรมจัดเทรนนิ่งช่างติดตั้งให้กับผู้ที่สนใจ เพื่อป้อนช่างแรงงานให้กับดีลเลอร์และผู้แทนจำหน่ายให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยขยายตลาดฟิล์มปกป้องสีรถให้เติบโตมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้